ฉบับที่ 255 กระแสต่างแดน

คิดก่อนซื้อ        กว่าร้อยละ 50 ของครัวเรือนในฝรั่งเศสจะมีสัตว์เลี้ยงอย่างน้อยหนึ่งตัว ภาพของคนปารีสที่พาสุนัขไปด้วยกันทุกที่ ไม่ว่าจะขึ้นรถไฟ เข้าคาเฟ่ หรือร้านอาหาร ก็เป็นสิ่งที่พบเห็นจนชินตา         อย่างไรก็ตาม แต่ละปีมีหมาแมวถูกทิ้งไม่ต่ำกว่า 10,000 ตัว โดยเฉพาะช่วงพฤษภาคมถึงสิงหาคมซึ่งเป็นวันหยุดฤดูร้อน เพราะเจ้าของไม่สะดวกจะพาไปด้วยแต่ก็ไม่สามารถหาสถานที่รับเลี้ยงได้ ล่าสุดเมื่อคนเริ่มกลับเข้าออฟฟิศหลังการระบาดของโควิด 19 ก็มีสัตว์เลี้ยงถูกทิ้งเพิ่มขึ้นเช่นกัน         จึงเป็นที่มาของกฎหมายใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ในอีกสองปีข้างหน้า (2567) ที่ห้ามจำหน่ายสัตว์เลี้ยง “หน้าร้าน” เพื่อป้องกันการซื้อโดยไม่ไตร่ตรองให้รอบคอบโดยผู้คนที่เดินผ่านไปมา ใครที่อยากเลี้ยงก็ต้องติดต่อขอซื้อกับร้านค้าที่ได้รับอนุญาต คอกเพาะพันธุ์ หรือไม่ก็ขอรับเลี้ยงจากศูนย์ดูแลสัตว์ เท่านั้น         การซื้อขายสัตว์เลี้ยงออนไลน์ระหว่างผู้บริโภคก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน และในอนาคตกฎหมายยังห้ามนำโลมาและวาฬมาแสดงโชว์ (ปี 2569) และห้ามคณะละครสัตว์นำสัตว์ป่ามาร่วมแสดงด้วย (ปี 2571)     มือปราบขยะพิษ        ผลงานล่าสุดของปฏิบัติการ “คุนหลุน 2022” คือการจับกุมผู้ต้องสงสัย 22 คนที่กำลังขนถ่าย “ขยะ” ที่เป็นผลพวงจากการผลิตแบตเตอรีลิเธียมไอออน จากโรงงานในเสฉวนไปแอบทิ้งลงแม่น้ำในเขตฉงชิ่ง         เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีการแอบทิ้งขยะในแม่น้ำเจียหลิง (สาขาของแม่น้ำแยงซี) จากการสอบสวนพบว่ามีขยะดังกล่าว ซึ่งมีส่วนประกอบของแมงกานีส นิกเกิล และสังกะสี ทำให้เกิดมลพิษที่เป็นอันตรายต่อทั้งคน พืช และสัตว์น้ำ ถูกทิ้งลงแม่น้ำไปแล้ว 47,000 เมตริกตัน                 ผู้ที่ทำสัญญารับงาน “ทิ้งขยะ” จากโรงงานดังกล่าว อ้างว่าได้ว่าจ้างทีมรถบรรทุกมาทำการขนส่ง แต่ทีมนี้กลับนำไปทิ้งไม่ถูกที่ แต่ตำรวจยังไม่เชื่อและการสืบสวนยังดำเนินต่อไป         แถบเศรษฐกิจแม่น้ำแยงซีครอบคลุมพื้นที่ 9 มณฑล และอีก 2 เทศบาล และเป็นที่อยู่อาศัยของร้อยละ 40 ของประชากรจีน แผน “คุนหลุน 2022” ที่เปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเพื่อรับมือกับคดีที่เกี่ยวกับอาหาร ยา สิ่งแวดล้อม และทรัพย์สินทางปัญญา สามารถดำเนินคดีได้แล้ว 76 คดีขอใช้ไฟ        ผู้ใช้ไฟฟ้าคนหนึ่งในรัฐกรณาฏกะ ประเทศอินเดีย เดินทางไปที่สำนักงานการไฟฟ้าท้องถิ่นของ MESCOM ทุกวันเพื่อบดเครื่องเทศและชาร์จโทรศัพท์ หลังไม่ได้รับการแก้ปัญหาเรื่องไม่มีไฟฟ้าใช้         ชายคนดังกล่าวซึ่งเป็นเกษตรกร บอกว่าเขาได้พยายามโทรติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อแจ้งปัญหาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ได้รับคำตอบที่น่าพอใจ จนเขาตัดสินใจพบกับเจ้าหน้าที่ที่สำนักงาน หลังจากมีปากเสียงกัน เจ้าหน้าที่ซึ่งมีตำแหน่งเป็นวิศวกรอาวุโส