ฉบับที่ 159 พอกหน้าด้วยสมุนไพรให้ถูกวิธี

สาวชาวเอเชียนั้นไม่ว่าจะสีผิวขาวหรือผิวคล้ำต่างก็ให้ความสำคัญกับผิวที่เรียบเนียน และใสสว่าง เครื่องสำอางที่เกี่ยวกับการทำความสะอาดและการบำรุงเพื่อให้ผิวดูสดชื่น ไม่หมองคล้ำจึงเป็นสินค้าขายดีมาโดยตลอด ความนิยมให้การดูแลผิวโดยเฉพาะส่วนใบหน้าโดยการมาร์คหรือพอกหน้า ก็เป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญเพราะเชื่อว่า การให้อาหารแก่ผิวโดยตรงจะช่วยให้ผิวดูสดชื่นขึ้นแบบทันตา อันที่จริงจะเรียกว่า “ให้อาหาร” ก็คงไม่จริงนัก เพราะผิวคนเรามีความหนาของชั้นผิวที่ไม่ยอมให้อะไรผ่านเข้าไปได้ง่ายๆ การพอกหน้าจึงเป็นได้เพียงแค่ ”การกระทำ” กับผิวชั้นนอกสุด คือเหมือนการเร่งให้ชั้นผิวบนสุดนี้ผลัดผิวได้เร็วขึ้น ผิวเก่าที่หมองคล้ำเมื่อหลุดออกไป ผิวใหม่ที่ปรากฏขึ้นย่อมดูสดใสกว่าแน่นอน ทันตาเห็น ในประวัติศาสตร์ยุคโบราณสตรีชั้นสูงก็นิยมเรื่องการบำรุงผิว พอกผิวเช่นกัน เพราะความสวยย่อมประกันเรื่องสถานะในชนชั้นของตนได้ สมุนไพรและอาหารหลายชนิดจึงถูกคัดสรรมาเพื่อเสริมความงามให้กับสตรีเหล่านี้ นม ไข่มุก ทองคำ น้ำผึ้ง ปรากฏในตำราความงามในหลายเชื้อชาติ ทั้งในอียิปต์ จีน อินเดีย สำหรับสตรีสาวในแถบสุวรรณภูมิ ต้องยกให้สมุนไพรพื้นบ้าน ดูได้จากวรรณคดียุคเก่าเวลานางในวรรณคดีทั้งหลายจะเข้าพิธีสำคัญอย่างการแต่งงาน สมุนไพรอย่าง มะขาม ขมิ้น ฯลฯ จะต้องถูกกล่าวถึง สิ่งเหล่านี้ถูกถ่ายทอด บันทึกผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน ดังนั้นหากจะเลือกนำมาใช้เพื่อการพอกหน้า ขัดผิว ย่อมรับประกันเรื่องความปลอดภัยได้ แต่ท่านไม่ควรประมาท เพราะยังไงก็ต้องคำนึงถึงสิ่งที่ไม่มีในยุคโบราณแต่มันมีอยู่จริงในปัจจุบันคือ การปนเปื้อนของสารเคมีต่างๆ ทั้งโดยจงใจและการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม ฉลาดซื้อจึงนำข้อคิดดีๆ มาแนะนำไว้เพื่อเป็นการประเมินในเบื้องต้น ก่อนที่จะหยิบเอาสมุนไพรหรืออาหารมาใช้เพื่อการพอกหน้าบำรุงผิว การใช้สมุนไพรสำหรับผิวหน้ามีหลักการง่ายๆ ดังนี้ 1.อยู่บนพื้นฐานของความสะอาด สิ่งที่ต้องคำนึงคือ การปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ โดยเฉพาะเชื้อรา เพราะฉะนั้นของสดใหม่ย่อมดีกว่า เก่าเก็บ หรือการปนเปื้อนของสารเคมีอย่างสารเคมีการเกษตร ผัก ผลไม้บางอย่างเหมือนเป็นของพื้นบ้าน แต่บางทีท่านอาจนึกไม่ถึงว่า เป็นผักที่มีการใช้สารเคมีสูงสุดก็เป็นได้ เช่น ใบบัวบก 2.เป็นสมุนไพรที่ปลอดภัย หมายความว่า ควรมีการสืบทอดทางภูมิปัญญาหรือมีข้อมูลยืนยันว่าปลอดภัยในการใช้ อย่าเป็นหนูทดลองกับสมุนไพรบางอย่างที่มีคนฉวยโอกาสโฆษณาเพื่อ “ขาย” สินค้า สมุนไพรที่มีความปลอดภัย จำง่ายๆ ก็คืออะไรที่กินได้ สามารถใช้เป็นเครื่องสำอางได้ 3.อย่าทำบ่อยเกินไป ต้องเชื่อมั่นธรรมชาติของผิวหนังที่มีกลไกดูแลตัวเองอยู่แล้ว ต้องรักษากลไกนั้นไว้นานๆ การทำซ้ำ ทำบ่อยเกินไปอาจเป็นการทำลายสิ่งดีๆ ที่ผิวของเรามีอยู่ก็ได้ 4.