ฉบับที่ 245 กระแสต่างแดน

แบรนด์ที่ไว้ใจ        ขยะอิเลคทรอนิกส์ที่กำลังจะล้นโลกส่วนหนึ่งมาจากอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จากเราไปก่อนเวลาอันควรและไม่คุ้มที่จะซ่อมกลับมาใช้ต่อ สิ่งหนึ่งที่ผู้บริโภคพอจะทำได้คือ เลือกแบรนด์ที่ทำผลิตภัณฑ์ได้มีประสิทธิภาพและใช้งานได้นาน แล้วใครล่ะที่เราเชื่อถือได้         องค์กรผู้บริโภคของสหรัฐอเมริกา Consumer Reports (CR) ได้สำรวจและจัดอันดับ “ความน่าเชื่อถือ” ของแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องล้างจาน เตาไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า และเครื่องอบผ้า เป็นต้น โดยใช้คะแนนจากความเห็นของสมาชิก         ในการสำรวจครั้งที่สามนี้มีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกอ้างอิง 760,000 ชิ้น ที่ผู้บริโภคซื้อในระหว่างปี 2010 และ 2020 และแบรนด์ที่ถูกนำมาจัดอันดับนั้นคือแบรนด์ที่มีเครื่องไฟฟ้าออกมาจำหน่ายอย่างน้อยสองประเภท สิบอันดับแรกได้แก่ Speed Queen  LG  Café’  Ikea  Thermador  Bosch Miele  GE  Roper และ Signature Kitchen Suite ส่วนยี่ห้อที่เรารู้จักกันอย่าง Whirlpool  KitchenAid และ Samsung นั้นเข้ามาที่อันดับ 11, 17 และ 20 ตามลำดับ รู้แต่ไม่เข้าใจ?        การสำรวจความเข้าใจเรื่อง “ยาปฏิชีวนะ” ในหมู่ประชากรยุโรปในปี 2018 พบว่าคนส่วนใหญ่รู้ว่ายาปฏิชีวนะ (ที่หลายคนเรียกติดปากว่า ยาแก้อักเสบ) รักษาโรคหวัดไม่ได้ และรู้ด้วยว่าหากใช้พร่ำเพรื่อจะทำให้ยาใช้ไม่ได้ผล         นอกจากนี้ยังรู้ว่ามีผลข้างเคียง และควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น         แต่เมื่อถามถึงประสิทธิภาพของยาปฏิชีวนะในการฆ่าไวรัส ร้อยละ 48 ตอบว่ายาปฏิชีวนะสามารถ “ฆ่าไวรัสได้” ในขณะที่ร้อยละ 43 ตอบว่า “ฆ่าไม่ได้” ที่เหลืออีกร้อยละ 9 ตอบว่า “ไม่รู้”แต่ละปียุโรปมีการติดเชื้อจากแบคทีเรียดื้อยาไม่ต่ำกว่า 670,000 เคส มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 33,000 คน ส่งผลให้เกิดภาระทางการเงินต่อระบบสุขภาพไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันล้านยูโร         มีการคาดการณ์ว่าในปี 2050 ผู้คนจะเสียชีวิตจากแบคทีเรียดื้อยามากกว่าโรคมะเร็ง            ขณะนี้ประเทศที่มีอัตราการตายจากแบคทีเรียดื้อยาสูงที่สุดในยุโรปคืออิตาลี ตามด้วยฝรั่งเศส ในขณะที่กรีซ ไซปรัส และสเปน เป็นประเทศที่มีการใช้ยาปฏิชีวนะมากที่สุดตามลำดับ   โควิดช่วยเพิ่มยอด        การศึกษาตัวเลขยอดขายยาปฏิชีวนะในอินเดีย โดยคณะวิจัยจากอเมริกาและแคนาดาพบว่ายอดสั่งซื้อยาปฏิชีวนะจากโรงพยาบาลเอกชนเพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงโควิด-19 ระบาด         ปี 2019 มีการใช้ยาปฏิชีวนะในผู้ใหญ่เพิ่มขึ้นร้อยละ 72.5 ในขณะที่ปี 2020 มีการเพิ่มขึ้นร้อยละ 76.8         นักวิจัยคาดว่ามีการใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็นไปประมาณ 216 ล้านโดส หรือพูดง่ายๆ ข้อมูลนี้ทำให้ตีความได้ว่าผู้ป่วยทุกคนที่ถูกวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิดจะได้รับยาปฏิชีวนะนั่นเอง         และเมื่อเจาะจงไปที่ยาอซิโตรมัยซิน (ที่ใช้รักษาไทยฟอยด์หรือท้องร่วง) ก็พบว่ามีการใช้ถึง 38 ล้านโดส ในระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกันยายน ปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการระบาดหนัก         น่าสังเกตว่าขณะที่การใช้ยาปฏิชีวนะในกลุ่มประเทศตะวันตกมีแนวโน้มลดลงเพราะคนไม่ค่อยเป็นหวัด ติดต่อพบปะกันน้อยลง ยกเลิกนัดทำฟันหรือการผ่าตัดเล็กอื่นๆ ที่ไม่จำเป็น แต่แนวโน้มการใช้ในอินเดียกลับเพิ่มขึ้นทั้งๆ ที่โรคอย่างมาลาเรีย ไข้เลือดออก หรือโรคชิคุนกุนยาก็ลดลงแล้ว  ไหนเล่ามาซิ        สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินของสิงคโปร์ ขอคำอธิบายด่วนหลังพบว่ามีอุปกรณ์ฟิตเนสแทรคเกอร์ 341,208 ชิ้น รวมมูลค่าห้าล้านเหรียญสิงคโปร์หรือประมาณ 120 ล้านบาท ยังไม่ถูกนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนตามโครงการส่งเสริมสุขภาพ National Steps Challenge ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2015         อุปกรณ์ที่ราคาระหว่าง 10 ถึง 25 เหรียญ เหล่านี้อยู่ในสภาพที่ใช้งานแทบไม่ได้ มีราขึ้นทั้งสายและหน้าปัด และการรับประกันจากผู้ผลิตบางรุ่นก็หมดแล้ว บางรุ่นก็จะหมดสิ้นปีนี้ ยังไม่นับว่าเทคโนโลยีที่ใช้ก็อาจจะเก่าเกินไปแล้ว         หนักไปอีกเมื่อไม่พบว่าใครเป็น “เจ้าภาพ” ทำหน้าที่จัดทำสต็อคหรือบันทึกการแจกจ่ายผ่านทางอีเวนท์ต่างๆ และสตง. ยังพบว่ามีอุปกรณ์ดังกล่าวหายไปจากสต็อคอย่างไร้ร่องรอยถึง 17,909 เครื่อง (คิดเป็นมูลค่า 720,000 เหรียญ)         ผู้เข้าร่วม “โครงการนับก้าว” สามารถเอาคะแนนที่สะสมจากการออกกำลังกายมาแลกเป็นสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบการได้โดยรัฐเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย โครงการเขาช่างจูงใจเหลือเกิน แม้แต่คนที่ตายไปแล้วก็ยังมาสมัครกันถึง 136 คน!!  อยากให้รีบสั่งเลย        ปีนี้คนออสซี่ต้องรีบคิดให้ตกว่าจะซื้อของขวัญอะไรให้เพื่อนหรือญาติในคริสต์มาสที่จะถึง... ในอีกห้าเดือนข้างหน้า คิดได้แล้วก็ต้องลงมือสั่งทันที ผู้ประกอบการเขาออกมาเตือนด้วยความหวังดี         อย่าลืมว่านักช้อปออนไลน์มีจำนวนมหาศาล ในขณะที่การขนส่งระหว่างประเทศมีข้อจำกัดมากขึ้นทำให้ต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นจาก 3 เดือนเป็น 6 เดือน บริษัทขนส่งทางเรือที่เคยมีดำเนินการอยู่ 24 เจ้าก็ลดเหลือแค่ 13 เจ้าในช่วงที่มีโรคระบาด         ไหนจะปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ หรือการปิดโรงงานในประเทศต้นทางเพราะพนักงานติดโควิด-19 อีก         ยิ่งถ้าต้องการสินค้าแบบเจาะจงแบรนด์ก็ยิ่งต้องรีบ โดยปกติแล้วร้อยละ 80 ของสินค้าที่ส่งทางเครื่องบินมายังออสเตรเลียนั้นจะนั่งมาสวยๆ ใต้ท้องเครื่องบินโดยสาร (ค่าเฉลี่ยของทั้งโลกอยู่ที่ร้อยละ 50) แน่นอนว่ามีเที่ยวบินโดยสารน้อยลงเพราะปัจจุบันออสเตรเลียยอมให้มีการเดินทางเข้าประเทศได้แค่ 3,035 คนต่อสัปดาห์เท่านั้น (จากเดิม 6,070 คน) สรุปว่ารีบได้รีบ

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 238 ของขวัญที่ให้ แน่ใจแล้วหรือ?