ก็พูดกับเขาทำนอวว่า “ถ้าลำบากนักก็มาใช้ไฟที่สำนักงานเลยสิ” ชายคนนี้ก็มาจริงๆ และมาทุกวัน เป็นเวลา 10 เดือนแล้ว         หลังจากเรื่องนี้ติดเทรนด์ในอินเทอร์เน็ต ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นคือ พนักงานผู้น้อย 10 คน โดนใบแจ้งเตือนฐานยินยอมให้บุคคลภายนอกเข้ามาใช้ไฟฟ้าของบริษัท ในขณะที่ชายคนดังกล่าวก็ยังไม่มีไฟฟ้าไว้ใช้เดินปั๊มสูบน้ำทำการเกษตรแต่อย่างใด             ข่าวระบุว่าพื้นที่แถบบ้านของเขามีไฟฟ้าใช้รวมแล้วเพียงวันละ 3 – 4 ชั่วโมงเท่านั้น  แบนต่อเลยได้ไหม        ออสเตรเลียเตรียมพิจารณายกเลิกการแบนรีวิวหรือการรับรองบริการศัลยกรรมความงามโดยคนไข้          แน่นอนว่าทั้งสมาคมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านโซเชียลมีเดียไม่เห็นด้วย เพราะหากปล่อยให้คลินิกเหล่านี้ใช้ “รีวิวจากคนไข้” ในการโฆษณาได้อย่างเสรี ปัญหาที่มีจะยิ่งเลวร้ายขึ้น         นอกจากจะไม่สามารถตรวจสอบหรือพิสูจน์คำพูดเหล่านั้นได้แล้ว ผู้บริโภคก็ไม่มีโอกาสได้เห็นรีวิวเชิงลบของบริการดังกล่าวในเว็บไซต์ของคลินิกเสริมความงามแน่นอน ที่สำคัญคลิปรีวิวเหล่านี้มักถูก “ถ่ายทำ” ทันทีหลังการผ่าตัด บางครั้งคนไข้อาจยังไม่สร่างจากฤทธิ์ยาแก้ปวดด้วยซ้ำ            ทุกวันนี้การใช้แฮชแท็กของแพทย์บางคนในอินสตาแกรมก็ไม่ต่างอะไรกับการล้างสมองให้สาวๆ รู้สึกว่าการเสี่ยงใช้บริการที่มีความเจ็บปวด อย่างการดูดไขมันหรือเสริมหน้าอก เป็นเรื่องที่ควรทำ         ออสเตรเลียได้ทำการสอบสวนพฤติกรรม “ขายเก่ง” ของแพทย์กลุ่มหนึ่งที่ถูกสื่อมวลชนเปิดโปงไปก่อนหน้านี้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีศัลยแพทย์หรืออินฟลูเอนเซอร์คนใดถูกลงโทษ รวมให้เสร็จ        รัฐนิวยอร์กแบน “ค่าธรรมเนียมแฝง” ในการจองตั๋ว หมายความว่าราคาตั๋วสำหรับการแสดงสดหรือการแข่งขันกีฬาที่ผู้ใช้เห็นในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน จะต้องเป็น “ราคาสุดท้าย” ไม่มีอะไรมาบวกเพิ่มอีก และต้องอยู่ในตำแหน่งที่ผู้บริโภคมองเห็นได้อย่างชัดเจน          กฎหมายที่ว่านี้ยังห้ามคิดค่า “เดลิเวอรี” กับตั๋วออนไลน์ที่ผู้ซื้อต้องสั่งพรินต์เอง รวมถึงเพิ่มโทษสำหรับการใช้ซอฟต์แวร์หรือบ็อทในการซื้อตั๋วด้วย         ด้าน Ticketmaster ตัวแทนจำหน่ายตั๋วรายใหญ่ที่สุดในอเมริกาออกมาชื่นชมและสนับสนุนกฎหมายดังกล่าว และแสดงความยินดีกับบรรดาศิลปินที่จะสามารถกำหนดราคาตั๋วการแสดงสดของตนเองให้แฟนๆ ได้ซื้อในราคาที่เหมาะสม        อย่างไรก็ตามประเด็นที่ถูกตัดออกไปก่อนที่ร่างกฎหมายดังกล่าวจะผ่านการพิจารณาได้แก่ เรื่องการขอเงินคืนกรณีที่เกิดความล่าช้าเพราะโรคระบาดโควิด 19 และการลดสัดส่วน “ตั๋วพิเศษ” สำหรับคนวงในและวีไอพี

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 239 บอกเลิกสัญญา Work & Travel เพราะโควิด-19

