ฉบับที่ 258 วิธีจัดการสีตกใส่เสื้อผ้าสีขาว

        ฉบับที่แล้วฉลาดซื้อมีวิธีการจัดการกับปัญหากลิ่นของเสื้อผ้าเหม็นอับ มาฉบับนี้ขอต่อเนื่องด้วยวิธีจัดการกับปัญหาเสื้อผ้าสีขาวที่มักโดนสีจากเสื้อสีอื่นๆ ตกใส่มาฝากกันบ้าง         ส่วนใหญ่ปัญหาสีตกใส่ผ้าขาวนั้น สาเหตุมักเกิดจากเวลาที่เราซักผ้าอาจจะลืมแยกผ้าสี ผ้าขาว แล้วนำผ้าทั้งหมดไปแช่และซักรวมกัน  ดังนั้นการป้องกันย่อมดีกว่าการคอยแก้ไข การป้องกันเบื้องต้น มีดังนี้         1.เราควรแยกผ้าสีออกจากผ้าขาวทุกครั้งทำเป็นประจำเพื่อให้ติดเป็นนิสัยยิ่งดี  เพราะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันผ้าสีตกใส่         2. หากซื้อเสื้อผ้ามาใหม่และเป็นเสื้อผ้าสี ให้ลองนำผ้าจุ่มน้ำให้เปียกหมาดๆ และถูที่บริเวณเสื้อ หากมีติดออกมาแสดงว่าต้องรีบนำผ้าแยกออกจากเสื้อผ้าตัวอื่นๆ           3.หากทำตามแบบที่ 2 แล้วยังไม่ชัดเจนให้เอาเสื้อผ้ามาลองแช่น้ำไว้ก่อนเพื่อดูว่าเสื้อผ้าตัวนั้นสีตกหรือไม่ ถ้าตกก็ควรแยกออกจากเสื้อผ้าตัวอื่นๆ เช่นกัน         4. นำเสื้อผ้าสีสดตัวที่ทดลองแช่น้ำแล้วพบว่าสีตกมาแช่ใส่น้ำที่ผสมเกลือทะเลหรือเกลือสมุทร ทิ้งไว้สัก 6 ชั่วโมงหรือข้ามคืน หลังจากนั้นนำไปซักเพื่อใช้งานตามปกติ ทั้งนี้ หากทำตามวิธีดังกล่าวแล้วพบว่าไม่ได้ผลในส่วนของผ้าสีนั้น  อาจจะต้องเพิ่มปริมาณเกลือมากขึ้น ถ้ายังไม่ดีขึ้นควรแยกซักเดี่ยวๆ ไปเลย         แต่ไม่ว่าเราจะมีวิธีป้องกันยังไง ยังไงคนเราก็อาจพลาดกันได้อาจจะลืมบ้างอะไรบ้าง นำเสื้อผ้าสี ผ้าขาวไปปั่นรวมกันในเครื่องซักผ้าจนสีตกใส่ ก็ลองมาดูวิธีการต่อไปนี้         วิธีแรก คือ ถ้าเป็นผ้าขาวที่เพิ่งถูกสีอื่นตกใส่หมาดๆ อาจจะใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าขาวตามท้องตลาดเป็นอย่างแรกผสมกับผงซักฟอกแล้วแช่ผ้าทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วลองดูว่าดีขึ้นไหม         วิธีที่สอง ตั้งหม้อใส่น้ำบนเตาไฟ ต้มให้เดือดจากนั้นใส่ผ้าที่สีตกใส่ลงไป แล้วตามด้วยน้ำส้มสายชู สักประมาณให้ได้กลิ่นฉุนนิดๆ ทิ้งไว้สักพักจนสีที่ตกใส่จางลงจนออกหมดจด จึงนำออกจากหม้อ และแช่น้ำเย็นพักไว้แล้วนำมาซักใช้ได้ตามปกติ การใช้วิธีนี้หลังจากซักแล้วอาจจะยังคงมีกลิ่นของน้ำส้มสายชูติดอยู่จางๆ บ้าง ไม่ต้องกังวลใจไปว่ากลิ่นจะติดไว้ตลอดไป เมื่อซักไปเรื่อยๆ กลิ่นก็จะจางหายไปเอง         วิธีที่สาม นำผงซักฟอก น้ำส้มสายชู ผสมเข้าด้วยกันจากนั้นทาไปบริเวณเสื้อผ้าที่เปื้อน จากนั้นขยี้ที่บริเวณที่เปื้อนและทิ้งไว้ซักพักประมาณ 15-20 นาที หรือมากกว่านั้นก็ได้ หลังจากนั้นนำมาซักและใช้งานได้ปกติ           ทั้งนี้  วิธีต่างๆ ข้างต้น ควรต้องระวังเกี่ยวกับเนื้อผ้าด้วย เนื่องจากลักษณะผ้าบางชนิดอาจจะไม่เหมาะสำหรับใช้น้ำร้อนในการซัก ให้มั่นสังเกตตรงป้ายเสื้อไว้ เพราะมีสัญลักษณ์สำหรับวิธีการใช้ที่ถูกต้อง