        ในยุคที่คนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพ ช่วงเทศกาลทีไร ผมมักจะได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคเกี่ยวกับอันตรายที่เกิดจากผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ได้รับเป็นของขวัญ ทั้งๆ ที่ผู้ให้ก็ตั้งใจจะมอบสิ่งดีๆ ต่อสุขภาพแก่ผู้รับ แต่บางครั้งของขวัญที่ให้อาจเกิดผลกระทบที่คาดไม่ถึง มีตัวอย่างและคำแนะนำเบื้องต้นในการตัดสินใจเลือกของขวัญเพื่อให้ผู้รับเกิดความปลอดภัยดังนี้         1.ผลิตภัณฑ์อาหารบำรุงสุขภาพหรือที่เรียกว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นผลิตภัณฑ์ที่นิยมให้เป็นของขวัญกันมาก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อาหารที่กล่าวอ้างสรรพคุณในด้านการบำรุงหรือรักษาโรค เคยมีกรณีที่ลูกชายซื้อผลิตภัณฑ์โสมสกัดมาเป็นของขวัญให้คุณแม่ โดยลืมนึกไปว่าคุณแม่มีโรคประจำตัวคือความดันโลหิตสูง ส่วนคุณแม่แม้เคยได้รับคำเตือนว่า โสมอาจมีผลทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น แต่เห็นว่าลูกชายอุตส่าห์ซื้อมาให้แล้ว ก็เลยรับประทานต่อเนื่องไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ต้องไปโรงพยาบาล เพราะความดันโลหิตสูงขึ้นแบบคุมไม่อยู่         2. วิตามินต่างๆ เป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่หลายคนนิยมซื้อให้ผู้ใหญ่ที่เคารพ เพราะเชื่อว่าจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ก็เคยมีกรณีที่ผู้ที่รับบางคน รับประทานไปแล้วเกิดอาการแพ้วิตามิน หรือวิตามินบางชนิดเมื่อรับประทานพร้อมกับอาหารหรือยาบางประเภท ก็จะเกิดปฏิกิริยาเพิ่มหรือลดคุณภาพของตัวมันเองหรือยา ที่ผู้รับประทานไปด้วย      ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของผู้รับจึงไม่ควรซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือวิตามินให้เป็นของขวัญ โดยขาดข้อมูลเบื้องต้น เพราะอาจส่งผลต่อสุขภาพได้ หากอยากจะให้เป็นของขวัญจริงๆ ควรมีข้อมูลว่าผู้รับเคยรับประทานผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นประจำหรือไม่ ถ้าไม่แน่ใจไม่ควรให้เป็นของขวัญ นอกจากนี้ต้องตรวจสอบฉลากของผลิตภัณฑ์ว่า มีรายละเอียดต่างๆ ครบถ้วนหรือไม่ และต้องระวังด้วย หากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอวดอ้างสรรพคุณในการรักษาโรค นอกจากจะผิดกฎหมายแล้วจะยิ่งเกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพด้วย หนำซ้ำถ้าผู้รับนำไปใช้อย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่เกิดอันตรายแต่ก็จะทำให้เขาเสียเงินโดยไม่จำเป็นในระยะยาวด้วยเช่นกัน         3. ยาสามัญประจำบ้าน แม้จะเป็นยาที่ค่อนข้างมีความปลอดภัย เหมาะที่จะมีติดไว้ประจำบ้าน แต่ก็พบว่ายาสามัญประจำบ้านที่จัดไว้เป็นชุดขายสำเร็จรูปนั้น ยาบางตัวผู้รับแทบไม่ได้นำไปใช้เลย เพราะไม่มีความจำเป็นสุดท้ายเมื่อหมดอายุก็ต้องนำไปทิ้ง   หากจะซื้อยาสามัญประจำบ้านให้เป็นของขวัญ ควรเลือกรายการยาที่ผู้รับจำเป็นจะต้องใช้ หรือควรมีไว้ติดบ้านจริงๆ โดยอาจปรึกษารายการยากับเภสัชกรประจำร้านยาก็ได้         4. หนังสือหรือสื่อความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ เป็นอีกสิ่งที่ผู้คนชอบซื้อให้เป็นของขวัญ แต่เคยพบว่าผู้บริโภคบางคนที่ได้รับหนังสือความรู้ด้านสุขภาพ และนำมาสอบถามข้อมูล ปรากฎว่าหนังสือนั้นกลับให้ข้อมูลสุขภาพผิดจากข้อเท็จจริงเยอะมาก มีคำแนะนำในการเลือกซื้อหนังสือหรือสื่อความรู้เกี่ยวกับสุขภาพที่จะให้เป็นของขวัญว่า ควรเลือกจากผู้จัดทำที่เป็นองค์กรหรือหน่วยงานทางด้านวิชาการ มีตัวตนหลักแหล่งที่ชัดเจน รวมทั้งมีบทบาทในการสร้างสุขภาพจนเป็นที่ยอมรับ

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 227 เกือบเสียความสัมพันธ์ เพราะของขวัญปีใหม่

        เทศกาลปีใหม่ เรามีธรรมเนียมการมอบของขวัญปีใหม่ให้แก่ญาติ หรือเพื่อนๆ เพื่อมิตรภาพและความสัมพันธ์อันดีของกันและกัน ซึ่งห้างร้านต่างๆ ก็จัดเซตของขวัญไว้ให้ผู้บริโภคจับจ่ายเป็นของขวัญปีใหม่ให้เลือกมากมาย         ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน คุณภูผาเห็นว่าใกล้เทศกาลปีใหม่ จึงไปเดินเลือกซื้อของขวัญปีใหม่ไว้มอบให้ญาติผู้ใหญ่ของแฟนที่ร้านค้าแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง เมื่อเดินเลือกดูเรื่อยๆ เห็นว่า ชุดของขวัญน้ำผักผลไม้แพคคู่ของบริษัทหนึ่งน่าสนใจ เหมาะเป็นของขวัญผู้ใหญ่ แพคเก็จสวยงาม เมื่อดูวันหมดอายุแล้วก็เหลือมากกว่า 6 เดือน จึงสั่งซื้อไปจำนวน 30 ชุด ราคา 2,970 บาท        เมื่อสั่งชุดใหญ่พนักงานเลยเอาลังใหม่ให้ คุณภูผาก็แบกกลับบ้านไปให้แม่แฟนไว้แจกเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับญาติผู้ใหญ่ ช่วงปีใหม่คุณแม่ของแฟนคุณภูผาก็นำชุดของวัญน้ำผักผลไม้ไปมอบให้กับญาติที่เคารพ แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้น ญาติบอกมาว่าน้ำผักผลไม้ที่นำไปมอบให้หมดอายุตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว คุณภูผารู้สึกว่าการกระทำของร้านค้าเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค และเสียใจที่นำของหมดอายุไปมอบให้กับญาติของแฟน ทำให้คุณแม่ของแฟนถูกญาติมองไม่ดี อีกทั้งยังทำให้ตนเองเข้าหน้ากับคุณแม่ของแฟนไม่ค่อยติดจากการซื้อชุดของขวัญหมดอายุ          เมื่อทราบเรื่องคุณภูผาก็ติดต่อไปยังร้านค้าที่ซื้อชุดของขวัญ เพื่อให้ร้านค้ารับผิดชอบ ร้านค้าบอกให้เขานำสินค้าไปเปลี่ยนที่ร้าน คุณภูผาคิดว่า “ทำไมเขาต้องนำสินค้าเขาไปเปลี่ยนที่ร้านค้า เพราะเขาต้องเสียเวลา เสียทั้งค่าน้ำมันรถไปเปลี่ยนสินค้า ในเมื่อการจำหน่ายสินค้าหมดอายุไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเขา” ในฐานะที่เขาเป็นผู้บริโภคร้านค้าควรรับผิดชอบเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น เขาต้องการแค่ขอให้ร้านค้าออกหนังสือขออภัยต่อเขากับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้นำไปสื่อสารกับแม่แฟน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงร้องเรียนมายังมูลนิธิ คุณภูผาได้แจ้งไปยังเฟซบุ๊กของบริษัทน้ำผลไม้ด้วย แนวทางแก้ไขปัญหา         ศูนย์พิทักษ์สิทธิฯ แจ้งผู้ร้องว่าการจำหน่ายอาหารหมดอายุ เป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา 25 (4) ประกอบมาตรา 29 ซึ่งถือได้ว่าการจำหน่ายอาหารหมดอายุ เป็นอาหารที่ไม่ปลอดภัยในการบริโภค และบทลงโทษอยู่ในมาตรา 61 ระบุให้ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เบื้องต้นแนะนำให้ผู้ร้องไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐาน และนัดเจรจาระหว่างคู่กรณีเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน         ในวันนัดประชุมมีผู้ร้อง ตัวแทนร้านค้า และตัวแทนบริษัทน้ำผลไม้เข้าร่วมประชุมด้วย ตัวแทนบริษัทขอร่วมรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ชุดของขวัญของบริษัท และรู้สึกว่าตนเองมีส่วนผิดเนื่องจากไม่เก็บผลิตภัณฑ์ที่หมดอายุจากร้านค้าที่จำหน่าย ผู้ร้องจะได้รับผลิตภัณฑ์น้ำผักผลไม้ชุดของขวัญปีใหม่จำนวน 30 ชุด และหนังสือขออภัยจากบริษัทอีกหนึ่งฉบับ ภายหลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ร้องเพียงไม่กี่วัน         ในส่วนร้านค้าแสดงความรับผิดชอบกับผู้ร้อง โดยมอบหนังสือขออภัยหนึ่งฉบับ กิ๊ฟวอยเชอร์ 3,000 บาท และเงินชดเชยเยียวยาตามผู้ร้องเสนอ ผู้ร้องบอกว่ามีหนังสือขออภัยจากบริษัทแล้วไม่เป็นไร และขอเป็นเงินค่าสินค้า 2,970 บาท และเงินค่าเยียวยาอีก 40,000 บาท เพื่อจะนำไปจัดทริปกับครอบครัวแฟน คุณแม่แฟน กระชับความสัมพันธ์ ร้านค้ายินดีทำตามที่ผู้ร้องเสนอ เพราะว่าเป็นความผิดพลาดของทางร้านและขออภัยผู้ร้องด้วย

