ฉบับที่ 153 ต้นรักริมรั้ว : บ้านเรือนเคียงกันแอบดูทุกวันมองเมียง

เมื่อกล่าวถึงสรรพชีวิตต่างๆ ที่มักเวียนว่ายอาศัยอยู่ในแอ่งน้ำหรือบึงใหญ่ สิ่งมีชีวิตชนิดแรกๆ ที่เรามักจะนึกถึงกันก็คือกบกับบัว ซึ่งเป็นสองชีวิตที่อยู่คู่กันในแอ่งน้ำ และพึ่งพาอาศัยกันและกันในระบบนิเวศดังกล่าว แต่คำถามก็คือ จะเกิดอะไรขึ้นหากกบหรือบัวเริ่มห่างเหินกัน และปันใจใฝ่หาในสายสัมพันธ์เส้นที่ห่างไกลออกไปจากบึงใหญ่นั้น พล็อตคำถามแบบนี้เป็นจุดเริ่มต้นการมองความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไป ที่ไม่ใช่แค่ในระบบนิเวศธรรมชาติ แต่ปรากฏอยู่ในระบบนิเวศทางสังคมของมนุษย์ เรื่องราวดังกล่าวเป็นส่วนผสมของเนื้อเรื่องหลักในละครแนวโรแมนติกคอมเมดี้อย่าง “ต้นรักริมรั้ว” โดยโครงของละครเรื่องนี้ ปูพื้นจากความสัมพันธ์แบบ “บ้านใกล้เรือนเคียง” ของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ที่เป็นเพื่อนเล่นและเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก นั่นก็คือ “กษิดิฐ” หรือ “กบ” สถาปนิกหนุ่มหล่อขี้เล่นแต่พูดจาเหมือนขวานผ่าซาก กับ “นลิน” หรือ “บัว” สาวครีเอทีฟโฆษณาผู้ที่บ้างานจนไม่เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของตนเองเสียเลย ครั้งหนึ่งกบกับบัวเคยแต่งงานกันมาก่อนตามคำสั่งเสียของ “คุณย่ายอแสง” ที่ขอร้องเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่การแต่งงานกันในนาม เพราะทั้งคู่ก็หย่าขาดจากกันหลังจากนั้นเพียงหนึ่งสัปดาห์   ภายหลังจากการหย่า บัวก็ “ปฏิบัติการตามล่าฝัน” ของเธอ มาทำงานในบริษัทโฆษณาภัทรแอดเวอร์ไทซิ่ง ในขณะที่กบก็แยกย้ายไปเรียนต่อต่างประเทศ เพื่อจะกลับมาทำงานเป็นสถาปนิกในบริษัทของครอบครัว และเมื่อมาทำงานในบริษัทโฆษณา บัวก็ต้องเผชิญกับปัญหาสารพัน ตั้งแต่ปัญหาจากเจ้านายอย่าง “อณุกา” ที่ขูดรีดผลประโยชน์ทุกอย่างจากลูกน้อง ปัญหาจาก “ปราณ” สามีเจ้าชู้ของอณุกาที่หวังจะล่วงเกินตัวเธอ ปัญหาจาก “แตงกวา” คู่แข่งทั้งการงานและคู่ปรับศัตรูหัวใจของเธอ ไปจนถึงปัญหาความรักกับหนุ่มหล่อในอุดมคติอย่าง “ติณณ์” ซึ่งบัวเองก็ไม่แน่ใจว่ารักเขาจริงหรือไม่ ในขณะเดียวกัน เมื่อกบเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ สายสัมพันธ์บางอย่างในอดีตก็กลายเป็นเงาที่มาตามหลอกหลอนชีวิตของบัวอีกคำรบหนึ่ง เริ่มต้นตั้งแต่การที่บัวนอนหลับและฝันถึงคุณย่ายอแสง หลังจากที่ไม่เคยฝันถึงท่านมานานมากแล้ว ไปจนถึงการที่ปัญหาในที่ทำงานของบัว ทำให้เธอกับกบต้องจับพลัดจับผลูมาแต่งงานกันในนามอีกครั้ง จนภายหลังกลายเป็นชนวนปัญหาใหม่ให้บัวค่อยๆ เข้าใจว่า ความผูกพันระหว่างเพื่อนบ้านใกล้เคียงเรือนกันอย่างเธอกับกบนั้น เป็นความรักที่เธอเองรอคอยมานานแล้วจริงๆ ด้วยโครงเรื่องที่ผูกปมความรักจากครั้งอดีต และก็มาพลัดพรากกัน ก่อนจะกลับมาลงเอยเป็นความรักกันใหม่แบบนี้ ด้านหนึ่งก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องรักๆ โรแมนติกของหนุ่มสาวโดยทั่วไป แต่อีกด้านหนึ่ง เรื่องรักกุ๊กๆ กิ๊กๆ เช่นนี้แหละ ที่สะท้อนให้เห็นความเปลี่ยนแปลงในสายสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ในสังคมปัจจุบันได้เป็นอย่างดี