ฉบับที่ 271 หูฟัง 2023

ฉลาดซื้อกลับมาอีกครั้งกับผลทดสอบหูฟังบลูทูธทั้งแบบครอบหูและแบบ “เอียร์บัด” คราวนี้เราคัดเลือกมา 25 รุ่นที่ได้คะแนนอันดับต้นๆ จากการทดสอบเปรียบเทียบที่สมาชิกขององค์กรทดสอบระหว่างประเทศ (International Consumer Research & Testing ร่วมกันทำไว้ในปีนี้  รูปแบบการทดสอบยังคงเหมือนเดิม* แต่เกณฑ์การให้คะแนนมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยจากครั้งก่อน ดังนี้        ร้อยละ 45       คุณภาพเสียง ทั้งเสียงเพลงและเสียงพูด        ร้อยละ 20       การใช้งานและความสบายในการสวมใส่        ร้อยละ 15       ประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวนภายนอก        ร้อยละ 15       แบตเตอรี        ร้อยละ 5          ความทนทาน        ในภาพรวมเราพบว่าหูฟังที่ได้คะแนนรวมสูงที่สุดไม่ใช่รุ่นที่ราคาแพงที่สุด (19,900 บาท) แต่รุ่นที่ราคาถูกที่สุด (2,490 บาท) กลับได้คะแนนน้อยที่สุดด้วยข่าวดีคือถ้าใครพร้อมจะลงทุนประมาณ 4,000 - 5,000 กว่าบาท ก็มีสิทธิ์ได้หูฟังคุณภาพดีไปใช้ฟังเพลง ฟังพอดคาสต์กันเพลินๆ หลายรุ่นมีความสามารถในการกันน้ำ จึงสามารถใส่ออกกำลังกายได้ด้วยรุ่นที่ได้คะแนนรวมสูงสุดเท่ากันสามรุ่น (JBL Tune 770NC, Bose Quiet Comfort SE, และTechnics EAH-AZ80) มีราคาระหว่าง 4,290 – 19,990 บาท แต่ละรุ่นมีข้อดีข้อด้อยต่างกัน ในขณะที่หลายรุ่นที่ราคาเกินหนึ่งหมื่นก็มีคะแนนไม่โดดเด่นนักเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆอยากรู้รายละเอียดว่าใครเป็นใคร พลิกดูรายละเอียดในหน้าถัดไปได้เลย และเพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจบนพื้นฐานของเงินที่อยากจ่าย ในกรณีที่คะแนนรวมเท่ากัน เราจะนำเสนอโดยเรียงลำดับจากรุ่นที่ราคาถูกกว่า หมายเหตุ*โปรดตรวจสอบราคาล่าสุดก่อนตัดสินใจ*ติดตามผลการทดสอบเปรียบเทียบหูฟังครั้งก่อนหน้านี้ได้ในฉลาดซื้อฉบับที่ 233 และ 260

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า0 Point

ฉบับที่ 260 ทดสอบ-หูฟังบลูทูธ-2022

        ฉลาดซื้อฉบับนี้มีผลทดสอบเปรียบเทียบหูฟังไร้สายมาฝากสมาชิกอีกครั้ง เนื่องจากปัจจุบันหูฟังแบบนี้ได้รับความนิยม ผู้บริโภคจึงมีทางเลือกมากขึ้น คราวนี้เราจึงมีให้สมาชิกได้เลือกกันถึง 25 รุ่นที่มาพร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนจากภายนอก* และบลูทูธเวอร์ชันตั้งแต่ 5.0 ขึ้นไป ในสนนราคาระหว่าง 2,000 ถึง 18,500 บาท        ข่าวดีคือเราพบว่ามีหูฟังหลายรุ่นมีประสิทธิภาพดีและราคาไม่แพงเกินไป ในขณะที่บางรุ่นจากยี่ห้อไฮเอนด์ที่ผู้คนฝันอยากครอบครองกลับทำคะแนนได้ไม่ดีอย่างที่คิด    