ภูมิแพ้ สมุนไพร ทุกอย่างอาจมีบางคนที่แพ้ได้ การทดสอบว่าแพ้หรือไม่ให้นำส่วนผสมที่จะใช้ทาที่ท้องแขนก่อน เพราะผิวหนังบริเวณนี้จะเป็นส่วนที่บางกว่าหน้า ทิ้งไว้สักพักหนึ่งถ้าไม่เกิดอาการแสบร้อน มีผื่น ถือว่าไม่แพ้ 5.ระยะเวลาในการพอกไม่มีสูตรตายตัว การใช้สมุนไพรเพื่อความงามส่วนใหญ่เป็นผลไม้หรือผักที่ไม่ได้ตายตัว สามารถที่ปรับได้ ขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละคน คนที่ผิวแพ้ง่ายควรใช้เวลาน้อยกว่า และการใช้ในช่วงแรกไม่ควรพอกหรือทาทิ้งไว้นานๆ โดยเฉพาะตำรับที่มีกรดผลไม้ การใช้ช่วงแรกๆ ต้องใช้ปริมาณน้อยๆ ไปก่อน และในช่วงเวลาสั้นๆ -------------------------------------------------------------------------------- ครีมมะขาม ปลอดภัยและไม่แพง มะขาม Tamarindus indica Linn. สรรพคุณ ลดรอยด่างดำบนใบหน้า เพิ่มความชุ่มชื้น ป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวหน้าเรียบลื่น ทำให้ผิวหนังสดชื่นลดจุดด่างดำ ฝ้า กระ เพิ่มความชุ่มชื้น ลบรอยเหี่ยวย่น ตำรับความงามที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ซึ่งพบตำรายาสมุนไพรเขียนด้วยภาษาล้านนาว่า "มะขาม ฝักกระดาน สักกำมือแช่น้ำอุ่น ทาตัวทาหน้า ผิวดำและฝ้าย่อมเสี้ยงไป" (เสี้ยง หมายถึง หมดไป) ที่เป็นเช่นนี้เพราะในผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น มะนาว มะขาม จะมีกรดเอเอชเอ (AHA หรือ alpha hydroxy acid) ซึ่งเป็นกรดอ่อนๆ จะช่วยขัดผิว ลอกผิวด่างดำ และฝ้า            การเตรียมมะขาม การใช้มะขามให้ใช้มะขามเปรี้ยวสุก (มะขามหวานใช้ไม่ได้เพราะกรดผลไม้มีน้อย) น้ำคั้นมะขามเปียกที่ดีมีคุณภาพ ต้องได้จากการคั้นมะขามเปียกสดใหม่ และใช้ทันที ถ้าเก็บในตู้เย็นต้องไม่เกิน 1 สัปดาห์ ถ้าหากจะกวนเก็บไว้ใช้นานๆ ต้องกวนจนเกือบแห้งซึ่งมักจะกวนใส่นมหรือน้ำผึ้งก็ได้ การใช้มะขาม มะขามเปียก 1 กำมือ นมสด 1 ถ้วย น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ นำเนื้อมะขามเปรี้ยวสุก ไม่ต้องแกะเมล็ดปั้นเป็น ก้อนกลม ห่อด้วยผ้าขาวบาง ฟอกขัดตัวเมื่ออาบน้ำ จะทำให้ผิวที่คล้ำด้วยแดด หรือลม เป็นผิวที่นวลผ่อง น้ำมะขามเปียกผสมน้ำพอเจือจางล้างหน้าเป็นประจำ ช่วยขจัดความมันบนใบหน้า และสิวให้หลุดออกไปอย่างหมดจด                  หรือทำเป็นครีมมะขาม โดยใช้มะขามเปียกที่แกะเมล็ดแล้วขนาดประมาณ 1 กำมือ นมสด 1 กล่อง ขยำเข้ากัน กรองด้วยตะแกรง เพื่อเอาซังมะขามออก นำไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ พอใกล้งวด เติมน้ำผึ้งลงไป 1 ช้อนโต๊ะ อาจเติมขมิ้นชันลงไปประมาณ ¼ ช้อนชา (ระวังอย่าใส่มากเกินไปจะทำให้หน้าเหลือง) เคี่ยวต่อจนงวด แต่อย่าให้ข้นเกิน สังเกตว่ายังสามารถแตะขึ้นมาได้ง่าย เสร็จแล้วบรรจุลงในกระปุกสะอาด ถ้าไม่เปิดเลยจะอยู่ได้ประมาณ   6 เดือน ใช้ล้างหน้าทุกวันทำให้หน้าขาวขึ้น ที่มา มูลนิธิสุขภาพไทย

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า250 Point