อ่านเพิ่มเติม >


ฉบับที่ 118 ปลอดภัยปีใหม่ เตือนภัยผู้อ่าน

ช่วงเทศกาลปีใหม่ ผู้อ่านหลายท่านคงได้ของขวัญกันบ้างแล้ว โอกาสนี้เภสัชกรจนๆ อย่างกระผมไม่รู้จะหาอะไรมามอบเป็นของขวัญให้ผู้อ่านได้ทั่วถึง เลยถือโอกาสมอบข้อมูลเตือนภัยแบบรวมมิตร แด่ผู้อ่านทุกท่านเพื่อความปลอดภัย จะได้ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายครับ กาแฟลดความอ้วนจากจีน ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้เป็นกาแฟที่ซัดเซพเนจรมาจากจีน แต่อย่าไปสงสารครับ เพราะมันลักลอบนำเข้ามาโดยไม่ได้ขออนุญาต อย. แถมยังมีข้อความภาษาไทยท้าทายกฎหมาย โดยระบุโต้งๆ บอกว่าเผาไขมัน 26 วัน สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานีพบ จึงส่งตรวจวิเคราะห์เบื้องต้น ปรากฏว่า ผสมซาลบูทามีน ซึ่งเป็นยาอันตราย (ตัวที่เคยเป็นข่าวว่านักเรียน ม.6 จากนนทบุรีเสียชีวิต ภายหลังจากการรับประทานผลิตภัณฑ์ลดความอ้วนที่ผสมสารตัวนี้มาแล้วไง จำได้หรือเปล่าครับ) แว่วว่ากำลังขายดิบขายดีแถวๆ ตลาดกิมหยงและโรงเกลือ   ยาแผนโบราณแต่ดันแถมสเตียรอยด์ พนักงานโรงงานแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งยืนทำงานต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ได้ซื้อมารับประทานแก้อาการปวดตาม ข้อเข่าและขา โดยรับประทานติดต่อกันมานานแล้ว ระยะหลังๆ เพื่อนร่วมงานชักสังเกตเห็นว่าไฉนเพื่อนเรามีราศีจับแบบแปลกๆ ผิดปกติ คือ หน้าเริ่มบวม และร่างกายอ่อนแอ เจ็บป่วยบ่อยๆ จึงส่งยามาให้ สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยาตรวจสอบ ผลพบว่า ยานี้มีเลขทะเบียนยาถูกต้อง แต่ฉลากและบรรจุภัณฑ์กลับไม่ถูกต้อง และเมื่อใช้ชุดทดสอบเบื้องต้นของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจ กลับพบว่ามีสเตียรอยด์ผสมอยู่ ข่าวว่ายาดังกล่าวมีขายทางวิทยุชุมชนบางสถานีและขายตรงจากตัวแทนจำหน่าย ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ   สมุนไพรไทย ก็ดันใส่สเตียรอยด์ ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ ไม่มีเลขทะเบียนยานะครับ (แสดงว่าไม่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้อง) แต่กลับมีตัวแทนจำหน่าย โดยมักจะเร่ไปเสนอขายตามร้านค้าในชุมชนและร้านขายยา สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยาใช้ชุดทดสอบเบื้องต้นตรวจสอบ ก็พบว่ามีสเตียรอยด์ผสมอยู่เช่นกัน       ยาน้ำสามัญประจำบ้านแผนโบราณก็บริการสารสเตียรอยด์ ผลิตภัณฑ์นี้มาเป็นข่าวดังเพราะมีคุณครูท่านหนึ่งซึ่งป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ ได้ซื้อมาจากเพื่อนครูด้วยกัน (ที่เป็นตัวแทนจำหน่าย) ยาชนิดนี้กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ข้าราชการครูและครอบครัว ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อคุณครูท่านนี้รับประทานแล้วอาการภูมิแพ้หาย จึงเริ่มสงสัยว่าปลอดภัยหรือไม่ เลยส่งต่อมายังสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้ตรวจสอบ ผลปรากฎว่าฉลากมีเลขทะเบียนยาถูกต้อง แต่เมื่อใช้ชุดทดสอบเบื้องต้นของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจ กลับพบว่ามีสเตียรอยด์ผสมอยู่ อีกแล้ว   วิธีการขายของผลิตภัณฑ์ 3 ชนิดหลังนี้จะคล้ายๆ กัน คือจะขออนุญาตเลขทะเบียนยาอย่างถูกต้อง แต่เวลาขายอาจจะทำผลิตภัณฑ์อีกรูปแบบหนึ่ง ช่องทางที่ขายส่วนใหญ่จะมีตัวแทนขายเพื่อเจาะลึกเข้าไปในชุมชน บางส่วนขายผ่านทางวิทยุชุมชน พอตรวจเจอก็อ้างว่าเป็นของปลอม ยังไงถ้าใครเจอช่วยแจ้งสาธารณสุขจังหวัดด้วยนะครับ ถือว่าเป็นของขวัญแด่ผู้บริโภคท่านอื่นๆ ร่วมกันด้วยครับ สวัสดีปีใหม่ ปลอดภัยนะครับ

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 106 ของขวัญไอทีรับปีเสือยิ้ม

