ฉบับที่ 107 "บิ๊กซี" จ่ายแล้ว5.7แสนชดเชยเหยื่อหญิงเดินตกท่อห้าง ศาลชั้นต้นชี้ประมาทเลินเล่อ

"บิ๊กซี" จ่ายแล้ว5.7แสนชดเชยเหยื่อหญิงเดินตกท่อห้าง ศาลชั้นต้นชี้ประมาทเลินเล่อ นั่นเป็นพาดหัวข่าว วันที่ 16 ธันวาคม 2552 บนหน้าหนังสือพิมพ์มติชน ซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จในการใช้สิทธิของผู้บริโภคอีกหนึ่งรายที่ตัดสินใจ เรียกร้องสิทธิจากห้างดังอย่างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ คุณจุฬา สุดบรรทัด คนธรรมดาที่กล้าต่อกรกับยักษ์ใหญ่บริษัทค้าปลีกข้ามชาติ ซึ่งมีสาขามากกว่า 60 สาขาทั่วประเทศ เรามาทบทวนเหตุการณ์วันกระตุกหนวดเสือกันสักนิด… เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2552 เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และคุณจุฬา สุดบรรทัด เดินทางไปยัง ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์สำนักงานใหญ่ ซึ่งบริหารงานโดยบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เลขที่ 97/11 ชั้น 6 ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการยึดทรัพย์บังคับคดีลูกหนี้ตามคำพิพากษาของศาลแพ่ง เป็นจำนวนเงิน 405,808.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี …ในที่สุดบิ๊กซีก็ยอมจ่ายเงินค่าชดเชยให้เหยื่อหญิงเดินตกท่อลานจอดรถสาขาลำปาง 5.7 แสนบาท จากระยะเวลาการต่อสู้กว่า 2 ปี หลังกรมบังคับคดีบุกยึดทรัพย์ถึงสำนักงานใหญ่ “ความจริงเราก็ไม่อยากให้เรื่องถึงศาลหรอกนะ แต่เราขอเจรจากับทางบิ๊กซีแล้วว่าจะแก้ไขกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร บิ๊กซีจะร่วมรับผิดชอบอย่างไรกับค่ารักษาพยาบาลที่เราต้องผ่าตัดขาทั้ง 2 ข้างของเรา อีกทั้งจะรับผิดชอบวิถีชีวิตที่เปลี่ยนของเราชั่วระยะเวลาหนึ่งอย่างไร เราต้องนั่งรถเข็น ดูแลตัวเองก็ไม่ได้ แต่ทางบิ๊กซีก็ไม่ขอเจรจา เรื่องจะฟ้องนี่ทางครอบครัวก็คัดค้านไม่เห็นด้วย เพราะก็รู้ๆ กันอยู่ว่ามันกินเวลานาน” มันไม่ใช่แค่อุบัติเหตุย้อนเหตุการณ์ไปในเวลาเย็นย่ำของวันที่ 12 มกราคม 2550 ระหว่างที่คุณจุฬา กำลังเดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อไปยังจังหวัดลำปาง เธอได้ขับรถยนต์แวะเข้าไปใช้บริการที่ห้างบิ๊กซีฯ สาขาลำปาง เพื่อซื้อเครื่องใช้ส่วนตัว ครั้นซื้อสินค้าเสร็จสิ้นและกำลังเดินทางกลับมาขึ้นรถที่บริเวณลานจอดรถ ตรงทางสามแยกปรากฏว่ามีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งตรงมาตามทางเดินรถที่ไม่มีลูกระนาดด้วยความเร็วในระยะประชิด คุณจุฬาตกใจเกรงว่าตนจะถูกรถชน จึงก้าวขึ้นไปบนเกาะกลางถนนที่ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างเพื่อหลบรถยนต์ที่วิ่งเข้าใส่ หลังจากที่หลบรถยนต์ได้แล้ว คุณจุฬาจึงตัดสินใจหลบไปอีกด้านหนึ่งของเกาะกลางถนนและก้าวลงจากเกาะกลางถนนด้านที่มืดสลัว