วัยรุ่นจำนวนไม่น้อยอยากไป Work & Travel ในต่างประเทศ เพราะนอกจากการทำงานระยะสั้น ๆ หาประสบการณ์แล้ว ยังได้ท่องเที่ยวในประเทศนั้นๆ ด้วย เช่นเดียวกับคุณกันตพล ที่อยากให้ลูกชายได้เปิดประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศ จึงตัดสินใจส่งลูกชายเข้าโครงการ Work & Travel ในประเทศสหรัฐอเมริกากับบริษัทตัวแทนแห่งหนึ่งระยะเวลา 3 เดือน โดยคุณกันตพลได้ผ่อนค่าใช้จ่ายเป็นรายงวด รวมเป็นเงินทั้งหมดแล้วเกือบ 80,000 บาท         แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส ทำให้กำหนดการการเดินทางไปทำงานและท่องเที่ยวที่อเมริกาของลูกชายคุณกันตพลต้องพับลง บริษัทที่จัดโครงการ Work & Travel ได้แจ้งกับคุณกันตพลว่า ไม่สามารถดำเนินโครงการต่อไปได้เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น โดยทางบริษัทจะคืนเงินให้ประมาณ 50,000 บาท         คุณกันตพลทราบดังนั้น ก็คิดว่าเงินที่บริษัทคืนให้นั้นน้อยเกินไปหรือไม่ ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้นคุณกันตพลได้ชำระไปแล้วล่วงหน้าแล้ว ไม่ว่าจะเป็นค่าโครงการ ค่าธรรมเนียมวีซ่า ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน การที่บริษัทหักเงินไปเกือบ 30,000 บาทนั้นดูไม่เป็นธรรมเอาเสียเลย แนวทางการแก้ไขปัญหา                 กรณีที่บริษัทแจ้งว่าไม่สามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสนั้น เท่ากับเป็นการบอกเลิกสัญญา ซึ่งจะต้องคืนเงินให้แก่ผู้บริโภคโดยทันที หากจะมีการหักค่าใช้จ่ายใดๆ ก็ต้องชี้แจงรายละเอียดของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน มีการแสดงเอกสารหลักฐานค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงให้ได้ทราบอย่างครบถ้วน ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็สามารถใช้สิทธิฟ้องร้องได้         ทั้งนี้ ผู้บริโภคเองสามารถบอกเลิกสัญญากับบริษัทที่จัดทำโครงการในลักษณะ Work & Travel ได้ โดยทำหนังสือบอกเลิกสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรส่งแบบไปรษณีย์ตอบรับ หากทางบริษัทเอเจนซี่จะหักค่าใช้จ่ายใดๆ ก็ต้องชี้แจงและแนบหลักฐานให้ผู้บริโภคได้รับทราบด้วยเช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 227 ทัวร์เกาหลีอลวนจนไม่ได้ไป

        การเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ หลายท่านนิยมจัดการธุระต่างๆ ด้วยตนเอง แต่อีกหลายคนก็เลือกใช้บริการบริษัททัวร์เพราะคิดว่าน่าจะสะดวกกว่า เสียค่าธรรมเนียมบ้างแต่ไม่ต้องกังวลปัญหาที่อาจคาดไม่ถึงหากต้องจัดการเอง แต่กระนั้นปัญหาคาดไม่ถึงจากการใช้บริการบริษัททัวร์ก็อาจเกิดขึ้นได้ เราลองมาดูกัน          เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ของคุณสายชลที่มาขอคำปรึกษากับศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค         อย่างที่หลายท่านทราบ เกาหลีกับไทยนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดี จนทำให้คนไทยไม่จำเป็นต้องใช้วีซ่าเข้าประเทศเกาหลีสำหรับการท่องเที่ยว และเกาหลีนั้นก็มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ สวยงาม จนคนไทยหลายคนใฝ่ฝันจะไปท่องเกาหลีกันสักครั้ง แม้ว่าระยะหลังจะมีข่าวคราวที่ทำให้ภาพลักษณ์ของนักเที่ยวไทยเสียหายเพราะบางคนไม่ได้ตั้งใจไปเที่ยวแต่แอบเข้าไปเพื่อทำงานแบบผิดกฎหมาย จนเกาหลีเริ่มเข้มงวดจับตานักเที่ยวไทยมากขึ้น แต่มนต์เสน่ห์ของเกาหลีก็ยังไม่จางหายไป คุณสายชลก็เป็นหนึ่งในนั้น          คุณสายชลตั้งใจไปเกาหลีโดยใช้บริการของบริษัททัวร์แห่งหนึ่ง ในที่นี้ขอเรียกว่าบริษัทซี  และได้จ่ายค่าดำเนินการต่างๆ ไปทั้งสิ้น 30,000 บาท ด้วยการโอนผ่านบัญชีธนาคาร ทุกอย่างเรียบร้อยดีจนถึงวันเดินทาง เหตุไม่คาดฝันก็เกิด เมื่อพนักงานบริษัทซีที่มาดำเนินการติดต่อประสานงานกับเคาน์เตอร์สายการบิน ที่จะพาคุณสายชลไปเกาหลีนั้น ไม่สามารถตอบคำถามกับพนักงานของสายการบินได้ อีกทั้งเอกสารเกี่ยวกับการเดินทางก็มีความผิดพลาด จนสุดท้ายทางสายการบินปฏิเสธไม่ให้เธอเช็คอินและยกเลิกตั๋ว ซึ่งความเสียหายนี้ไม่เพียงแค่อดไปเที่ยวเท่านั้น แต่ยังหมายถึงค่าเดินทาง ค่าที่พัก ตลอดจนการลาหยุดงานและนัดหมายต่างๆ ต้องปรับเปลี่ยนทั้งหมด เธอจึงเรียกร้องขอให้บริษัทซีคืนเงินทั้งหมดและชดเชยค่าเสียหายเพิ่มเติมด้วย         “ตอนที่ติดต่อไป ทางบริษัทฯ ปฏิเสธว่าทำดีที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตามจะโอนเงินคืนให้พร้อมระบุวันที่ชัดเจน แต่เมื่อถึงเวลากลับไม่เป็นไปตามที่ตกลง บริษัทฯ อ้างว่า สายการบินไม่ยอมโอนเงินคืนบริษัทฯ และผัดผ่อนเรื่อยมา จนเข้าเดือนที่หกแล้ว  ดิฉันควรทำอย่างไรดี”  แนวทางแก้ไขปัญหา         เบื้องต้นได้แนะนำให้คุณสายชลดำเนินการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน เพราะมีส่วนที่เข้าข่ายคดีอาญาได้ และจะช่วยดำเนินการเจรจากับทางบริษัทต่อไปเพื่อขอให้คืนเงินค่าดำเนินการท่องเที่ยว 30,000 บาท ขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างเจรจา อย่างไรก็ตาม เราขอนำเสนอเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่ต้องการท่องเที่ยวด้วยบริษัททัวร์ แม้จะมั่นใจบริษัททัวร์แค่ไหน แต่ก็อย่าวางใจ ควรตรวจสอบเอกสารต่างๆ ให้มั่นใจอีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้ได้เดินทางอย่างสะดวกโดยเฉพาะประเทศเกาหลี ซึ่งปัจจุบันมีการตรวจสอบการเข้าเมืองที่ค่อนข้างเข้มงวดกับนักเดินทางชาวไทย  

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 192 Transit การเดินทางด้วยรถไฟและรถไฟฟ้าแต่ละประเทศ

ตั้งแต่การคมนาคมสะดวกรวดเร็ว มีสายการบินเพิ่มขึ้นหลากหลาย ทำให้ผู้บริโภคที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวไปต่างประเทศมีทางเลือกมากขึ้น ประกอบกับราคาค่าเดินทางของสายการบินที่แข่งขันกัน จึงทำให้ราคาถูกมากกว่าเดิม และลองสังเกตดีๆ จะเห็นว่าราคาตั๋วเครื่องบินไปต่างประเทศถูกมากเมื่อเทียบเท่ากับราคาตั๋วเครื่องบินที่เดินทางภายในประเทศ จึงเป็นจุดที่ทำให้ผู้คนหันเหไปท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้นฉบับนี้ผู้เขียนขอเอาใจผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวไปประเทศต่างๆ แบบท่องเที่ยวด้วยตนเองสักหน่อย แอพพลิเคชั่นนี้จะทำให้ผู้เดินทางสามารถเรียนรู้เส้นทางการเดินรถไฟและรถไฟฟ้าของประเทศนั้นได้ก่อนเดินทางไป โดยไม่ต้องไปเสียเงินซื้อคู่มือเส้นทางการเดินรถแอพพลิเคชั่นนี้ผลิตโดยประเทศญี่ปุ่น แต่ได้พัฒนาไว้หลายประเทศ ได้แก่ ไต้หวัน อังกฤษ เกาหลี สิงคโปร์ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย จีน ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมัน อินโดนีเซีย สวิตเซอร์แลนด์ และอาจจะมีมากกว่านี้การค้นหาแอพพลิเคชั่นให้ใช้คำว่า Transit ตามหลังชื่อประเทศที่ต้องการดาวน์โหลด เช่น ประเทศเกาหลี ใช้คำว่า Korea Transit, ประเทศฮ่องกง ใช้คำว่า Hong Kong Transit, ประเทศสิงคโปร์ใช้คำว่า Singapore Transit เป็นต้น ภายในแอพพลิเคชั่นจะมีภาษาอังกฤษและภาษาท้องถิ่นของประเทศกำกับ ผู้ใช้สามารถเลือกสถานีที่เริ่มต้นและสถานีปลายทางที่ต้องการไป โดยให้กดตรงสัญลักษณ์วงกลมของสถานีนั้นๆ แล้วเลือกว่าเป็นสถานีเริ่มต้นหรือสถานีปลายทาง และตรงสัญลักษณ์ยังปรากฏคำว่า hotels around the spot หมายถึง ข้อมูลโรงแรมที่ตั้งโดยรอบสถานี ซึ่งจะทำให้สะดวกในการค้นหาโรงแรมที่ใกล้กับสถานีรถไฟได้อีกด้วยเมื่อได้สถานีที่ต้องการเดินทางแล้วให้กดเลือก Depart now แอพพลิเคชั่นจะแสดงเส้นทางสายรถไฟที่ต้องเดินทางหรือต้องเปลี่ยนขบวน พร้อมทั้งช่วงเวลาในการเดินทางการ เพื่อใช้สำหรับคำนวณระยะเวลาในการเดินทางแต่ละทริปด้วยนอกจากนี้ยังมีแอพพลิเคชั่นที่มีลักษณะเดียวกัน โดยใช้การค้นหาแอพพลิเคชั่นคำว่า Rail ตามหลังชื่อประเทศที่ต้องการดาวน์โหลดเช่นกัน แอพพลิเคชั่นนี้จะเพียงแค่กดเลือกสถานีที่ต้องการเริ่มต้น หลังจากนั้นจะปรากฏเส้นทางการเดินทางที่ต้องผ่านแต่ละสถานีให้เลือกอีกครั้งแอพพลิเคชั่นทั้งสองรูปแบบมีเส้นทางการเดินทางของประเทศไทยเช่นกัน ชื่อแอพพลิเคชั่น Bangkok Transit และ Thailand Rail และขอแนะนำว่าผู้อ่านลองดาวน์โหลดรูปแบบการเดินทางของประเทศไทยมาศึกษาก่อน เพื่อให้เกิดความชำนาญและเข้าใจมากขึ้น เมื่อไปใช้แอพพลิเคชั่นของประเทศต่างๆ

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 187 กรณีการเกิดอุบัติเหตุเมื่อเช่ารถขับในต่างประเทศ

เมื่อเดือนที่แล้วผมได้เดินทางไปแถบสวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และเยอรมนี เพื่อพักผ่อนกับครอบครัว เราตกลงว่าจะเช่ารถขับเพราะสะดวกกว่าในเรื่องการขนย้ายกระเป๋าสัมภาระ และราคาไม่ต่างกันมากนักเมื่อเทียบกับการเดินทางโดยรถไฟและรถสาธารณะ การเดินทางไปเที่ยวครั้งนี้ เรามีเวลาเตรียมตัวนานพอสมควร ทำให้สามารถเลือกจองรถเช่าและที่พักที่ราคาประหยัดได้มาก และเว็บไซต์การจองที่พักบางเว็บไซต์ ก็สามารถจองก่อนและยกเลิกการจองในภายหลังได้ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆ หากยกเลิกการจองได้ทันตามกำหนดที่เว็บไซต์การจองระบุไว้ ซึ่งโอกาสหน้าจะได้มาเล่าเรื่อง