ปีใหม่นี้ หากคุณอยากซื้ออุปกรณ์ไอทีดีๆ สักชิ้นเพื่อเป็นของขวัญให้ตัวเองหรือคนที่คุณรัก แต่ยังไม่รู้ว่าจะซื้ออุปกรณ์อะไร ยี่ห้อหรือรุ่นไหนเพื่อจะให้ “คุ้ม” กับเงินและมี “ค่า” กับผู้รับที่สุด ฉลาดซื้อฉบับนี้ยินดีนำเสนอตัวเลือกเด็ดๆ ที่คัดสรรมาแล้วผลทดสอบตลอดปีให้คุณ   สำหรับใครที่ชอบท่องโลกไซเบอร์เราขอแนะนำ แอปเปิ้ล “iPhone 3GS” โทรศัพท์ที่ให้คุณมากกว่าดีไซน์เก๋ เพราะมาพร้อมระบบดาวเทียมค้นหาตำแหน่งรองรับโปรแกรม Google Maps และเข็มทิศดิจิตอล กล้องดิจิตอล 3 ล้านพิกเซลที่สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหว ใช้งานอินเตอร์เน็ต Full HTML รับ-ส่งข้อความอีเมล์ เอาใจคนชอบฟังเพลงด้วยเครื่องเล่นเพลง iPod รองรับชุดหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. ที่สำคัญคือมีความทนทานและมีประสิทธิภาพการใช้พลังงาน(แบตเตอรี่)ในระดับดีมาก นอกจากนี้ยังรองรับระบบ 3G ที่กำลังเริ่มใช้ในเมืองไทย แต่เพราะมีกล้องหลังตัวเดียวจึงอาจใช้งาน video call ได้ยากสักหน่อย 16GB 24,500 บาท และ32GB 28,500 บาท “โนเกีย N97” คงถูกใจผู้รักการฟังเพลงและการส่งเอสเอ็มเอสเป็นชีวิตจิตใจ เพราะได้คะแนนในด้านนี้ไปถึง 5 ดาว แถมยังได้คะแนนเรื่องประสิทธิภาพการใช้พลังงานในระดับดีมาก มาพร้อมจอสัมผัส TFT-LCD 16 ล้านสี - 360 x 640 พิกเซล (3.5") แป้นพิมพ์คีย์บอร์ด QWERTY เครื่องเล่นเพลงรองรับไฟล์เสียง MP3, AAC, eAAC, eAAC+, WMA กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวและกล้องตัวที่ 2 รองรับระบบ video call ราคา 23,730 บาท มอบความปรารถนาดีให้คนที่คุณรัก“โทรไม่ถือ”ขณะขับรถ ด้วยอุปกรณ์บลูทูธ “Jabra BT500v” ได้คะแนนความสบายในการสวมใส่และการใช้โดยทั่วไปในระดับดีมาก สนทนาต่อเนื่องได้ 12 ชั่วโมง และเปิดรอรับสายได้นาน 300 ชั่วโมง สามารถโทรออกด้วยเสียง โทรออกเบอร์โทรล่าสุด ปฏิเสธสาย พักสาย รับสายเรียกซ้อน ระยะรับสัญญาณ 10 เมตร น้ำหนัก 19.4 กรัม ราคา 2,490 บาท ส่วนผู้ที่อยากใช้บลูทูธมากกว่าการโทรออกหรือรับสาย หูฟังสเตอริโอ “โซนี่ อีริคสัน HBH-DS970” จะตอบสนองความต้องการของคุณ บลูทูธที่สามารถฟังเพลงด้วยปลั๊กสองหู เรียกดูเพลงได้ และมีรีโมตควบคุมระดับเสียงเพลง ส่วนฟังก์ชั่นการโทรก็ไม่น้อยหน้า มีระบบการโทรด้วยเสียง การจัดการสายที่สอง โทรซ้ำและแสดงหมายเลขผู้โทรเข้า สนทนาต่อเนื่องได้นาน 6 ชั่วโมง เปิดเครื่องรอสายได้ 300 ชั่วโมง น้ำหนัก 29.6 กรัม ราคา 4,590 บาท อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจซื้อบลูทูธอย่าลืมตรวจสอบว่าอุปกรณ์รุ่นนั้นๆ สามารถใช้กับโทรศัพท์ของคุณได้หรือไม่ และหาโอกาสทดลองใส่ดูว่าสบายหูไหม ไม่เช่นนั้นหากอุปกรณ์ดีแค่ไหน หากใช้ไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์ ส่วนนี่ มีประโยชน์กับคนขี้เหงาแน่นอน ด้วยเครื่องเล่นเพลงดิจิตอลขนาดเล็กที่สุดในโลก “Apple iPod Shuffle” ไปที่ไหนก็ไม่เหงาเพราะมีเสียงเพลงเป็นเพื่อน ได้คะแนนความสะดวกในการพกพาถึง 5 คะแนน คุณภาพเสียงอยู่ในระดับดี พร้อมฟังก์ชั่น VoiceOver สำหรับบอกชื่อเพลงและชื่อศิลปิน (เสียอย่างเดียวคือมันยังไม่พูดภาษาไทย) เล่นเพลงต่อเนื่องได้นาน 12 ชั่วโมงต่อการชาร์ตหนึ่งครั้ง น้ำหนักเพียง 9 กรัม ราคา 2,800 บาทแต่หากใครชอบสะสมเพลงโปรด ขอแนะนำ “Apple iPod classic 160GB hard disk” เครื่องเล่นเพลง MP4 ที่จุ???เพลง???ได้???สูงสุด?? 40,000 ??เพลง?? ??ให้คุณภาพเสียงระดับดี เล่นเพลงต่อเนื่อง?? 46.5 ??ชั่วโมง???และ???ชมวิดี???โอ?? 7 ??ชั่วโมง พร้อมจอแสดงผลสีขนาด?? 2.5 ??นิ้ว น้ำหนัก 137 กรัม ราคา 10,200 บาท “Samsung YP-Q2” เครื่องเล่นเพลงสารพัดประโยชน์ เพราะมีทั้งฟังก์ชั่น วิทยุ FM เล่นเกม บันทึกเสียง และบันทึกจากเสียงวิทยุ หน้าจอขนาด 2.4 นิ้วสำหรับดูภาพและคลิปวิดีโอ มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานในระดับดีมาก เล่นเพลงต่อเนื่องได้ 53.5 ชั่วโมง น้ำหนัก 58 กรัม ราคา 3,490 บาท คุณภาพเสียงที่ดีนอกจากจะมาจากเครื่องเล่นเพลงที่ดีแล้ว ยังมาจากหูฟังที่มีคุณภาพด้วย “Beyerdynamic DTX800” ให้คุณภาพเสียงดีเลิศในระดับ 5 ดาวในราคาที่ต่ำกว่าหูฟังยี่ห้ออื่นๆ กว่าครึ่ง ตอบสนองความถี่ 10 Hz-22 kHz ได้คะแนนปราศจากเสียงรบกวนจากสายหรือตัวเครื่องในระดับดีมาก น้ำหนักรวมสาย 290 กรัม ราคา 4,373 บาท  หากงบประมาณไม่เกิน 1,000 บาท แต่ต้องการหูฟังคุณภาพสูง “Sennheiser HD 201” ราคาเพียง 990 บาท แต่ได้คุณภาพเสียง ความทนทาน ความสะดวกในการใช้งานและความสบายในการสวมใส่ถึง 4 ดาว ตอบสนองความถี่ 21 Hz-18 kHz น้ำหนักรวมสาย 188 กรัม เตรียมเก็บภาพประทับใจตลอดปีขาลด้วยกล้องวิดีโอ “Canon Legria HF200” ระบบบันทึกภาพแฟลชเมมโมรี่ เลนส์วีดีโอ HD ออพติคอลซูม 15 เท่า ให้ภาพความละเอียดสูงแบบ Full HD คุณภาพภาพเคลื่อนไหวในระดับดีมาก ฟังก์ชั่น Dual Shot สามารถบันทึกภาพนิ่งที่ความละเอียด 3.3 ล้านพิกเซล และบันทึกภาพเคลื่อนไหวและภาพนิ่งในขณะเดียวกันที่ความละเอียด 3 ล้านพิกเซล ราคา 29,900 บาท จิ๋วแต่แจ๋วต้องตัวนี้ “Canon Legria FS200” กล้องวิดีโอที่มาพร้อมฟังก์ชั่นซูมออฟติคอลถึง 37 เท่าและระบบป้องกันภาพสั่นไหว ได้คะแนนระยะเวลาในการบันทึกภาพในระดับดีมาก เพราะบันทึกภาพได้นานสูงสุดถึง 3.5 ชั่วโมงต่อการชาร์ตหนึ่งครั้ง น้ำหนัก 279 กรัมราคา 12,900 บาท ฉลาดซื้อหวังว่าคุณคงจะได้ไอเดียในการเลือกซื้ออุปกรณ์ไอทีที่คุณภาพดีและเหมาะสมกับการใช้งานให้เป็นของขวัญแด่คนที่คุณรัก เพราะการพิถีพิถันในการเลือกซื้อ เลือกใช้ นอกจากผู้ใช้จะได้ประโยชน์แล้วยังส่งผลดีต่อธรรมชาติด้วย เพราะหมายความว่าคุณจะสามารถใช้อุปกรณ์นั้นๆได้นานก่อนจะทิ้งให้เป็นภาระกับสิ่งแวดล้อม