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า0 Point

ฉบับที่ 233 หูฟังบลูทูธ

        อุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ที่ต้องการความบันเทิงขณะออกกำลังกายหรือผู้ใช้รถสาธารณะที่ต้องมีไว้ควบคู่กับสมาร์ตโฟนคงหนีไม่พ้นหูฟัง หากคุณอยากลงทุนกับหูฟังประเภทไร้สายเพราะมันสะดวกและคล่องตัวกว่า ฉลาดซื้อฉบับนี้ขอนำเสนอผลทดสอบหูฟังบลูทูธ ที่ CHOICE องค์กรผู้บริโภคของออสเตรเลียได้ทำไว้ โดยเลือกมาเฉพาะรุ่นที่ทำคะแนนได้ดี 18 อันดับแรก  สนนราคาระหว่าง 1,300 ถึง 8,990 บาท         ในการทดสอบครั้งนี้ ผู้ให้คะแนนคือผู้เชี่ยวชาญ 5 คน ซึ่งทดลองใช้และให้คะแนนหูฟังแต่ละรุ่นในด้านต่างๆ ดังนี้        -  คะแนนด้านคุณภาพเสียง (เสียงพูด เสียงเพลง: แจ๊ส ร็อค ป้อปและคลาสสิก) ร้อยละ 55        -  ความสบายเมื่อสวมใส่/ความทนทาน (เช่น เมื่อสวมพร้อมแว่น สายไม่พันกัน และวัสดุที่ใช้) ร้อยละ 35        -  โหมดเพิ่มคุณภาพเสียง (เสียงที่รั่วออกจากหูฟัง การตัดเสียงหรือคลื่นรบกวน) ร้อยละ 10         ในภาพรวมเราพบว่าราคายังไม่ใช่ตัวชี้วัดที่ดี รุ่นที่ได้คะแนนสูงสุด 63% ในการทดสอบเปรียบเทียบครั้งนี้ได้แก่ Beats by Dr. Dre Beatsx มีราคาประมาณ 3,600 บาท ในขณะที่ Bang and Olufsen Earset ซึ่งมีราคาเกิน 10,000 บาท กลับได้คะแนนเพียง 53% เท่านั้น         หมายเหตุ: ราคาที่นำเสนอเป็นราคาที่พบในอินเทอร์เน็ตในช่วงเดือนกรกฎาคม 2563 โปรดตรวจสอบกับทางร้านค้าอีกครั้งก่อนตัดสินใจ

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า300 Point

ฉบับที่ 161 หูฟัง 2014

กลับมาอีกครั้ง สำหรับสมาชิกที่ต้องการอัพเดทหูฟังเพื่อประสบการณ์ความรื่นรมย์ส่วนตัว คราวนี้เรามีผลการให้คะแนนหูฟังที่ถูกนำตัวส่งห้องทดสอบขององค์กรทดสอบระหว่างประเทศ (International Consumer Research & Testing) ทั้งหมด 20 รุ่นมาฝากกัน การทดสอบครั้งนี้เน้นสองประเด็นหลักคือ คุณภาพเสียง (ร้อยละ 65) ความรู้สึกสบายและความสะดวกในการสวมใส่ (ร้อยละ 20)  อีกร้อยละ 5 เป็นเรื่องของเสียงรบกวนจากอุปกรณ์บนตัวหูฟังเอง ร้อยละ 5 เป็นการทดสอบความทนทานด้วยการทิ้งหูฟังจากความสูง 1.8 เมตรลงบนพื้นไม้ ทั้งหมด 10 ครั้ง แล้วตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น นอกจากนี้การทดสอบครั้งนี้ยังครอบคลุมไปถึงสารอันตรายในวัสดุที่ใช้ในการผลิต (ร้อยละ 5) ด้วย กรณีหลังนี้ส่วนใหญ่ได้คะแนน 5 ดาว ยกเว้น 2 รุ่นได้แก่ Thomson HED 3103 Heritage และ Hama Joy Slim ที่พบว่ามีสารอันตรายเช่น พทาเลท เป็นส่วนประกอบอยู่ด้วย ในภาพรวม ยังไม่มีหูฟังรุ่นไหนในการทดสอบครั้งนี้ที่ได้คะแนนในระดับ 5 ดาว แต่ข่าวดีคือหูฟังที่เข้าตากรรมการของเราในรอบนี้มากที่สุดคือ Sennheiser HD 229 ที่สนนราคาไม่เกิน 3,000 บาท  สำหรับใครที่เป็นแฟนหูฟังยี่ห้ออื่น ลองตรวจสอบดูได้จากผลทดสอบในหน้าถัดไป                                           //