โดยไม่ทันได้สังเกตว่าจุดที่ก้าวเท้าเหยียบลงไปนั้นเป็นร่องรางน้ำรูปตัววีที่ไม่มีฝาปิด ทำให้เท้าทั้งสองข้างลื่นไถลตกลงร่องรางน้ำรูปตัววีต่างระดับนั้นและเสียหลักลื่นล้มลงอย่างแรง กระดูกข้อเท้าขวาหลุดและแตกหัก อาการหนักพอดู.... หลังเกิดเหตุคุณจุฬาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเขลางค์นคร – ราม ลำปาง โดยเท้าซ้ายกระดูกนิ้วก้อยร้าว และเท้าขวากระดูกเท้าหักจนผิดรูป แพทย์ลงความเห็นต้องผ่าตัดทันที จึงอยู่รักษาตัวระหว่างวันที่ 12-15 ธันวาคม 2550 “ตัวแทนห้างฯ เขาก็นำกระเช้ามาเยี่ยมแล้วก็ยอมรับถึงสภาพที่เกิดเหตุ แล้วก็บอกว่าจะเร่งแก้ไขนะ พร้อมทั้งบอกกับเราว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของเราทั้งหมด แต่ว่าขอให้เราพักรักษาตัวที่ลำปาง เราก็ฟังเขานะ” ในวันนั้นทางห้างฯ เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะรับผิดชอบ แต่หลังจากปรึกษากับญาติและทีมแพทย์ของโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ที่กรุงเทพ ซึ่งแนะนำให้มาฟื้นฟูร่างกายที่กรุงเทพฯ จะดีกว่า เนื่องจากเธอเป็นคนสูงอายุและไม่ใช่คนในพื้นที่ การที่ญาติจะมาดูแลย่อมเป็นเรื่องที่ลำบาก เธอจึงตัดสินใจแจ้งกับตัวแทนของห้างฯ เพื่อขอย้ายตัวมารักษาฟื้นฟูร่างกายที่กรุงเทพฯ แทน “ทางห้างฯ เขาอยากให้เรารักษาตัวที่ลำปาง เพราะทางห้างฯ สาขาลำปางไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายนอกพื้นที่จังหวัดลำปางได้ แต่เขาก็จะเอาข้อเสนอของเราไปแจ้งผู้บริหารแล้วจะกลับมาบอกเรา เราก็รออยู่ 2 วัน แต่ก็ไม่มีคำตอบอะไรก็เลยย้ายมารักษาตัวที่โรงพยาบาลพระมงกุฎในวันที่ 15 ธันวาคม” คุณจุฬาย้อนเล่าเหตุการณ์ จากการพักรักษาตัวที่ลำปางมีค่าใช้จ่ายเบื้องต้นประมาณ 83,497บาท รวมค่าเดินทางและที่พัก โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทางห้างดังกล่าวเลย วันที่ 13 มกราคม 2550 คุณจุฬาได้ให้เพื่อนที่ไปด้วยกันไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง (สภ.อ.) จังหวัดลำปาง ไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะพร้อมย้ายการรักษามายังโรงพยาบาลพระมงกุฏ กรุงเทพฯ ซึ่งต้องอยู่รักษาที่โรงพยาบาลเบื้องต้นตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม – 24 กุมภาพันธ์ 2550 มีค่าใช้จ่าย 149,311.50บาท รวมถึงมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการผ่าตัดครั้งที่ 2 เป็นจำนวน 100,000 บาท “หลังจากย้ายโรงพยาบาล และเข้ารับการรักษาไดัระยะเวลาหนึ่งก็ทำหนังสือเพื่อร้องเรียนไปยังบิ๊กซีฯ สำนักงานใหญ่ ในวันที่11 กุมภาพันธ์ 2550 พร้อมทั้งทำสำเนาส่งถึงนายกเทศมนตรีลำปางเกี่ยวกับกรณีความไม่ปลอดภัยของพื้นที่ห้าง หลังจากนั้นวันที่ 8 มีนาคม 