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า250 Point

ฉบับที่ 118 พรปีใหม่ สร้างได้ด้วยตัวเอง

พรปีใหม่ สร้างได้ด้วยตัวเองกองบรรณาธิการ   ในทุกช่วงเทศกาลปีใหม่ สิ่งที่เราจะทำกันนอกจากมอบของขวัญหรือการจัดงานฉลองรื่นเริงแล้ว ก็คือการส่งมอบ คำอวยพร อันเป็นถ้อยคำที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาดี หวังให้เกิดความสุขสมหวังแก่คนที่เรานิยมรักใคร่  จริงแท้แล้ว ความสุขสมหวังในชีวิตตามคำพรอันแสนดีนั้น เราท่านสามารถสร้างได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องรอใครมาหยิบยื่นให้ก่อน  ฉลาดซื้อฉบับต้อนรับปีใหม่ 2554 นี้ จึงขอมอบแนวทางที่จะทำให้ท่านสามารถสร้างพรปีใหม่ให้แก่ตัวเองได้อย่างง่ายๆ แค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมปีใหม่อย่างที่เคยๆ มาในปีก่อนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น   บุญ สร้างได้หลายทางไม่จำเพาะแค่การตักบาตรหรือถวายสังฆทาน การทำบุญคือ การทำให้เราลด ละ ความโลภและความเห็นแก่ตัวลง ด้วยการสละ ซึ่งอาจเป็นสละแรงกาย ทรัพย์ หรือปัญญาเพื่อบุคคลอื่น  ดังนั้นการทำบุญคือ การสละอย่างฉลาด ไม่ใช่การตั้งหน้าตั้งตาซื้อ การทำบุญในพุทธศาสนาจึงสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้   ทำบุญอย่างถูกวิธี 1.การให้ทาน บริจาคเงิน สิ่งของ 2.การถือศีลหรือลดความประพฤติไม่ดี และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้อื่น 3.การเรียนรู้ ฝึกจิตให้สงบไม่เศร้าหมอง ทำให้เกิดปัญญา 4.การสละแรงกายช่วยเหลือสังคมและผู้อื่น เป็นงานเพื่อส่วนรวม 5.การอ่อนน้อมถ่อมตน แม้มีอาวุโสกว่าก็มีเมตตา รู้จักให้เกียรติ 6.การยอมรับและมีความยินดีในการทำความดีของผู้อื่น 7.การเผื่อแผ่โอกาสให้ผู้อื่นได้ร่วมทำบุญหรือความดีกับเรา พร้อมเผื่อแผ่ให้ผู้อื่นได้รับส่วนบุญนั้นด้วย 8.การรับฟังธรรมะและข้อคิดดีงาม 9.การให้ธรรมะและและข้อคิดที่ดีงามแก่ผู้อื่น10. การนึกคิดในทางที่ถูกต้องดีงาม   ไม่มีเงิน ก็ทำบุญได้ทำบุญไม่ได้แปลว่าให้ทานเสมอไป ไม่มีเงินเลยก็สามารถทำบุญได้ ด้วยการงดสิ่งเสพติด งดอบายมุข ก็ถือว่าได้บุญแล้ว รักษาศีล ไม่ประพฤติตนเป็นคนเกเร อันธพาล ไม่เป็นหนี้เป็นสินหรือไม่ใช่จ่ายให้เกินตัว ทำให้ชีวิตให้โปร่งเบาโดยลดกิเลสต่างๆ ลง เหล่านี้ไม่ต้องใช้เงิน ก็นับเป็นการทำบุญที่อานิสงค์ ไม่แพ้การให้ทานแต่ประการใด  ปีใหม่ไม่ดื่มจากสถิติของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ (ศปภ.) พบว่า จำนวนอุบัติเหตุใน 100 ราย มี 41 รายเกิดจากผู้ขับดื่มเหล้ามึนเมา และสาเหตุการตายของคนไทยเนื่องจากอุบัติเหตุสูงเป็นอันดับที่ 2 รองจากโรคมะเร็ง ทำให้มีคนตาย 1,300 คนต่อปี สูญเสียทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 2 แสนล้านบาท   การสูญเสียที่มากมายนี้ทำให้หลายหน่วยงานออกกฎ มาตรการต่างๆ มาป้องกัน เช่น ห้ามดื่มสุราสำหรับผู้ขับขี่รถ ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานีบริการน้ำมัน ฯลฯ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ก็รับทราบกันดี แต่ก็ยังพบการละเมิดกฎหมายอยู่บ่อยๆ ทำให้สถิติการเสียชีวิตอันมีสาเหตุเชื่อมโยงกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ลดลง อย่างนี้แล้ว หากเราจริงใจในการอวยพรผู้อื่นให้มีความสุขจริง อีกทั้งไม่เสี่ยงพาตัวเองไปเป็นผู้ก่ออุบัติเหตุที่สร้างความทุกข์ให้แก่ผู้อื่น รวมถึงสร้างสุขให้แก่ตัวเองด้วยการสร้างสุขภาพที่ดี ปีใหม่นี้ก็ขอให้งดดื่ม งานเลี้ยงรื่นเริงสังสรรค์ต่างๆ ก็ปรับนิดหน่อยให้สามารถสนุกสนานได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์   คนไทยดื่มสุราเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 260,000 คน พบดื่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในรอบสิบปี (2535-2545) จาก 992 ล้านลิตร เป็น 1,926 ล้านลิตร ที่มา สำนักงานสถิติแห่งชาติ   อดหวานต้านโรคคนไทยรับประทานน้ำตาลมากกว่า 20 ช้อนชาต่อวัน จากปกติที่ไม่ควรเกิน 6-8 ช้อนชาต่อวัน ทำให้คนไทยติดรสหวาน เด็กรุ่นใหม่ก็ติด รสหวาน โรคที่ไม่ควรเป็นในวัยเด็กอย่างเบาหวานจึงพบได้ในทุกวันนี้ รวมทั้งโรคอ้วนที่เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคหัวใจ หลอดเลือดและความดันโลหิตสูง   เทศกาลปีใหม่เป็นช่วงที่มีงานเลี้ยงเฉลิมฉลองมาก ทั้งงานเลี้ยงที่ทำงาน สถานที่บันเทิงบ้านญาติ มิตร บางบ้านก็จัดปาร์ตี้กันเองในครอบครัว โอกาสที่จะรับประทานของหวานของมันก็มีมากขึ้น เพราะอาหารสำหรับงานเลี้ยงปีใหม่หนีไม่พ้นอาหารหวาน ขนมนมเนย ขนมเค้ก เบเกอรี่ ฟาสต์ฟู้ด ของทอด น้ำหวาน น้ำอัดลม ฯลฯ ซึ่งล้วนมีน้ำตาลสูงและให้พลังงานมาก แต่ร่างกายกลับไม่ค่อยได้นำพลังงานมาใช้เท่าที่ควรเพราะหลายคนถือเป็นช่วงพักผ่อน(เอาแต่นอน)  ทำให้ช่วงนี้หลายคนน้ำหนักตัวพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว  ถ้าไม่อยากให้ชีวิตในช่วงเริ่มต้นของปีใหม่ กลายเป็นปีแห่งโรคภัยไข้เจ็บและโรคอ้วน ควรรับประทานหวานๆ ให้น้อยลง และอย่าละเลยการออกกำลังกาย  ..........ส่วนผสมส่วนใหญ่ของคุกกี้ และเค้ก ทำมาจากแป้ง น้ำตาล เนย ไข่ และไขมัน ที่ให้รสหวานเป็นหลัก มีผลทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มได้ง่าย เสี่ยงเกิดโรคอ้วน ขนมเค้ก 1 ชิ้นเล็ก ขนาดประมาณ 35 กรัม ให้พลังงานถึง 140 กิโลแคลอรี ส่วนคุกกี้ 1 ชิ้น ขนาด 10 กรัม ให้พลังงานถึง 51 กิโลแคลอรี ..........ถ้ากินติดต่อกันในปริมาณ 1 ปอนด์(0.45 กก.)ต่อวัน จะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานถึง 1,600 กิโลแคลอรี เกือบเท่ากับที่ร่างกายต้องการพลังงานจากอาหารอื่นรวมวันละ 2,000 กิโลแคลอรี…   ของขวัญจากใจของขวัญ คือสิ่งที่นิยมมอบให้แก่กันในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่นิยมกันมากในช่วงหลังๆ ก็ได้แก่ กระเช้าผลไม้ กระเช้าของขวัญ เพราะเป็นดูกลางๆ ไม่มากไปน้อยไป ส่วนคนสนิทชิดใกล้ก็แล้วแต่จะเลือกสรรให้กัน ฉลาดซื้อเมื่อฉบับ 106 ธ.ค. 2552 เราก็จัดโพลล์กันไปรอบว่าด้วย สิบของขวัญที่ไม่อยากได้ และของขวัญที่ควรจะมอบให้แก่กันเพื่อมิให้เกิดการสูญเสียในทางเศรษฐศาสตร์ ซึ่งก็คือ “เงินสด” อย่างไรก็ตามถ้าจะเลือกมอบกระเช้าของขวัญ กระเช้าผลไม้ เป็นของขวัญปีใหม่   อย่าลืมว่าปีนี้ ทั้ง อย.และ สคบ.