มุมมองที่สะท้อนมาจากความรักและผูกพันระหว่างตัวละครกบกับบัวนั้น จริงๆ ก็คือภาพสะท้อนวิถีความสัมพันธ์แบบดั้งเดิม เป็นสายสัมพันธ์แบบ “เพื่อนบ้าน” หรือที่ภาษาอังกฤษจะเรียกว่า “neighbourhood” อันเป็นรากความสัมพันธ์อันมีมาแต่ชุมชนในอดีต แน่นอนว่า ในสายสัมพันธ์แบบ “บ้านใกล้เรือนเคียง” เยี่ยงนี้ จะมีด้านที่ทั้งรักกันหวานชื่นบ้าง แบบเดียวกับคุณแม่ทั้งสองของกบกับบัวที่รักใคร่ปรองดองกันอย่างแนบแน่น กับด้านที่กระทบกระทั่งกันบ้าง อย่างในกรณีของคุณพ่อของทั้งสองคน แต่นั่นก็เป็นเพราะว่า “บ้านเรือนเคียงกัน” อยู่ในละแวกเดียวกัน ก็ย่อมต้องมีสายสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและซ้อนทับกันอยู่หลายเส้นนั่นเอง และที่สำคัญ บนความสัมพันธ์แบบเพื่อนบ้านใกล้ชิดเช่นนี้ ผู้คนก็มักจะมีการใช้ระบบอาวุโสเป็นกลไกคอยประสานในทุกครั้งที่คนบ้านใกล้เกิดความขัดแย้งไม่ลงรอยกัน ระบบความคิดเรื่องอาวุโสหรือผู้ใหญ่-ผู้น้อยนี้ สะท้อนอยู่ในตัวละครคุณย่ายอแสง ที่ไม่ได้มีบทบาทแค่ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น แม้แต่เมื่อสิ้นชีวิตไปแล้ว ท่านก็ยังเป็นเสมือนวิญญาณบรรพชนที่มาเข้าฝันคอยเป็นห่วงเป็นใยลูกหลาน และปรับเปลี่ยนความระหองระแหงให้กลายเป็นความเข้าใจกันของตัวละครไปในที่สุด อย่างไรก็ตาม เมื่อทั้งกบและบัวต้องผันมามีชีวิตในสังคมของเอเยนซี่โฆษณา สายสัมพันธ์แบบ “เพื่อนบ้าน” ที่เคยมี ก็เปลี่ยนมาเป็น “เพื่อนร่วมงาน” และก่อรูปเป็นชุมชนแบบที่ทำงานที่ช่างแตกต่างไปจากชุมชนเพื่อนบ้านใกล้เคียงไปโดยสิ้นเชิง ที่แน่ๆ ละครได้สร้างภาพของบริษัทโฆษณาให้เป็นตัวแทนของระบอบทุนนิยม ที่ผู้คนมีแต่ห้ำหั่นกันอย่างไม่ปรานีใคร และตัวละครอย่างบัวที่มาทำงานในระบบเช่นนี้ ก็ต้องประสบกับสภาวะแปลกแยกต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสภาพความแปลกแยกกับงานที่ตัวเองทำ แปลกแยกกับเพื่อนร่วมงานอย่างแตงกวาที่คอยแย่งชิงผลงานกัน แปลกแยกกับนายจ้างที่คอยจ้วงแทงข้างหลังอยู่ตลอดเวลา ไปจนถึงแปลกแยกกับหัวใจของตนเอง จนไม่รู้ว่าผู้ชายอย่างกบหรือติณณ์กันแน่ ที่เป็นคำตอบในหัวใจของเธอ และในท้ายที่สุด หลังจากที่ทนวนว่าย “ใกล้เกลือ” แต่กลับไป “กินด่าง” หรือใช้ชีวิตอยู่กับสังคมที่เต็มไปด้วยความแปลกแยกอย่างบริษัทโฆษณามาเสียนาน แม้บัวอาจจะประสบความสำเร็จในการเป็นครีเอทีฟมือหนึ่งของบริษัทก็ตาม แต่เธอกลับพบว่า “ต้นรักริมรั้ว” แบบกบต่างหาก ที่เป็นคำตอบซึ่ง “อยู่ตรงนี้ไม่ใกล้ไม่ไกลจากใจเธอ...” จริง ๆ เมื่อมองย้อนกลับไปดูความสัมพันธ์ของกบกับบัวแบบนี้แล้ว บางทีความสัมพันธ์ของคนที่ใกล้แต่มักถูกมองข้าม ก็อาจจะเป็นคำตอบของจริงสำหรับผู้คนยุคนี้ ดีกว่าจะไปเสาะหาความสัมพันธ์จากแดนไกล ซึ่งเผลอๆ จะแปลกแยกและไม่คุ้นชิน เพราะความไกลโพ้นที่มากเกินไปจากรั้วบ้านของเรา งานนี้คงไม่ต้องรอให้คุณย่ายอแสงมาเข้าฝันกบกับบัวกันอีกสักรอบนะครับ เพราะสายสัมพันธ์แบบใกล้ๆ ก็คงไม่เกินเอื้อมมือของเขาและเธอทั้งสอง หรืออยู่ใกล้ๆ แม้แต่แค่ชายรั้วบ้านของเราด้วยเช่นกัน

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า250 Point