ฉบับที่ 145 กรวดก้อนเดียว มูลค่าเป็นแสน

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะกรวดก้อนเดียวมีมูลค่าเป็นแสนจริงๆณัฎฐา เป็นสาวไทยได้สามีเป็นหนุ่มออสเตรเลีย ทุกๆ ปี จะพาสามีและบุตรสาวกลับมาที่ประเทศไทยเพื่อมาเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่ที่บ้านระหว่างที่อยู่ในประเทศไทย เธอได้พาสามีและลูกสาวไปรับประทานอาหารในร้านอาหารฟูจิ สาขามาบุญครอง วันนั้นมีการสั่งอาหารไปหลายรายการ รวมทั้ง TAKO SASHIMI จังหวะที่กำลังเพลิดเพลินกับรสชาติอาหารเมนูนี้อยู่ ฟันของเธอได้ไปกระทบกับของแข็งที่ปะปนอยู่ใน TAKO SASHIMI อย่างแรง พอคายออกมาถึงเห็นว่ามันเป็นก้อนกรวดขนาดสัก 3 มิลลิเมตร มันใหญ่พอที่จะทำให้ฟันกรามล่างด้านซ้ายซี่หนึ่งแตกหักไปครึ่งซี่ แถมยังมีเลือดปนออกมาด้วยณัฎฐา เรียกผู้จัดการร้านมาทันที ผู้จัดการร้านมาถึงก็กล่าวคำขอโทษพร้อมนำ TAKO SASHIMI มาเปลี่ยนให้ใหม่ แล้วรีบเก็บ TAKO SASHIMI ชามเดิมรวมทั้งก้อนกรวดออกไป พร้อมกับยื่นนามบัตรให้ 1 ใบ กำชับให้ผู้ร้องไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาและมาเก็บค่ารักษาพยาบาลกับทางร้านในภายหลังช่วงเวลาที่เกิดเหตุ เป็นเวลาที่ดึกมากแล้ว คุณณัฎฐาจึงยังไม่ได้ไปพบแพทย์ในคืนนั้น พอรุ่งเช้าจึงไปพบแพทย์ที่คลินิกแห่งหนึ่ง แพทย์ตรวจดูอย่างละเอียดแล้วแจ้งว่า ฟันหักมากควรจะถอนทิ้ง แต่ทีนี้เมื่อถอนฟันกรามด้านล่างแล้วจะต้องถอนฟันกรามด้านบนด้วย เพราะถ้าถอนด้านล่างอย่างเดียวเวลาเคี้ยวอาหารจะเกิดความไม่สมดุลกัน“ถ้าไม่ถอนออกล่ะคะคุณหมอ” เธอถามหาทางเลือก“ถ้าไม่ถอนออก ก็ต้องรักษาไปตามอาการ คือ จะต้องมีการอุดฟันในส่วนที่หักไว้ก่อน แล้วจึงค่อย ทำการรักษารากฟันทีหลัง พร้อมทั้งทำครอบฟันด้วย” คุณหมออธิบายโดยละเอียด เมื่อเห็นทางเลือกในการรักษา ณัฎฐาบอกให้แพทย์รักษาไปตามอาการก่อน เพื่อที่จะกลับไปตัดสินใจอีกครั้งหนึ่งว่าจะถอนฟันทิ้งไปดีหรือไม่วันรุ่งขึ้น เธอเดินทางไปที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ทำการแจ้งความเอาไว้เป็นหลักฐาน และอีกวันหนึ่งต่อมา ณัฎฐาและครอบครัวต้องเดินทางกลับออสเตรเลีย จึงได้ทำการมอบอำนาจให้คุณพ่อของเธอมาดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายแทนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้วันครอบครัวของณัฎฐาอยู่ในบรรยากาศ ซึมกันไปหมดเมื่อกลับไปถึงออสเตรเลียแล้ว เธอแจ้งกลับมาหาคุณพ่อว่า กินอะไรก็ไม่อร่อยเลย เพราะไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้เหมือนปกติ ท้ายที่สุดต้องตัดสินใจถอนฟันซี่ที่แตกหักและซี่ที่เกี่ยวข้อง แต่ค่ารักษาพยาบาลที่ออสเตรเลียนั้นแพงเอาการอยู่ จึงต้องการให้ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังแห่งนี้เยียวยาความเสียหายโดยเร็ว แนวทางแก้ไขปัญหาคุณพ่อของณัฎฐานำเรื่องมาร้องเรียนกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อขอให้ช่วยเรียกค่าเสียหายให้ด้วย หลังรับเรื่องร้องเรียน มูลนิธิฯ ได้มีหนังสือเชิญตัวแทนร้านอาหารฟูจิเพื่อมาเจรจาไกล่เกลี่ยกัน โดยฝ่ายผู้เสียหายขอเรียกค่าเสียหายเป็นเงินรวม 202,246 บาท แบ่งเป็นค่าอาหารมื้อที่สร้างทุกข์ 1,096 บาท ค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นที่จ่ายให้กับคลินิกในประเทศไทย 1,150 บาท ค่าใช้จ่ายในการรักษาฟันที่ออสเตรเลียประเมินแล้วน่าจะอยู่ราว 100,000 บาท และค่าทุกข์ทรมานในการสูญเสียฟัน 100,000 บาทร้านอาหารฟูจิ ได้ทำประกันภัยไว้กับทิพยประกันภัย ทิพยประกันภัยจึงส่งตัวแทนประกันภัยเข้าร่วมเจรจา ท้ายที่สุดได้ข้อตกลงว่าบริษัทจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 110,000 บาท ทางฝ่ายผู้เสียหายเห็นว่าการเยียวยาเป็นไปตามสมควรเพียงพอต่อการรักษาพยาบาลทางร่างกายและจิตใจแล้วจึงยอมยุติเรื่อง ไม่ต้องเสียเวลาเดินเรื่องฟ้องร้องต่อศาลต่อไป

อ่านเพิ่มเติม >