เขาพร้อมช่วยผู้บริโภค ด้วยการออกตรวจร้านค้าปลีก ร้านค้าทั่วไปเพื่อให้จัดกระเช้าของขวัญที่มีคุณภาพไม่แอบเอาของใกล้หมดอายุมาใส่ไว้ และในกรณีที่ผู้ประกอบการมีการ นำผลิตภัณฑ์ที่ปนเปื้อนวัตถุอันตราย และนำสินค้าที่หมดอายุ ไร้คุณภาพมาจำหน่ายในรูปแบบกระเช้า ให้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากจำหน่าย อาหารไม่บริสุทธิ์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีที่มีฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท   “การให้ของขวัญ สิ่งสำคัญต้องไม่อยู่ที่ตัววัตถุ แต่อยู่ที่น้ำใจ และถ้าเราให้ของขวัญในสิ่งที่ช่วยประเทืองปัญญาจะดีมาก ไม่ใช่ให้ของขวัญที่กระตุ้นโลภะ โทสะ หรือว่าเป็นของขวัญที่บั่นทอนสุขภาพ ของขวัญถ้ามันไปสนองกิเลสของผู้รับ มันก็เป็นโทษทั้งแก่ผู้รับและผู้ให้ ในทางพุทธศาสนาก็ไม่ได้บุญ แต่ถ้าคุณให้สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิต เกื้อกูลสติปัญญา ประเทืองอารมณ์ จรรโลงใจ เหล่านี้จะเป็นบุญแก่ทั้งผู้รับและผู้ให้” พระไพศาล วิสาโลใช้บัตรเครดิตให้ถูกทางข้อดีของการถือบัตรเครดิต คือความปลอดภัยและสะดวกในการใช้จ่าย เพราะการถือบัตรเครดิตโอกาสสูญหายหรือถูกขโมยมีน้อยกว่าการถือเงินสด (บัตรห ายก็ยังอายัดไว้ได้ ส่วนเงินไปแล้วไปเลย) นอกจากนี้ยังให้มูลค่าเพิ่มในการใช้อภิสิทธิ์ จากสถาบันการเงินที่ออกบัตรในการรับบริการที่แตกต่าง เช่น ได้รับสิทธิ์ซื้อสินค้าในราคาพิเศษ ได้รับความคุ้มค   รองด้านประกันภัยโดยไม่ต้องซื้อกรมธรรม์ ได้รับของกำนัลเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตร ได้เงินคืนจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเมื่อถึงยอดที่กำหนด ฯลฯ  ซึ่งสถาบันการเงินต่างก็เพิ่มสิทธิประโยชน์เพื่อหวังเอาใจลูกค้ากันเต็มที่   แต่ผู้ใช้บัตรเครดิตจะได้รับประโยชน์จากการแข่งขันที่สูงนี้ ก็ต่อเมื่อผู้ใช้บัตรเครดิตมีการวางแผนทางการเงินที่ดี โดยการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตไม่เกินกำลังความสามารถของตนเองในการชำระคืนในเดือนถัดไป มิฉะนั้นท่านจะต้องตกลงในกับดักทางการเงิน ที่สุดท้ายกลายเป็นหนี้ก้อนโต การใช้บัตรเครดิตให้ปลอดภัย   1. จ่ายหมด ไม่มียอดค้างชำระ  การชำระสินค้าหรือบริการผ่านบัตรเครดิตเปรียบเสมือนการนำเงินในอนาคตมาใช้ เมื่อถึงรอบบัญชีเรียกเก็บหากชำระไม่เต็มจำนวนก็จะถูกคิดอัตราดอกเบี้ยในรอบบัญชีถัดไป ซึ่งในปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตอยู่ที่ร้อยละ 20 ต่อปี 2. การใช้บัตรเครดิตในการชำระค่าสินค้าหรือบริการที่ไม่ควรเกินร้อยละ 20 ของรายได้ต่อเดือน 3. อย่าติด Late Charge ถ้าจ่ายทั้งหมดไม่ได้ ก็จ่ายเท่ายอดขั้นต่ำ แต่จ่ายตามกำหนด ถ้าจ่ายช้ากว่าวันนัดชำระ จะเสียค่าปรับที่แพงขึ้นอีกจากค่าทวงถาม 4. อย่าเบิกเงินสดด้วยบัตรเครดิต ประเภทวีซ่าหรือมาสเตอร์การ์ด เพราะจะเสียค่าธรรมเนียมแพงประมาณ 3% ของเงินสดที่เบิกออกมา บวกด้วยค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม และเมื่อรวมเงินต้นและดอกเบี้ยแล้ว จ่ายหนักแน่ 5. ไม่เบิกเงินสดจากบัตรเครดิตใบหนึ่งเพื่อไปโปะหนี้บัตรเครดิตอีกใบหนึ่ง เพราะสุดท้ายจะกลายเป็น งูกินหาง ติดหนี้ก้อนโตในทุกบัตร อย่าลืมว่า ดอกเบี้ยบัตรเครดิตนั้นแพงมาก หากพบว่าเริ่มมีปัญหาจากการใช้บัตรวิธีที่ดีที่สุดคือ หยุดการใช้บัตรเครดิตและวางแผนคืนเงินอย่างถูกต้อง ท่านสามารถขอคำปรึกษาได้ที่ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค   ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในปี 2553 (ไม่รวมการใช้จ่ายของชาวต่างประเทศที่ถือบัตรเครดิตต่างประเทศ และการเบิกเงินสดล่วงหน้า) โดยคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 712,000 - 727,650 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 15.0 ถึง ร้อยละ 17.5  จากที่ขยายตัวร้อยละ 5.9 ปี 2552  ที่มา ศูนย์วิจัยกสิกรไทย  เลือกรถโดยสารให้ปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่ จัดเป็นช่วงที่มีการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะที่สูงสุดช่วงหนึ่งของปี และทุกๆ ปี ก็พบว่า มีผู้โดยสารจำนวนมากทีเดียวที่พบอุบัติเหตุจากรถโดยสารที่ตัวเองนั่งไปโดยทั่วไปคนส่วนใหญ่เลือกนั่งรถกับบริษัทรถโดยสารที่คุ้นเคย หรือได้รับการบอกเล่าปากต่อปาก โดยคำนึงเรื่องความสะดวกสบายเป็นหลัก แต่น้อยคนนักที่จะคิดด้านความปลอดภัยและคิดจะตรวจสอบบริษัทรถโดยสารด้วยตัวเอง  ข้อมูลจากโครงการส่งเสริมสนับสนุนสิทธิผู้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เขาฝากมาว่า ในการขึ้นรถโดยสารทุกครั้ง ควรหลีกเลี่ยงการใช้บริการรถโดยสารสองชั้นเนื่องจากมีข้อจำกัดด้านจุดสมดุล  รถโดยสารที่ดีต้องมีส่วนที่เป็นโครงเหล็กมากกว่ากระจก บนรถต้องมีเข็มขัดนิรภัย ถังดับเพลิง หรืออุปกรณ์ด้านความปลอดภัย เบาะที่นั่งต้องยึดติดมั่นคง และมีเบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อศูนย์บริการได้  นอกจากนั้น ผู้โดยสารทุกท่านยังสามารถช่วยกันดูแลสอดส่องการให้บริการของรถโดยสารสาธารณะเรียกร้องสิทธิอันพึงมีพึงได้ยามเมื่อเกิดอุบัติเหตุนอกจากจะทำเพื่อความปลอดภัยของตัวผู้บริโภคเองแล้วยังเป็นการช่วยยกระดับคุณภาพการบริการโดยเฉพาะด้านความปลอดภัยให้เป็นมาตรฐานสากลอีกด้วย  ฝากข้อมูลหรือแจ้งเรื่องราวร้องทุกข์ ติดต่อได้ที่โครงการฯ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค   เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะ วิธีปฏิบัติ 3 ขั้นตอน ขั้นแรกผู้เสียหายสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถในการเรียกร้องค่ารักษาพยาบาล และค่าปลงศพกรณีเสียชีวิตจากบริษัทประกันภัยของรถโดยสารที่เกิดเหตุโดยจะต้องดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายภายใน 180 วันหลังจากเกิดเหตุพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาบันทึกประจำวันของตำรวจ สำเนากรมธรรม์ประกัยภัยรถที่เกิดอุบัติเหตุในกรณีที่เสียชีวิตต้องเตรียมสำเนาใบมรณะบัตร และสำเนาทะเบียนบ้านหรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของทายาทมาด้วย   ขั้นที่สองนั้น สามารถใช้สิทธิเรียกร้องจากกรมธรรม์ภาคสมัครใจและบริษัทรถโดยสารจากความเสียหายทางด้านทรัพย์สิน และค่าเสียโอกาสอื่นๆหรือที่เราเรียกกันว่า ค่าทำขวัญ โดยมีข้อควรระวังคือ การลงลายมือชื่อในการรับค่าสินไหมทดแทนทั้งจากบริษัทประกันและบริษัทรถยนต์    หากมีเงื่อนไขในเอกสารการรับเงินหรือข้อตกลงใดๆว่า ผู้เสียหายยอมรับเงินโดยไม่ติดใจเอาความกับบริษัทแล้วจะทำให้ไม่สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติมได้ในภายหลัง   ขั้นสุดท้าย สิทธิการเรียกร้องทางกฎหมายวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภคสามารถขอแบบฟอร์มได้ที่ศาล และติดต่อมาที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคหรือเขียนเองโดยดาวน์โหลดแบบฟอร์มจาก www.consumerthai.org โดยฟ้องคดีได้ที่ศาลในภูมิลำเนาของผู้ประกอบการซึ่งจะต้องฟ้องร้องภายในระยะเวลา 1 ปีนับแต่ทราบความเสียหายในส่วนของผู้ที่ทำละเมิดโดยตรงคือ คนขับรถและบริษัทรถ  แต่ในส่วนของบริษัทประกันนั้นเราสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ภายในระยะเวลา2 ปีนับแต่ทราบถึงความเสียหายท่านสามารถใช้สิทธิผ่านช่องทางการร้องเรียนที่ศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า250 Point