และเพื่อป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าเสียหายมากกว่าเดิม นอกจากนี้ ต้องระวังเรื่องส่วนผสมแปลกๆ ที่นำมามิกซ์กันด้วย เพราะบางอย่างอาจสั่งซื้อมาตามอินเทอร์เน็ตเพื่อความสะดวกสบาย แต่ผลิตภัณฑ์นั้นอาจไม่ได้มาตรฐานหรือมีสารเคมีที่ห้ามผสมรวมกับสารอื่นๆ ดังนั้น ควรอ่านฉลากก่อนใช้เพื่อความปลอดภัย ข้อมูลจาก  สุดยอดแม่บ้าน : ป้องกันเสื้อผ้าสีตก  https://www.youtube.com/watch?v=SEADSA7qyzohttps://www.cleanipedia.com/thhttps://homeguru.homepro.co.th/6-ways-to-restore-fading-clothes/

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 187 เพื่อนบ้านเป็นโรงงานส่งเสียงดัง หรือเลี้ยงสุกรมีกลิ่นเหม็น

เพื่อนบ้านเป็นโรงงานส่งเสียงดัง หรือเลี้ยงสุกรมีกลิ่นเหม็นเราจะคุ้มครองสิทธิตนเองอย่างไรเมื่อพูดถึงการคุ้มครองสิทธิด้านที่อยู่อาศัยของตนเอง เพื่อให้ได้อยู่ในที่อยู่อาศัยหรือสิ่งแวดล้อมที่ดี ถือเป็นสิทธิผู้บริโภคสากลที่สำคัญ เพราะเกี่ยวข้องกับปัจจัยสี่ของเรา  และกฎหมายไทยเราก็มีการเขียนเรื่องนี้ไว้ว่า ใครก็ตามจะใช้สิทธิ หากทำให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์เดือดร้อนเกินไปกว่าปกติ เจ้าของอสังหาริมทรัพย์นั้น มีสิทธิจะปฏิบัติการเพื่อจัดการความเดือดร้อน ทั้งนี้ไม่ลบล้างสิทธิที่จะเรียกเอาค่าทดแทนเพื่อให้เห็นภาพชัด ก็ขอยกตัวอย่างคดีหนึ่ง โจทก์เป็นเจ้าของบ้านหลังหนึ่ง และบังเอิญเพื่อนบ้านเปิดฟาร์มเลี้ยงสุกร อยู่ไปอยู่มาดูแลไม่ดี เพราะต่อมาได้เลี้ยงสุกรมากขึ้นจึงได้ใช้ผ้าพลาสติกคลุมคอกสุกรแล้วใช้พัดลมดูดเอากลิ่นเหม็นสิ่งปฏิลออกจากคอกสุกรส่งผลให้มีกลิ่นเหม็นรบกวนสุขภาพและอนามัยของโจทก์ เขาทนไม่ไหว ก็ไปฟ้องคดี ให้เพื่อนบ้านกำจัดสิ่งเน่าเหม็น และย้ายที่เลี้ยงไปที่อื่น  ศาลก็ตัดสิน โดยใช้หลักกฎหมายดังกล่าว ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1639/2555 และคำพิพากษาศาลฎีกาที่  8309/2548คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1639/2555ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1337 บัญญัติไว้ในกรณีที่บุคคลหนึ่งบุคคลใดใช้สิทธิของตนจนเป็นเหตุให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้รับความเสียหาย หรือได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่น เสียง แสงสว่าง หรือมลภาวะใดๆเกินกว่าที่บุคคลทั่วไปจะทนได้ เจ้าของอสังหาริมทรัพย์นั้นมีสิทธิกระทำการเพื่อป้องกันความเสียหายหรือเดือดร้อนนั้นให้สิ้นไป อันเป็นการคุ้มครองสุขภาพอนามัยของเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความเสียหายหรือเดือนร้อนจากกลิ่น เสียง แสงสว่าง หรือมลภาวะนั้นให้มีสุขลักษณะที่ดิน โดยคำฟ้องของ ผ.มีคำขอให้ ฉ.กำจัดสิ่งปฏิกูลที่รบกวนสุขภาพอนามัยของ ผ.ด้วย แสดงให้เห็นว่าการขจัดความเดือนร้อนที่ ผ.