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า300 Point

ฉบับที่ 128 ฟังหูไว้หู

  หูฟังแพงๆ ดีจริงหรือไม่ แล้วหูฟังที่ทางร้านติดป้าย “สินค้าขายดี” นั้นเสียงดีจริงหรือเปล่า ... ไม่ต้องเดากันอีกต่อไป  เพราะฉลาดซื้อฉบับนี้มีผลทดสอบหูฟังแบบครอบ(ปิดสนิท) ทั้งหมด 10 รุ่น และแบบไม่ปิดสนิทอีก 9 รุ่น ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย ในสนนราคาตั้งแต่ 1,750 ถึง 10,900 บาท ที่องค์การทดสอบระหว่างประเทศ International Consumer Research &Testing (ICRT) เขาทำไว้ มาฝากมิตรรักแฟนเพลงที่พิถีพิถันกับการเลือกหูฟังเป็นพิเศษ การทดสอบครั้งนี้ได้ทดสอบหูฟังที่มีระบบตัดเสียงภายนอก 2 รุ่น ได้แก่ Bose QuietComfort15 และ Creative Aurvana X-Fi  ซึ่งมีราคาไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท  โชคดีที่รุ่นที่ได้คะแนนอันดับต้นๆ ไม่ใช่สองรุ่นนี้ ไม่เช่นนั้นเราคงจะกระเป๋าฉีกแน่  มาดูกันเลยดีกว่า ว่าหูฟังรุ่นไหนจะเป็น “พระกาฬฉลาดซื้อ” ในใจคุณ   The Top Three Sennheiser HD448   ราคา 3,590 บาทน้ำหนักหูฟัง + สาย >> 198 กรัม คุณภาพเสียงคลาสสิก  5แจ๊ซ  5ร็อค  5 สวมใส่สบาย  4พกพาสะดวก  3เก็บง่าย   2     Creative Aurvana Live   ราคา 5,990 บาทน้ำหนักหูฟัง + สาย >> 213 กรัม คุณภาพเสียงคลาสสิก  5แจ๊ซ  5ร็อค  5 สวมใส่สบาย  4พกพาสะดวก  2เก็บง่าย   2.5     Sony MDR-ZX700  ราคา 3,990 บาทน้ำหนักหูฟัง + สาย >> 273 กรัม คุณภาพเสียงคลาสสิก  5แจ๊ซ  4.5ร็อค  4.5 สวมใส่สบาย  4พกพาสะดวก  4เก็บง่าย   0.5     หูฟังแบบครอบ (เต็ม)   รหัสรูป 318 304 322 311 102 321 103 306 313 319 Sennheiser HD448 Creative Aurvana Live Sony MDR-ZX700 Panasonic RP-HTX7 Bose QuietComfort15 Sony MDR-ZX500 Creative Aurvana X-Fi JVC HA-S600-B Philips SHL5800 Scullcandy HESH ราคา 3,590 5,990 3,990 2,890 10,200 1,990 10,990 2,650 2,590 1,990 คุณภาพเสียง                     เพลงคลาสสิก 5 5 5 4 4 4 4 3 3.5 3 เพลงแจ๊ซ 5 5 4.5 4 4 4 3.5 4 3 3 เพลงร็อค 5 5 4.5 4 4 4 4 3.5 3 3 สวมใส่สบาย 4 4 4 4 4 3.5 4 4 4 4 สวมใส่สบายเวลาใสแว่น 4 4 4 4 4 3 4 3.5 4 3 พกพาสะดวก 3 2 4 4 4 4 4 3 2 3 เก็บง่าย 2 2.5 0.5 0.5 4.5 0.5 4.5 1.5 0.5 2 ทำความสะอาดง่าย 2 2.2 2.5 3 3 2 3 2.5 2.5 2.5 ข้อมูลจำเพาะ ความต้านทานขณะปิด (โอห์ม) 32 32 24 40 ไม่ระบุ 70 72 36 ไม่ระบุ 32 ค่าความไวขณะปิด 114 dB / V 103 dB/mW 106 dB/mW 99 dB/mW ไม่ระบุ 104 dB/mW 95 102 dB/mW ไม่ระบุ ไม่ระบุ การตอบสนองความถี่ (Hz) 16 -24000 10 -30000 5 -40000 7 - 22000 ไม่ระบุ 8 - 25000 20 - 20000 8 - 25000 ไม่ระบุ 18 -20000 น้ำหนักรวมสายเคเบิล (กรัม) 198 213 273 154 208 197 284 162 189 208 ความยาวสายเคเบิล (เซนติเมตร) 133 123 124 117 170 119 150 118 121 121 เสียงรั่วจากหูฟัง (เดซิเบล) 42.5 38 38 39.5 45 36.5 51.5/ 55.5 40.5 48 35.5     The Top Three Pioneer HDJ-500  ราคา 4,700 บาทน้ำหนักหูฟัง + สาย >> 223 กรัม คุณภาพเสียงคลาสสิก  4.5แจ๊ซ  4.5ร็อค  4 สวมใส่สบาย  3พกพาสะดวก  3เก็บง่าย   0.5     Sennheiser HD228   ราคา 2,690 บาทน้ำหนักหูฟัง + สาย >> 93 กรัม คุณภาพเสียงคลาสสิก  4แจ๊ซ  4ร็อค  4.5 สวมใส่สบาย  4พกพาสะดวก  4เก็บง่าย   0.5     AKG K 340   ราคา 3,650 บาทน้ำหนักหูฟัง + สาย >> 116 กรัม คุณภาพเสียงคลาสสิก  4แจ๊ซ  4ร็อค  4 สวมใส่สบาย  3.5พกพาสะดวก  4เก็บง่าย   4     หูฟังแบบครอบ (กึ่งเต็ม) รหัสรูป 314 317 300 324 302 325 305 308 320 Pioneer HDJ-500 Sennheiser HD228 AKG  K 340 WESC Conga AKG Q 460 black WESC Oboe ifrogz EarPollution Nerve Pipes Monster Beats solo Scullcandy Lowrider ราคา 4,700 2,690 3,650 1,790 6,500 1,790 1,750 7,990 1,590 คุณภาพเสียง                   เพลงคลาสสิก 4.5 4 4 4 4 3.5 3.5 3 3 เพลงแจ๊ซ 4.5 4 4 4 4 4 3 3 3 เพลงร็อค 4 4.5 4 4 4 3.5 4 3 3 สวมใส่สบาย 3 4 3.5 3.5 3 4 3 4 4 สวมใส่สบายเวลาใส่แว่น 2 3 3 3 3 3 2 3 3 พกพาสะดวก 3 4 4 3 3 3 2 4 3 เก็บง่าย 0.5 0.5 4 0.5 5 0.5 2 3 2 ทำความสะอาดง่าย 2.5 2 2.5 2 2.5 2 2 2.5 2.5 ข้อมูลจำเพาะ                   ความต้านทานขณะปิด (โอห์ม) 45 24 32 32 32 32 32 ns 32 ค่าความไวขณะปิด 105 dB 110 dB / V 125 dB/V 120 dB 126 dB/V 120 dB 120 dB ไม่ระบุ ไม่ระบุ การตอบสนองความถี่ (Hz) 5 - 28000 18 - 22000 12 - 28000 20 - 20000 11 - 29500 20 - 20001 30 - 20000 ไม่ระบุ 18 - 20000 น้ำหนักรวมสายเคเบิล (กรัม) 223 93 116 119 125 111 125 183 129 ความยาวสายเคเบิล (เซนติเมตร) 103 142 101 51 100 33 110 132 122 เสียงรั่วจากหูฟัง (เดซิเบล) 32.5 41.5 30.5 53.5 32.5 45.5 45.5 39.5 43.5   • หมายเหตุ มีข้อสังเกตจากห้องปฏิบัติการว่า หูฟัง 3 รุ่น ได้แก่ ifrogz EarPollution Nerve Pipes / Monster Beats solo / และ Scullcandy Lowrider นั้นมีขอบคมที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ได้ จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า300 Point