ฉบับที่ 106 ของขวัญที่คุณไม่อยากได้

ฉลาดซื้อฉบับนี้กลัวตกรถไฟเลยต้องเกาะกระแสไอเดียของขวัญปีใหม่กับเขาบ้าง แต่เราจะลองหันมาพูดถึงอีกแง่มุมของการให้ของขวัญบ้าง นั่นคือของขวัญที่คนไม่อยากได้ สมาชิกฉลากซื้อหลายท่านคงจะเคยได้รับของขวัญที่เมื่อได้มาแล้วไม่รู้จะทำอะไร จะทิ้งก็กระไร วางไว้ก็ฝุ่นเกาะ ทำให้กลายเป็นของรกบ้าน ว่าแล้วเราเลยลองทำการสำรวจดูว่ามีอะไรบ้างที่เป็นของขวัญไม่พึงประสงค์ สำหรับปีใหม่ที่จะถึงนี้ มีผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 170 คน ในการสำรวจระหว่างเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมปีพ.ศ. 2552 ที่ (หญิง 106 คน ชาย 59 คน) โดยร้อยละ 60 อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 20 – 30 ปี ลองมาดูว่าเราพบอะไรบ้าง   TOP TEN unwanted gifts 10 อันดับของที่ไม่อยากได้ {xtypo_rounded_left2} 1. เครื่องดื่มอัลกอฮอลล์ “ไม่อยากให้ใครดื่มของมึนเมา” “ถือศีลห้า” “รณรงค์ว่าไม่ดี” {/xtypo_rounded_left2} {xtypo_rounded_left2}6. กระปุกออมสิน“ไม่ได้ใช้ ฝากเงินกับธนาคาร” “ไม่มีเงินใส่” {/xtypo_rounded_left2} {xtypo_rounded_left2}2. น้ำยาดับกลิ่นตัว /กลิ่นปาก“เหมือนหลอกด่า”“ซื้อเองได้” {/xtypo_rounded_left2} {xtypo_rounded_left2}7. เทียนหอม“ไม่ค่อยได้ใช้ประประโยชน์”“กลัวไฟไหม้” {/xtypo_rounded_left2} {xtypo_rounded_left2} 3. สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก“ยี่ห้อไม่ถูกใจ” “รู้สึกไม่ใช่ของขวัญ{/xtypo_rounded_left2} {xtypo_rounded_left2}8. เครื่องแก้ว จาน ชาม“มีอยู่แล้ว”“ไม่ได้ใช้” {/xtypo_rounded_left2} {xtypo_rounded_left2}4. ชุดหม้อ/กระทะ“อยากซื้อเอง” “ดูผู้ใหญ่เกินไป” “ไม่ชอบทำอาหาร” {/xtypo_rounded_left2} {xtypo_rounded_left2} 9. ตุ๊กตา“ทิ้งไว้ฝุ่นเกาะ”“ไม่เหมาะกับวัย”{/xtypo_rounded_left2} {xtypo_rounded_left2}5. เกมต่างๆ“ไม่มีเวลาเล่น”“ไม่มีประโยชน์” {/xtypo_rounded_left2} {xtypo_rounded_left2}10. กรอบ/อัลบั้มรูป“เอารูปไปโพสต์ใน Facebook ก็ได้” “ขี้เกียจหารูปใส่” {/xtypo_rounded_left2} แผนปีใหม่ยอดนิยม1. ไปเที่ยวกับครอบครัว (ร้อยละ 62.5)2. ทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิต (ร้อยละ 59.5)3. ซื้อกุหลาบ เอ๊ย .. ของขวัญ ให้ตัวเอง (ร้อยละ 44.6)4. เรียนรู้อะไรใหม่ๆ (ร้อยละ 34.5) งบซื้อของขวัญให้ตัวเอง : ร้อยละ 33 บอกว่าตั้งงบประมาณในการซื้อของให้ตัวเองในปีใหม่นี้เอาไว้ประมาณ 500 – 1,000 บาท อีกร้อยละ 26 ยินดีทุ่มสุดตัวด้วยงบต่ำกว่า 500 บาท งบซื้อของขวัญให้คนอื่น: ร้อยละ 40 เตรียมใจใช้งบไม่เกิน 500 บาทเพื่อซื้อของให้คนอื่น อีกร้อยละ 35 ตั้งใจจะซื้อของขวัญให้คนอื่นด้วยงบระหว่าง 500 -1,000 บาท ให้โดยไม่สูญเสีย นาทีนี้ เงินสดคือของขวัญที่ดีที่สุด?นักเศรษฐศาสตร์มีทัศนะว่าการให้ของขวัญที่จะส่งผลดีต่อทั้งผู้รับและสภาพเศรษฐกิจโดยรวมนั้นคือการให้เป็นเงินสดไปเลย ... ทำไมน่ะหรือ ก็เพราะมันเป็นการให้ที่ปราศจาก “การสูญเสียโดยไร้ประโยชน์” เจ้าการสูญเสียฯ ที่ว่านี้เขามีการวัดไว้ด้วย งานวิจัยของ Joel Waldfogel แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนียได้ทำการวิจัยพบว่า คนเราจะประเมนราคาของที่ตนเองได้เป็นของขวัญ ต่ำกว่าราคาที่แท้จริงของมันร้อยละ 20 ทางเศรษฐศาสตร์เรียกมูลค่าที่หายไปร้อยละ 20 นี้ถือเป็นการสูญเสียโดยไร้ประโยชน์ หรือ Deadweight Loss นั่นเอง เขาบอกว่าในอเมริกานั้นมีการสูญเสียดังกล่าวถึงปีละ 25,000 ล้านเหรียญต่อปีในช่วงเทศกาลคริสต์มาสเลยทีเดียว* ดังนั้นเขาจึงสรุปว่าการให้เงินสดหรือบัตรของขวัญ เพื่อให้ผู้รับนำไปซื้อของขวัญที่ตนเองต้องการเลยนั้นเหมาะที่สุด แต่อย่าเพิ่งท้อใจไป ถ้าคุณยังทำใจไม่ได้ และยังอยากให้ของขวัญที่เป็นมากกว่าบัตรหรือแบงค์ ก็อย่าลืมทำการบ้านมาให้ดี สืบเสาะ ใส่ใจ คลุกวงใน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำมาให้ได้ว่าคนที่คุณต้องการซื้อของขวัญให้นั้นเขาอยากได้อะไร อัตราการสูญเสียฯ ที่ว่านั้นจะได้ลดน้อยลง หรือไม่ก็หันไปลงมือทำ “ของขวัญ” ที่สร้างคุณค่าทางจิตใจเสียเลย รับรองไม่พลาดเพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมูลค่า ? *อ้างอิงจากบทความ Scroogenomics: Gift-giving is waste of money, economist says จาก www.financialpost.com วันที่ 4 ธันวาคม 2552 GREEN GIFTS / SLOW GIFTS / SAFE GIFTSหม้อความดันไอน้ำ ... เขาว่าเป็นเครื่องครัวที่สามารถใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ เพราะเป็นกานใช้ความดันไอน้ำเพื่อทำให้อาหารสุกเร็วขึ้น ใครจะซื้อหามาเป็นของขวัญให้กับเพื่อหรือญาติที่รักการทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจก็ไม่ว่ากัน ดร.ไพบูลย์ ช่วงทอง เครือข่ายนักวิชาการเพื่อผู้บริโภค มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีได้ให้คำแนะนำในการเลือกซื้อไว้ดังนี้ การเลือกซื้อหม้อความดันไอน้ำ สิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือ ขนาดของหม้อต้องเหมาะสมกับการใช้งาน สอง ระบบการไหลเวียนของไอน้ำในภาชนะต้องมีประสิทธิภาพดี เนื่องจากในขณะใช้หม้อความดันไอน้ำ จะมีความดันสูง อาจทำให้เกิดอันตรายได้ หากหม้อระเบิดขึ้น เพราะฉะนั้นในการเลือกซื้อต้องดูว่าหม้อความดันไอน้ำนั้น มีเครื่องหมายประกันคุณภาพในด้านความปลอดภัย เช่น T?V, CE หรือ GS หรือไม่ สาม ตรวจสอบอะไหล่และชิ้นส่วนของหม้อไอน้ำ เช่น ซีลริง (Seal ring) ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่จะเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน หากผู้บริโภคซื้อสินค้าที่เป็นแบรนด์เนม เวลาหาซื้ออะไหล่มาเปลี่ยน ก็จะสามารถหาอะไหล่ประเภทนี้ได้ง่ายกว่า สินค้าราคาถูกที่ไม่ได้ทำอะไหล่รองรับการใช้งานในระยะยาว นอกจากนี้ มาตรบอกความดันก็เป็นส่วนประกอบที่สำคัญมาก เพราะช่วยให้เราทราบถึงระดับความดันในหม้อ ซึ่งจะมีประโยชน์ในด้านการประหยัดพลังงานเพราะเมื่อเราให้ความร้อนจนกระทั่งความดันในหม้อถึงระดับที่ต้องการแล้ว เราก็สามารถปรับระดับของความร้อนจากเตาไฟฟ้าหรือเตาแก๊สลง โดยที่ความดันในหม้อยังรักษาระดับไว้อยู่ สุดท้าย คือ การทำความสะอาด ควรพิจารณาว่าหม้อความดันไอน้ำสามารถแยกชิ้นส่วนได้หรือไม่ หากทำได้ ก็จะทำให้การทำความสะอาดหม้อสะดวกยิ่งขึ้น และจะทำให้ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บอีกด้วย ของเล่นปลอดภัย รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ หน.ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ให้คำแนะนำในการเลือกซื้อของเล่นไว้ดังนี้ “ ของขวัญสำหรับเด็ก ๆ ในเทศกาลปีใหม่ ที่พ่อแม่ต้องเลือกให้ลูก ๆ ควรเป็นของเล่นที่สร้างสรรค์ และไม่เป็นอันตราย หรือหนังสือที่เหมาะกับเด็กก็ได้ ส่วนของเล่นที่ไม่ควรเลือกซื้อให้ลูกๆ เช่น ของเล่นที่มีสารตะกั่วปนเปื้อนในสีที่เคลือบอยู่ ของเล่นที่มีความแหลมคมหรือมีชิ้นส่วนเล็กๆ เป็นต้น ฉะนั้นการให้ของขวัญกับลูกในช่วงเทศกาลนี้จึงควรเลือกซื้อของเล่นที่เหมาะสมกับช่วงวัยของลูกๆ เช่น เด็กวัย 3 ปี ควรเลือกซื้อจิ๊กซอว์ ขนาด 10 ชิ้น แทน 50 ชิ้น เพราะยิ่งจำนวนชิ้นมาก ชิ้นส่วนก็จะเล็กลง เป็นอันตรายกับเด็กเล็กเพราะชิ้นส่วนอาจจะหลุดเข้าคอของเด็ก ๆ ได้ ส่วนเด็กๆ ที่อยู่ในวัยโตขึ้นมา อย่างเด็กผู้ชายต้องระวังเรื่องปืนอัดลมเด็กเล่นที่ผลิตเหมือนของจริงๆ เพราะความแรงของปืนทำให้เกิดบาดแผลได้ ส่วนลูกวัยรุ่นที่รอคอยของขวัญชิ้นใหญ่ที่อยากได้มานาน อย่างจักรยานยนต์นั้น พ่อแม่ควรคำนึงถึงให้มากที่สุด เพราะว่าจักรยานยนต์คือสินค้าที่ทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต สุดท้ายคือการเลือกซื้อของขวัญสำหรับครอบครัวใหม่ อย่างสินค้าสำหรับทารก อย่าง โมบาย ยางกัด กุ๊งกิ๊ง รถหัดเดิน นั้น สินค้าบางอย่างในหมวดนี้มักจะมีมาตรฐานควบคุมอยู่แล้วก็ไม่ต้องกังวลมาก แต่บางอย่าง เช่น รถหัดเดิน ที่บางประเทศห้ามใช้แล้ว เพราะ 2 ใน 3 ของผู้ใช้จะเกิดอุบัติเหตุนั้น ยิ่งต้องระวัง ไม่ควรซื้อเป็นของขวัญให้กับใครเลย" กระถางกุยช่ายให้คุณเทรนด์คนสนใจปลูกผัก ทำสวนครัวในเมืองมาแรงในปี 2552 และคาดว่าจะได้รับการตอบรับดีในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจโลกอับเฉา ข้าวปลาอาหารราคาแพงและมีความเสียงปนเปื้อนสรอันตรา ผู้คนตึงเครียดกับการดำเนินชีวิตในวิถีคนเมือง รวมไปถึงกระแสความนิยมอย่างต่อเนื่องในเรื่องอาหารอินทรีย์และการรักษาสุขภาพทางเลือก ที่เลือกทำได้เองง่ายๆ ในครอบครัว ประหยัดค่าใช้จ่าย ของขวัญปีนี้ที่ตั้งใจเตรียมไว้ให้เฉพาะเลยกับเจ้าของคอลัมน์ Connecting ของฉลาดซื้อซึ่งเมื่อผ่านปีใหม่ 2010 ไม่นานก็จะกลายสภาพจากแม่มารเป็นคุณแม่ลูกอ่อน คือ กุยช่ายกระถาง พร้อมกับสูตรบำรุงน้ำนมจากเมนูกุยจากน้องจิต คุณแม่ลูก 2 กุยช่ายมีกลิ่นเฉพาะตัว เหมาะที่จะปลูกในกระถางก้นตื้นเพราะรากไม่ยาว ขึ้นได้ดีทั้งในร่มรำไร หรือกลางแดดจ้า ที่สำคัญปลูกขึ้นไว้เสียหนหนึ่งแล้วสามารถตัดกินแล้วปล่อยให้แตกกอได้เรื่อยๆ ในเขตร้อนชื้นอย่างบ้านเรายังปลูกให้เป็นดอกแล้วปล่อยให้เกิดเมล็ดจนเมล็ดแก่แล้วเก็บมาปลูกต่อก็ยังได้ ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าต้านทานต่อโรคแมลงและหอยทากอัฟริกา คุณค่าทางอาหารของต้นและใบกุยช่ายเหมาะสำหรับสตรีหลังคลอดมากๆ เพราะมีฤทธิ์ขับน้ำนม มีเส้นใยมากทำให้รักษาสมดุลของระบบย่อยและช่วยในการขับถ่าย นอกจากกินสดและกินสุกกับผัดไทย ขนมผักกาด แล้วยังผัดกับตับหมูเป็นเมนูบำรุงเลือดได้ดี บางแห่งนำไปใส่ในแกงเลียง แต่สูตรน้องจิตที่เคยบอกฉันไว้ตอนแรกคลอดลูกชาย คือ นำไปต้มกับปลาช่อน โดยตั้งน้ำบนเตาด้วยไฟอ่อน ใส่หอมแดงบุบ 4 – 5 หัว ลงไปต้มให้เดือด ปรุงรสด้วยเกลือ แล้วใส่ปลาช่อนนาสดๆ ลงไปต้มให้สุกโดยไม่ต้องคน เมื่อเดือดดีอีกครั้งใส่ใบกุยช่ายลงไปแล้วดับเตาไฟ ยกลงรับประทานอุ่นๆ ถ้าชอบรสแซบก็เติมมะนาว พริกขี้หนูลงเพิ่มก็ไม่ว่ากัน จริงๆ กำลังรอเก็บเมล็ดผักโขมจีน ผักป็อบอาย hi- antioxidant ไว้สำหรับคุณพ่อกระรอกที่บอกว่าอยากได้ไปปลูกให้ลูกม่อนกินเป็น รวมไปถึงต้นกล้าส้มจีน ที่กะว่าจะนำมาแบ่งใส่กระถางรอวันให้คนสนใจอยากเอาไปปลูกลงดินให้กลายเป็นต้นใหญ่ ไว้ใช้ทำเครื่องดื่มและตำน้ำพริกแทนยามมะนาวแพงอีก 10 กว่าต้นนก อยู่วนา จากคอลัมน์เรื่องเรียงเคียงจาน  ของขวัญที่ลงมือทำเอง ศจินต์ ประชาสันต์ จากคอลัมน์ Connecting ก็ให้ไอเดียของขวัญเขียวๆ ช้าๆ ไว้เช่นกัน เจ้าตัวไม่ว่าถ้าใครสนใจจะลอกเลียนแบบ “การ์ดอวยพรทำเอง เค้กฝีมือคุณอา น้ำอัญชันจากสวนใส่ขวดผูกโบว์ ต้นไม้เล็กๆสักต้น ของสุดรักนำมาแลกเปลี่ยนกัน เสียงดนตรีเล่นเองอัดใส่ซีดี รูปถ่ายที่มีความหมายเอามาใส่กรอบ ผ้าปักครอสติส รูปวาด ปฏิทินปี 2553 ทำมือ บัตรสมนาคุณพาเที่ยวรอบหมู่บ้านโดยรถจักรยานฟรีตลอดสัปดาห์ ซีดีเพลง green สักแผ่น ตุ๊กตาเต่าหรือหอยทาก (เพื่อเตือนให้ระลึกถึงการใช้ชีวิตให้ช้าลง) ข้าวสารอินทรีย์ แชมพูสมุนไพร สบู่ทำเอง หนังสือว่าด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์หุงข้าว ตะกร้าสานใส่ผ้า โมบายปลาตะเพียน ฯลฯ”ศจินต์ยังแนะนำชั้นในยี่ห้อ TRY ARM ของสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ไว้ด้วย กางเกงชั้นใน Try Arm ราคาตั้งแต่ 39//59/79 แม้จะมีสีและแบบให้เลือกยังไม่มาก แต่ดูจากเนื้อผ้าและการตัดเย็บแล้ว ราคานี้ถือว่าคุ้มจริงๆ ค่ะพี่น้องหาซื้อได้ที่ใต้ถุนตึกกระทรวงแรงงานและบูธที่โรงแรมเดอะพาลาสโซ่ ใกล้ศูนย์วัฒนธรรม ทางกลุ่มบอกว่าปีหน้าจะมีเสื้อชั้นในออกมาให้ได้ซื้อหากันด้วย ไอเดียเก๋ๆ จากเว็บคนรักสิ่งแวดล้อม www.treehugger.comผ้าพันคอเส้นใยธรรมชาติผ้าพันคอเป็นเครื่องประดับอย่างหนึ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องมี เพราะสามารถเข้ากับเสื้อยืดสีขาวเรียบๆ กางเกงยีนส์ หรือจะคลุมทับค็อกเทลเดรสใส่ไปเฉิดฉายในงานปาร์ตี้ก็ได้ คราวน์เจเวลส์ลิปกลอสจากทาร์ตชุดลิปกลอสคราวน์เจเวลส์จากทาร์ต 15 แท่งที่ไล่เฉดสีตั้งแต่ชมพูอ่อนไปถึงแดงเข้มและทองระยับไปจนถึงน้ำตาล หนึ่งกล่องมี 3 ชุด ชุดละ 5 แท่ง ซึ่งคุณจะแบ่งให้เพื่อนคนละชุดหรือจะมอบให้ทีเดียวหนึ่งกล่องใหญ่เลยก็ได้ ที่สำคัญลิปกลอสน่ารักๆ พวกนี้ปราศจากสารเคมี เช่น พาราเบน ปิโตรเคมิคอล น้ำหอม และซัลเฟตอีกด้วย คีย์บอร์ดและเมาส์ไม้ไผ่จากผลงานของ Brandoคีย์บอร์ดไม้ไผ่ขนาดมาตรฐาน 106 ปุ่ม และเมาส์ลูกกลิ้ง ใช้ได้ทั้ง OS Windows และ Linux เปลี่ยนโต๊ะคอมพิวเตอร์ที่แสนจะธรรมดาให้ดูน่าสนใจขึ้น เพิ่มต้นไม้และจุดเทียนหอมสักหน่อยก็จะทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลายขึ้น โปสเตอร์หนังทำเอง ทำโปสเตอร์ที่มีอันเดียวในโลกด้วยการปะติดรูปภาพและข้อมูลของคุณลงบนโปสเตอร์หนังที่ชื่นชอบ ซึ่งเป็นของขวัญที่เหมาะมากๆ สำหรับเพื่อนผองพี่น้องที่หลงใหลในภาพยนตร์ กล่องข้าวสุดกิ๊บให้กล่องข้าวเป็นของขวัญเพื่อให้คนรับมีภาชนะที่สะอาดสำหรับใส่อาหารพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก ทั้งยังช่วยลดขยะได้อีกด้วย ว้าว! ถุงซิปถุงซิปขนาดพกพาจะช่วยเก็บอุปกรณ์ที่จำเป็นหรืออาจต้องใช้ยามฉุกเฉินเวลาเดินทาง เช่น ไฟฉาย กุญแจ หรือสิ่งอื่นๆ ไว้ใกล้มือ ปลอกคอสัตว์เลี้ยงปลอกคอน่ารักๆ สำหรับสัตว์เลี้ยงที่คุณสามารถทำได้เอง โดยใช้วัสดุเหลือใช้มาดัดแปลง เช่น ถุงผ้า ซิป กระดิ่ง ริบบิ้น ฯลฯ ตกแต่งลวดลายต่างๆ ให้สวยงาม กระเป๋าผ้าลายสวยกระเป๋าผ้าจากฝีมือคุณแสดงถึงความตั้งใจที่คุณจะมอบให้กับใครสักคน แถมยังช่วยลดโลกร้อน อย่างนี้เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว โคมไฟประดิษฐ์จากขวดเบียร์ดินเนอร์จะกลายเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่น่าจดจำ ด้วยเทียนในขวดแก้ว ที่คุณสามารถมอบเป็นของขวัญให้ตัวเองหรือคนอื่น สร้างพื้นที่สีเขียวสร้างพื้นที่สีเขียวมอบเป็นของขวัญให้โลก วิธีการง่ายๆ เพียงปลูกต้นไม้ที่บ้านตัวเอง และชักชวนให้เพื่อนมาร่วมกันสร้างพื้นที่สีเขียว

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า250 Point