ได้รับอาจทำได้โดยวิธีอื่น หาใช้ต้องขับไล่ ฉ.ตามฎีกาของ ผ. ดังนั้น ที่ ผ.ฎีกาขอให้ขับไล่ ฉ.ให้ขนย้ายสุกรไปเลี้ยงให้ห่างไกลจากบ้านของ ผ.จึงเป็นวิธีการที่เกินกว่าความจำเป็นที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ผ.ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่า อบต.ออกข้อบัญญัติอย่างไร รวมทั้งไม่นำสืบว่า ฉ.ฝ่าฝืนข้อบัญญัติดังกล่าวอย่างไร คำขอของ ผ.ที่ให้ ฉ.กำจัดสิ่งเน่าเหม็นอันเกิดจากมูลสุกรเป็นคำขอที่ไม่ชัดเจนพอที่จะบังคับให้ ฉ.ปฏิบัติได้ ศาลฎีกาเห็นว่า เจตนารมณ์ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1337 เป็นคนละปัญหากับการดำเนินการของเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่จะเข้าแก้ไข คำขอของ ผ.ไม่มีความหมายกว้างเกินไปและไม่ชัดเจนพอที่ ฉ.จะปฏิบัติได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง ผ. ศาลฎีกาไม่เห็นด้วยพิพากษาแก้เป็นว่า ให้ ฉ.กำจัดสิ่งปฎิกูลเน่าเหม็นอันเกิดสจากมูลสุกรที่ ฉ.เลี้ยงไว้คำพิพากษาที่ 8309/2548การประกอบกิจการของจำเลยทั้งสองก่อให้เกิดเสียงดังและส่งกลิ่นเหม็นรบกวนสิทธิที่จะอยู่อาศัยในเคหะสถานของโจทก์ทั้งสองโดยปกติสุข โจทก์ทั้งสองย่อมมีสิทธิที่จะปฏิบัติการเพื่อยังความเสียหาย หรือเดือดร้อนรำคาญให้สิ้นไป ได้แก่ การดำเนินการให้จำเลยทั้งสองหยุดการกระทำที่ก่อให้เกิดเสียงดังและส่งกลิ่นเหม็นหรือหาวิธีป้องกันมิให้เกิดเสียงดังและส่งกลิ่นเหม็นอันเป็นการละเมิดต่อสิทธิของโจทก์ทั้งสองเมื่อศาลมีคำพิพากษาห้ามมิให้จำเลยทั้งสองกระทำการใดๆ ที่ก่อให้เกิดเสียงดังและพ่นสีส่งกลิ่นเหม็นสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่โจทก์ทั้งสองแล้ว หากจำเลยทั้งสองมิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล โจทก์ทั้งสองชอบที่จะให้บังคับคดีได้ ซึ่งย่อมทำให้ความเสียหายหรือเดือดร้อนรำคาญจากเสียงดังและกลิ่นเหม็นนั้นระงับสิ้นไป ไม่เป็นการละเมิดต่อสิทธิของโจทก์อีกต่อไปการตั้งโรงงานของจำเลยทั้งสอง แม้จะเป็นการฝ่าฝืนต่อ พ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ. 2535 และสมควรจะย้ายไปตั้งในนิคมอุตสาหกรรมตามที่โจทก์อ้างมา ก็เป็นเรื่องที่จำเลยทั้งสองกระทำผิดต่อรัฐ พนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจหน้าที่กำกับและดูแลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย โจทก์ทั้งสองไม่มีสิทธิขอให้จำเลยทั้งสองย้ายโรงงานไปอยู่ที่อื่นค่าใช้จ่ายในการป้องกันเสียงดังและระงับกลิ่นเหม็น อันได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเครื่องปรับอากาศในบ้านโจทก์ทั้งสอง ค่าใช้จ่ายในการกู้เงินมาสร้างบ้านอีกหนึ่งหลัง และค่าใช้จ่ายที่ต้องจ้างคนเฝ้าบ้านนั้น มิใช่ผลธรรมดาที่เกิดจากเหตุกระทำละเมิดของจำเลยทั้งสอง แต่เป็นความเสียหายที่ไกลเกินเหตุ ซึ่งจำเลยทั้งสองไม่ต้องรับผิด

อ่านเพิ่มเติม >