ระบบการจองที่พักผ่านเว็บไซต์เหล่านี้ ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางด้วยตนเอง ไม่ต้องพึ่งพาบริษัทจัดทัวร์โดยทั่วไปการเช่ารถผ่านเว็บไซต์นั้น จะเช่าผ่านนายหน้า ดังนั้นก่อนจะทำการจองรถในขั้นตอนสุดท้ายนั้น สมควรที่จะตรวจสอบราคาและอัตราการเช่าเปรียบเทียบกับการเช่ารถโดยตรงผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทให้เช่ารถให้แน่ใจเสียก่อนสำหรับขั้นตอนการไปรับรถนั้น บางบริษัทไม่ได้ระบุถึงวงเงินประกันรถในเงื่อนไขการจอง เราจึงควรสอบถามบริษัทให้แน่ใจอีกครั้งว่า วงเงินในการประกันรถเป็นจำนวนเงินเท่าใด โดยปกติทางบริษัทให้เช่ารถมักจองวงเงินของบัตรเครดิตที่เราใช้จองรถ ซึ่งเราควรเตรียมวงเงินประกันในบัตรเครดิตให้เพียงพอด้วยเช่นกันนอกจากนี้ในขั้นตอนการรับรถ บางบริษัทไม่มีเจ้าหน้าที่ส่งมอบรถ ดังนั้นเราควรตรวจสภาพรถให้ดีอีกครั้งหนึ่ง หากมีรอยหรือสภาพรถมีปัญหา ก็ต้องแจ้งให้ทางพนักงานบริษัทที่จัดทำเอกสารรับทราบโดยทันทีเงื่อนไขและการเคลมประกันหากเกิดอุบัติเหตุโดยทั่วไปการเช่ารถมักจะมีเงื่อนไขการทำประกันแบบ fully comprehensive insurance without retention การทำสัญญาประกันลักษณะนี้ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายผิดหรือไม่ ประกันจะคุ้มครองความเสียหายทั้งหมด ในกรณีที่ผู้เช่ารถเป็นฝ่ายผิด ผู้เช่ารถอาจต้องจ่ายความเสียหายส่วนแรกตามที่ระบุไว้ในสัญญาเช่ารถ และสามารถนำหลักฐานการชำระเงินตลอดจนหลักฐานอื่นๆ สำหรับการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวไปขอรับเงินที่ชำระก่อนแล้วคืนจากนายหน้าที่ที่ทำนิติกรรมกันทางเว็บไซต์ โดยหลักฐานเอกสารสำคัญ ที่เป็นเงื่อนไขในการเคลมเงินประกัน คือ เอกสารการแจ้งความที่ออกโดยตำรวจ บางครั้งตำรวจอาจปฏิเสธที่จะเดินทางมายังสถานที่เกิดเหตุ เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจน้อยเกินไป ในกรณีนี้ให้ผู้เช่ารถขับรถไปที่สถานีตำรวจเลย และขอให้ตำรวจออกเอกสารที่แสดงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยทั่วไปไม่เกิน 24 ชั่วโมงนับจากเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ควรรีบแจ้งให้บริษัทเช่ารถทราบโดยด่วนอย่างไรก็ตามผู้เช่ารถพึงระลึกไว้ว่า บริษัทประกัน นายหน้าเว็บไซต์รถเช่า อาจไม่จ่ายค่าเสียหายที่เกิดขึ้นหากผู้เช่าตั้งตนอยู่ในความประมาทอย่างร้ายแรง เช่น เมาแล้วขับ เติมน้ำมันเชื้อเพลิงผิดประเภท หรือจอดรถในที่ลาดชันแล้วไม่ใส่เบรกมือสำหรับการเลือกใช้บริการเว็บไซต์บริการรถเช่า สามารถพิจารณาได้จากรีวิวของผู้เช่า และจำนวนดาวที่เว็บไซต์แต่ละที่ได้รับการประเมินซึ่งไม่ควรได้ต่ำกว่า 4 ดาวจาก 5 ดาวนอกจากนี้ในกรณีที่เช่ารถขับ เราควรปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และศึกษาเส้นทางการเดินทางอย่างละเอียด ซึ่งปัจจุบันสามารถใช้ เครื่อง Navigator นำทางไปยังจุดหมายอย่างสะดวกสบายเช่นกัน(ข้อมูลจาก วารสาร Test ฉบับที่ 8/2016)

อ่านเพิ่มเติม >