ฉบับที่ 88 อุปกรณ์หูฟังบลูทูธ ตอบรับความต้องการ “โทรไม่ถือ”

ถึงวันนี้ทุกคนคงทราบกันแล้วว่ากฏหมายห้ามไม่ให้ใช้มือหรือใช้คอไปถือมือถือ ขณะที่กำลังขับรถ ใครยังจำเป็นต้องโทรอยู่แต่ไม่อยากโดนจับก็อย่าลืมหาอุปกรณ์ดังกล่าวมาพกติดตัวไว้ ฉลาดซื้อเล่มนี้ขอถือโอกาสนำเสนอผลทดสอบมาให้ได้ใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อ ตามงบประมานที่สะดวกใจ สบายกระเป๋า (อันนี้ก็แล้วแต่ขนาดกระเป๋าของแต่ละคน)ผลทดสอบครั้งนี้เราได้จากการทดสอบที่องค์กรเพื่อผู้บริโภคของประเทศในยุโรปและอเมริกาได้ทำไว้ ในช่วงปลายปี 2550 (ชาวฉลาดซื้อคงจำกันได้ว่าเราเป็นสมาชิกขององค์กรทดสอบระหว่างประเทศหรือ ICRT ที่มีการทดสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อยู่อย่างสม่ำเสมอ) อุปกรณ์บลูทูธทุกรุ่นที่นำมาทดสอบมีฟังก์ชั่นโทรออกได้ด้วยเสียง และมีปุ่มปรับความดังของเสียงที่ตัวอุปกรณ์ (ยกเว้น Sony-Ericsson HBH-IV835 และ Nokia BH-100)  และสามารถเรียกซ้ำหมายเลขล่าสุดที่โทรออกได้ (ยกเว้น Sony-Ericsson HBH-PV 705 และ Logitech Mobile Freedom)ทุกตัวมีระยะรับสัญญาณบลูทูธ 10 เมตร ยกเว้น Sony-Ericsson HBH-IV835 และ Sony-Ericsson HBH-PV702 ที่รับสัญญานได้ 5 เมตร อุปกรณ์ที่นำทำมาทดสอบส่วนใหญ่ผลิตในประเทศจีน ยกเว้น Plantronics ที่ผลิตในประเทศเม็กซิโก และ LG และ SUMSUMG ที่ผลิตในเกาหลี  **หมายเหตุ:  ก่อนตัดสินใจซื้ออย่าลืมตรวจสอบราคาอีกครั้ง พร้อมกับหาโอกาสทดลองใส่ดูว่ารู้สึกสบายหรือไม่ พร้อมทั้งตรวจสอบให้ดีว่าอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถใช้ร่วมกับมือถือที่คุณมีอยู่หรือไม่  --------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ทำไมต้องฟันสีน้ำเงิน??อุปกรณ์บลูทูธนั้นหลายคนรู้จักกันอยู่แล้วเป็นเทคโนโลยีในการเชื่อมต่อการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์สองชนิด ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์กับมือถือ หรือหูฟังกับมือถือเป็นต้น แต่มันเกี่ยวอะไรกับบลูทูธ หรือ ฟันสีน้ำเงินด้วย เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อปี  1994 บริษัทสัญชาติสวีดิช ที่มีนามว่าอิริคสัน โมบาย คอมมูนิเคชั่น เขาได้ริเริ่มศึกษาความเป็นไปได้ในการนำเอาคลื่นวิทยุกำลังต่ำมาสร้างการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์  และต่อมาในปี 1998 ก็มีบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อีก 4 แห่ง (ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็แบรนด์ใกล้ๆตัวคุณอย่าง โนเกีย ไอบีเอ็ม โตชิบา และอินเทล)  เข้ามาร่วมด้วย จนถึงทุกวันนี้เทคโนโลยีดังกล่าวถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์สื่อสารแบรนด์ต่างๆมากมาย  เมื่อสามารถสร้างมาตรฐานในการสื่อสารแบบไร้สายขึ้นมาได้ บริษัทอิริคสัน ก็ตั้งชื่อเจ้าสิ่งนี้ว่าบลูทูธ เพื่อเป็นเกียรติแก่กษัตริย์ไวกิ้งนาม Harald Bluetooth กษัตริย์พระองค์นี้เป็นที่รู้กันดีในหมู่ชาวสแกนดิเนเวียว่าเป็นผู้ผนวกดินแดนระหว่างเดนมาร์กกับนอร์เวย์ และนำคริสศาสนามาเผยแพร่ให้ผู้คนในดินแดนสแกนดิเนเวียนทั้งหมดคำว่า Bluetooth นั้นบางตำนานก็ว่าเป็นเพราะพระองค์โปรดปรานบลูเบอรี่เป็นพิเศษ เสวยบ่อยมากจนฟันดูเป็นสีนำเงินตลอดเวลา แต่บ้างก็ว่าคำนี้เพี้ยนมาจาก  Blatand ในภาษาแดนิช ที่แปลว่า ผู้ยิ่งใหญ่ที่มีผิวสีคล้ำ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------- หูฟังแบบโมโน

