ฉบับที่ 227 ทำไมยิ่งขัดผิว ผิวยิ่งหมอง

        ผิวโดยเฉพาะผิวหน้า หากได้ขัดหรือสครับอย่างถูกวิธี จะช่วยให้ผิวดูสดใส เปล่งปลั่ง แต่หากทำผิดวิธี และละเลยข้อจำกัดบางอย่าง แทนที่จะได้ผิวสวยก็จะได้ผิวหมองมาแทน          ทำไมจึงต้องสครับผิว         ธรรมดาผิวพรรณคนเราจะมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเป็นปกติ ช่วงขณะเปลี่ยนผ่านหากมีการช่วยจากภายนอก เช่น การขัดผิวหรือสครับผิวเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปผิวจะดูขาวใสขึ้น สะอาดตาขึ้น  แต่ต้องไม่ไปรบกวนผิวจนเกินไป เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเข้าใจหลักการเสียก่อน ด้วยว่าถ้าทำผิดวิธี จากผิวสวยๆ จะกลายเป็นผิวเสียแทน         การสครับผิวต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง         1.รู้จักผิวตัวเอง และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิว ลักษณะของผิวหน้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน แบ่งได้เป็นสี่แบบ คือ ผิวธรรมดา จริงๆ คือผิวที่มีสุขภาพดีเพราะมีความสมดุลไม่แห้งหรือมันจนเกินไป มีความเรียบเนียนไม่แพ้ง่าย นับว่าเป็นผิวในอุดมคติ ผิวแห้ง อธิบายถึงสภาพผิวที่ขาดความชุ่มชื้นจากน้ำมันธรรมชาติบนผิว ผิวจึงหยาบกร้านและแตกลอกง่าย ผิวมัน คือสภาพผิวที่มีการผลิตความมันในปริมาณที่มากเกินไป สังเกตได้ถึงรูขุมขนที่กว้างผิวดูมัน เงา และสุดท้ายคือ ผิวผสม บ่งบอกถึงผิวที่ประกอบด้วยประเภทของผิวมากกว่าหนึ่งประเภทอยู่ด้วยกัน เมื่อจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับการขัดหรือสครับหน้า ต้องอ่านฉลากให้ดี และไม่เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารประกอบที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวตัวเอง อย่าคิดเองว่าใช้อะไรก็ได้         2.สภาพผิวไม่พร้อม อย่าสครับ โดยเฉพาะถ้ามีสิวอักเสบ ควรรักษาสิวให้หายเสียก่อน เพราะหากฝืนขัดผิวหน้าทั้งที่สิวยังอักเสบ จะยิ่งเกิดสิวอักเสบลุกลามมากขึ้น         3.อย่าขัดอย่างรุนแรง หลายครั้งที่เราเลือกผลิตภัณฑ์ขัดผิวแบบที่ขายทั่วไป ต้องอ่านฉลากให้ดี หลายผลิตภัณฑ์ผสมเม็ดบีด (bead)  ซึ่งเป็นเม็ดพลาสติก หรือเป็นสารสังเคราะห์ที่มีชื่อบนฉลากว่า Polyethylene นั่นเอง เจ้าสารเคมีตัวนี้ จะลื่นมัน ยืดหยุ่นดี จึงใช้สครับผิวได้ แต่เปลี่ยนมาเป็นวัสดุจากธรรมชาติจะอ่อนโยนมากกว่า         4.ไม่ขัดผิวบ่อยเกินไป ควรทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ก็พอ หากขัดมากเกินไปก็อาจรบกวนหน้าที่ในการสกัดกั้นสิ่งแปลกปลอมของผิว รวมถึงทำให้ผิวอ่อนไหวมากขึ้นจนเกิดความแห้งกร้าน ไหม้แดด หรือปัญหาอื่น ๆ ได้ง่าย         5.หลีกเลี่ยงการสครับผิวขณะผิวแห้ง การใช้ผลิตภัณฑ์สครับหน้าควรใช้น้ำเป็นตัวหล่อลื่น และควรทำความสะอาดผิวก่อนที่จะลงมือสครับผิว         ขั้นตอนสครับผิวหน้า         ควรเริ่มต้นด้วยการล้างหน้าหรือร่างกายให้สะอาด เพื่อไม่ให้สิ่งสกปรกบนผิวมีโอกาสแทรกเข้าไปในผิว จากนั้นนำผลิตภัณฑ์ขัดผิวเทใส่ใยบวบ ฟองน้ำ หรือถุงมือ แล้วทาลงบนผิวเบาๆ นวดผลิตภัณฑ์บนผิวด้วยการวนมือเป็นลักษณะวงกลมเบา ๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นระบบไหลเวียนใช้น้ำล้างออกให้สะอาดซับให้แห้งแล้วทาครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นในขณะที่ผิวยังชื้น

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 187 มาขัดผิวแบบรักษ์โลกกันเถอะ

หากเราต้องการทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก เชื่อว่าสาวๆ หลายคนเลือกใช้การขัดผิวเป็นตัวช่วย ซึ่งนอกจากจะช่วยทำความสะอาดแล้ว การขัดผิวยังสามารถทำให้ผิวเนียนหรือกระจ่างใสขึ้นได้ อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์สำหรับขัดผิวมีมากมาย ซึ่งเราควรเลือกอย่างไร ลองมาดูกัน­ มารู้จักการขัดผิวกันก่อนการขัดผิวหรือสครับ (scrub) เป็นการขัดหรือถูผิวหนังชั้นนอกสุดหรือชั้นหนังกำพร้า ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อทำความสะอาด และช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพหรือขี้ไคลให้หลุดออกได้เร็วขึ้นการขัดผิวมีกี่แบบผลิตภัณฑ์สำหรับขัดผิวสามารถแบ่งได้เป็น สูตรเคมีและสูตรธรรมชาติ ซึ่งทั้งสองแบบสามารถขัดผิวให้สะอาดได้เหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันดังนี้สูตรเคมี สำหรับสูตรนี้จะเป็นการใช้เม็ดสครับที่เกิดจากกระบวนการทางเคมี โดยส่วนใหญ่จะเป็นเม็ดพลาสติกหรือพลาสติกเคลือบ เรียกว่า เม็ดบีดหรือไมโครบีด (Micro bead) ซึ่งจะมีหลายขนาดตั้งแต่หยาบจนถึงละเอียดมาก และมีคุณสมบัติในการขัดหรือทำความสะอาดคราบน้ำมัน รวมทั้งสิ่งสกปรกบนผิวและฟันได้เป็นอย่างดี ทำให้ถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ด้วย เช่น สบู่ ครีมอาบน้ำหรือยาสีฟันอย่างไรก็ตามเม็ดบีดประเภทนี้ สามารถสร้างผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากมีขนาดเล็กมาก (ตั้งแต่ 10 ไมครอน หรือ 0.00039 นิ้ว – 1 มิลลิเมตร หรือ 0.039 นิ้ว) ทำให้หลังการชะล้างสามารถไหลไปตามท่อระบายน้ำสู่แม่น้ำลำคลอง โดยไม่ถูกกรองจากการบำบัดสิ่งปฏิกูลและไม่สามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้ ซึ่งนำไปสู่มลภาวะทางน้ำและเกิดการปนเปื้อนในห่วงโซ่อาหาร ทำให้หลายประเทศ เช่น รัฐอิลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ประกาศห้ามการผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางที่มีไมโครบีดส์เป็นส่วนประกอบและการเสนอให้แบนผลิตภัณฑ์เหล่านี้ทั้งประเทศภายในปี 2561 นอกจากนี้ทางบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่อย่างลอรีอัล หรือจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ก็ตื่นตัวและให้ความร่วมมือด้วยการเปลี่ยนไปใช้วัสดุอื่นอย่างเกลือทะเลแทนด้านผู้บริโภคอย่างเราก็สามารถร่วมมือได้ ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนประกอบของไมโครบีดส์ หรือชื่ออื่นๆ ของมัน เช่น โพลีเอทิลีน (Polyethylene: PE) โพลีโพรพิลีน (Polypropylene: PP) โพลีเอทิลีนเทเรพทาเลต (Polyethylene terephthalate: PET) โพลีเมทิลเมทาไครเลต (Polymethyl methacrylate: PMMA) หรืออาจหันมาเลือกสครับที่ทำจากธรรมชาติแทน เพราะนอกจากจะสวยแบบได้อนุรักษ์โลกด้วยแล้ว ยังทำให้เกิดการระคายต่อผิวได้น้อยกว่าสูตรเคมีอีกด้วยสูตรธรรมชาติ สำหรับสูตรขัดผิวแบบธรรมชาติ จะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวน้อย โดยเม็ดสครับมักจะมีรูปร่างที่ไม่แน่นอนและขนาดค่อนข้างหยาบ ซึ่งมักทำจากเมล็ดของพืช เช่น ข้าวโอ๊ต เมล็ดแอปริคอท หรือของไทยอย่างเกลือและมะขามเปียก แนะวิธีขัดผิวให้เกิดประโยชน์แม้การขัดผิวจะเป็นวิธีที่ดีในการเร่งขจัดเซลล์ที่ตายแล้ว เพราะเมื่อเราอายุมากขึ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิวจะเกิดขึ้นช้าลง ซึ่งทำให้ผิวหนังมีชั้นขี้ไคลหนาขึ้น และอาจเป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกได้ แต่การขัดผิวที่ผิดวิธีก็เป็นการทำลายผิวหนังได้เช่นกัน โดยสามารถทำให้ผิวแห้งมากขึ้น และไปนำสู่อาการแพ้หรือระคายเคืองผิวหนังได้ง่าย ดังนั้นวิธีการขัดผิวที่เหมาะสม คือไม่ควรขัดผิวทุกวัน โดยควรขัดแค่อาทิตย์ละ 1 – 2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว เพื่อป้องกันการสูญเสียชั้นน้ำมัน และการระคายเคืองผิวหนังหลีกเลี่ยงการขัดผิวบริเวณที่เป็นสิวหรือเป็นแผล เพื่อป้องกันการอักเสบที่เพิ่มมากขึ้นเลือกอุปกรณ์ขัดที่มีความอ่อนนุ่ม และลูบไล้บนผิวหนังที่เปียกแล้วเบาๆหลังขัดผิวเสร็จเรียบร้อยควรทาครีมบำรุง เพื่อทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น

อ่านเพิ่มเติม >