2550 ก็ได้รับหนังสือชี้แจงตอบกลับจากบิ๊กซีว่าไม่มีส่วนต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย โดยเขาชี้แจงว่าได้มีการดูแลไปตามสมควรแล้ว” หลังจากนั้นนายกเทศมนตรีลำปางส่งจดหมายถึงคุณจุฬาในวันที่ 4 เมษายน 2550 ว่าได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณเกิดเหตุแล้ว พบว่าไม่ปลอดภัยจริง จึงทำหนังสือถึงห้างให้แก้ไข “เราก็ไม่รู้นะว่าทางวิศวกรเขาออกแบบมาได้อย่างไร เพราะโดยทั่วไปท่อหรือรางระบายน้ำ ก็จะต้องมีฝาครอบมาปิด ไม่ควรที่จะเปิดทิ้งไว้อย่างนี้” คุณจุฬาเสริม คุยไม่เวิร์ก ก็ต้องฟ้องเมื่อได้รับจดหมายตอบกลับมาเช่นนั้นเธอก็ได้ขอนัดเพื่อเจรจากับทางบิ๊กซี แต่ไม่มีผู้ใดเข้าเจรจาด้วย เธอจึงตัดสินใจดำเนินเรื่องยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ในวันที่ 9 มกราคม 2551 โดยได้รับความช่วยเหลือจากมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เรียกร้องค่าเสียหายพร้อมค่าชดเชยรวม 1,149,000 บาท ซึ่งในขณะนั้น พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค ยังไม่มีผลบังคับใช้ ศาลชั้นต้นวินิจฉัยให้ชนะคดีในวันที่ 11 กรกฎาคม 2551 ทางบิ๊กซีฯ ต้องชดใช้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 405,808.50บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ตั้งแต่วันเกิดเหตุ เนื่องจากพิจารณาจากที่เกิดเหตุแล้วเห็นว่า จำเลยซึ่งประกอบธุรกิจห้างสรรพสินค้า ประมาทเลินเล่อ ไม่คำนึงถึงประชาชนที่เข้ามาใช้บริการ “โดยส่วนตัวแล้วก็เป็นคนที่ไม่ชอบปล่อยอะไรที่ไม่ถูกต้องให้ผ่านเลยไป ถ้าหากเราปล่อยให้สิ่งเหล่านี้ผ่านไปอีกมันก็จะเกิดวัฒนธรรมของการละเมิดสืบต่อกันไปเรื่อยๆ แล้วเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าจะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้อีก ก็ทำให้เราคิดที่จะลุกขึ้นมาสู้ แต่ก็คิดอยู่นานนะทั้งหาข้อมูลแล้วก็ปรึกษากับคุณรสนา และคุณสารี ทางครอบครัวก็คัดค้านไม่ให้ฟ้อง เพราะเรื่องศาลเป็นเรื่องที่ยืดเยื้อ แต่สุดท้ายเราก็คิดว่าถ้าเราฟ้อง เราก็จะสร้างบรรทัดฐานว่าผู้ประกอบการจะต้องรับผิดชอบผู้บริโภค เราก็เลยตัดสินใจฟ้อง” ถึงแม้ศาลชั้นตนจะมีคำตัดสินออกมาแล้วทั้ง 2 ฝ่ายต่างใช้สิทธิอุทธรณ์ต่อศาล โดยคุณจุฬาใช้สิทธิเพื่อแสดงสิทธิเรื่องความเท่าเทียมกันและเพื่อสร้างบรรทัดฐานในสังคม ขณะที่ทางด้านบิ๊กซีเห็นว่าเป็นจำนวนเงินที่มากเกินไปจึงยื่นขอสิทธิทุเลาบังคับคดี และศาลมีคำสั่งให้บิ๊กซีนำหลักทรัพย์มาวางประกัน ในวันที่ 24 เมษายน 2552 ทางบิ๊กซีได้นำพันธบัตรของบริษัท แอ็กซ่า ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่รับผิดชอบตรงบริเวณเกิดเหตุ มาวางเป็นหลักประกัน แต่ทางศาลเห็นว่าหลักทรัพย์ดังกล่าวไม่สามารถรับประกันได้ว่า