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า150 Point

ฉบับที่ 101 หูฟัง เงียบ ไม่เหงา

ฉลาดซื้อฉบับนี้เอาใจผู้รักความสงบแต่ชื่นชมในเสียงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดนตรี กีฬา หรือภาพยนตร์ เราขอนำเสนอผลการทดสอบหูฟังทั้งแบบมีสายและไร้สายที่ทำการทดสอบไว้โดยองค์กรทดสอบระหว่างประเทศ International Consumer Research and Testing ที่เราเป็นสมาชิก โดยมีหูฟังทั้งหมด 37 รุ่น (บางรุ่นมีขายที่เมืองไทยด้วย) ที่ราคาตั้งแต่ 790 – 9,000 บาท จากผลทดสอบนี้ทำให้ (คนในกอง บก.) เกิดความหวังว่าถึงเราจะมีงบประมาณไม่เกินหนึ่งพันบาทก็ยังพอมีลุ้นได้หูฟังที่คุณภาพดีพอใช้ แต่คุณผู้อ่านฉลาดซื้อที่มีงบมากกว่านั้นจะลองซื้อหาหูฟังที่ให้คุณภาพเสียงระดับเทพต้องอิจฉามาใช้ก็ไม่ว่ากัน       ข้อสังเกตจากเครือข่ายนักวิชาการเพื่อผู้บริโภค หูฟังแบบไร้สายมีข้อเสียคือ กินไฟมาก และระยะในการรับสัญญาณไม่ไกล เมื่อเทียบกับหูฟังที่มีสาย จากผลการทดสอบเห็นได้ว่าหูฟังแบบไร้สายมีอัตราการกินไฟสูงมาก ในเรื่องของการกินไฟ ไม่ว่าจะใช้งานอยูใน Mode Standby ขณะชาร์จแบตเตอรี่ หรือ Mode การใช้งานจริง อัตราการกินไฟแทบจะไม่แตกต่างกันเลย เพราะฉะนั้นเพื่อเป็นการประหยัดไฟช่วยชาติและประหยัดเงินค่าไฟ เมื่อเลิกใช้งานควรดึงปลั๊กไฟของหูฟังออก ไม่ควรเสียบปลั๊กค้างไว้ตลอดเวลา ในยุคเศรษฐกิจอย่างนี้ เราอาจจะลองหันมาใช้หูฟังแบบมีสายบ้าง เพราะนอกจากจะได้เสียงที่มีคุณภาพดีแล้ว ยังสามารถประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกด้วย ถ้าดูตามผลการทดสอบนี้จะเห็นว่า คุณภาพเสียงของหูฟัง ยี่ห้อ beyerdynamic DTX 800 คุณภาพเสียงดีเลิศเหมือนกับ หูฟังของ Philips Cineos SHP 9000 และ หูฟังของ Sennheiser HD 555 แต่มีราคาถูกกว่าถึงเท่าตัว  นอกจากเรื่องของคุณภาพของเสียงที่ต้องคำนึงเป็นอันดับต้นๆ แล้ว ก่อนซื้อหูฟังเราควรทดสอบดูว่า เมื่อใส่หูฟังดังกล่าวแล้วสบายหูหรือไม่ หูฟังที่ดีไม่ควรกดทับใบหูจนเกินไป นอกจากนี้ สิ่งที่ควรระมัดระวัง คือ ไม่ควรใส่หูฟังเป็นเวลานานๆ เพราะการกดทับบริเวณใบหูนานๆ อาจทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก และใบหูเป็นอวัยวะที่ระบายความร้อนของร่างกาย อาจทำให้ความร้อนที่ใบหูระบายได้ไม่ดี ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า300 Point

ฉบับที่ 100 หูฟังบลูทูธ 2009

กลับมาอีกครั้งกับผลทดสอบหูฟังบลูทูธ ประจำปีนี้ โดยองค์กรทดสอบ International Consumers Research and Testing (หรือ ICRT ที่วารสารฉลาดซื้อและวารสารเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคจากภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกเป็นสมาชิก)   คราวนี้มีหูฟังมานำเสนอสมาชิกทั้งหมด 23 รุ่น (แบบธรรมดา 18 รุ่น และแบบที่เป็นหูฟังสเตอริโออีก 5 รุ่น) ฟังก์ชั่นพื้นฐานที่ทุกรุ่นมีเหมือนกันได้แก่การโทรออกด้วยเสียงและปรับความดังของเสียง ส่วนการเรียกซ้ำหมายเลขสุดท้ายที่โทรออกนั้นทุกรุ่นสามารถทำได้ ยกเว้นบลูเทรค metal และทุกรุ่นมีการแจ้งเตือนในรูปแบบของสัญญาณไฟหรือเสียงเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด ยกเว้นจาบรา BT2050   เอาล่ะ หูฟังบลูทูธรุ่นไหนมีความโดดเด่น และมีลักษณะเฉพาะตัวอย่างไร ดูได้จากตารางข้างล่างนี้>> ดาวโหลด ตารางผลการทดสอบ ค่ะ

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า150 Point