ทางบิ๊กซีจะต้องเข้ามารับผิดชอบในเรื่องนี้ ศาลจึงคัดค้านหลักประกันดังกล่าว เพราะถือว่าไม่ปฏิบัติตามที่กำหนดที่ให้เอาเช็คเงินสดมาวางเป็นหลักทรัพย์ จึงมีผลให้คำร้องขอทุเลาบังคับคดียกเลิกไป แต่วันที่ 30เมษายน 2552 ทางบิ๊กซียื่นขอทุเลาการบังคับคดีอีกครั้ง และคำร้องยกเลิกไป เพราะยังเอาหลักทรัพย์ค้ำประกันเดิมมาวาง พร้อมกับที่ศาลสั่งให้นำหลักทรัพย์ใหม่มาวางประกันภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2552 ทั้งในวันที่ 29 พฤษภาคม 2552 และ 17 มิถุนายน 2552 และ 1 กรกฎาคม2552 และ 16กรกฎาคม2552 ทางบิ๊กซีได้ยื่นขอทุเลาบังคับคดีและศาลยกคำร้อง จนกระทั่งวันที่ 7 กันยายน 2552 ทางบิ๊กซีชี้แจงว่า ยังไม่สามารถดำเนินการตามคำสั่งศาลได้เนื่องจากยังไม่มีเงินสดตามจำนวน พร้อมยืนยันหลักทรัพย์เดิมของทางบริษัทแอ็กซ่า ประกันภัย ศาลจึงเลื่อนมาพิจารณาเมื่อวันที่ 14 กันยายน2552 โดยพิจารณาแล้วจึงมีคำสั่งยกคำร้องขอทุเลาบังคับคดี ส่งผลให้วันที่ 15 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา คุณจุฬา พร้อมเจ้าหน้าที่จากกรมบังคับคดี เดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์สำนักงานใหญ่เพื่อยึดทรัพย์ที่เป็นของบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ตามมูลค่า 405,808.50 พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ รวมทั้งสิ้นเป็นมูลค่า 576,660.33บาท ซึ่งท้ายที่สุดทางบิ๊กซียินยอมจ่ายเป็นเช็คเงินสดเต็มจำนวน อะไรคือสำนึกดีสังคมดีการลุกขึ้นมาสู้เพื่อสิทธิของคุณจุฬาครั้งนี้กินว่าเวลาการต่อสู้กว่า 2 ปี สิ่งที่เธอหวังว่าอยากจะเห็นก็คือ Corporate Social Responsibility (CSR) หรือ ความรับผิดชอบทางสังคมของธุรกิจ จะเกิดขึ้นจริง “อยากให้ผู้ประกอบการตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่อยากให้เอาเปรียบสังคมจนเกินไป ไม่อยากเห็น CSR ให้เป็นเพียงเครื่องมือทำบุญล้างบาปเท่านั้น ควรจะตระหนักให้มากทั้งความรับผิดชอบต่อสังคม ต่อสิ่งแวดล้อม เพราะทุกอย่างเกี่ยวข้องกันไปหมด ผู้บริโภคอย่างเราๆ เองก็เช่นกันนอกจากจะใช้แล้วก็ต้องคอยติดตามเรื่องราวที่ตัวเราใช้สิทธิไปเช่นกัน แล้วเมื่อพบอะไรที่เอาเปรียบกับสังคมก็ต้องช่วยกันแก้ไข ไม่ควรเพิกเฉยหรือปล่อยให้สิ่งไม่ถูกต้องผ่านพ้นไป” และนั่นคืออีกบุคคลที่ฉลาดซื้อขอยกย่องค่ะ สวัสดีปีใหม่ทุกคนนะคะ คงเพราะคำว่าตามสมควร มีคำนิยามที่แตกต่างกัน การนำกระเช้าของขวัญมาเยี่ยมที่โรงพยาบาล การเสนอรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลโดยยื่นข้อแม้ว่าต้องรักษาที่ลำปางเท่านั้นจึงจะสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายได้ นั่นคืออีกนิยามของคำว่าตามสมควรแล้วของห้างบิ๊กซีฯ

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า250 Point