ฉบับที่ 217 M Help Me ช่วยเหลือคนทั้งมวล

                สังคมโซเชียลในปัจจุบันมีให้เห็นข่าวภัยอันตรายที่เกิดขึ้นมากมาย จนทำให้หลายคนเริ่มกังวลว่าสังคมไทยมีแต่เรื่องน่ากลัวไปหมด ผู้ใหญ่เริ่มเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกหลานกันมากขึ้น จนอาจถึงขั้นวิตกกังวล หลายคนพยายามหาวิธีป้องกันในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการให้เรียนวิชาป้องกันตัว การลงทุนซื้อรถยนต์ส่วนตัวให้ เป็นต้น         ด้วยภัยอันตรายที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในปัจจุบัน จนทำให้ต้องคอยเฝ้าระวังภัยที่อาจเกิดขึ้นรอบตัวในทุกย่างก้าวของการใช้ชีวิต เครื่องมือหนึ่งที่สามารถเข้ามาช่วยได้ส่วนหนึ่งก็คือการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า “M Help Me” หรือชื่อภาษาไทยว่า “ช่วยเหลือคนทั้งมวล” มาบนสมาร์ทโฟนที่ผู้อ่านใช้อยู่เป็นประจำ ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งในระบบปฏิบัติการ Android และระบบปฏิบัติการ iOS         แอปพลิเคชัน “M Help Me” ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อสร้างประโยชน์ในการเข้าป้องกัน ให้ความช่วยเหลือ และแจ้งข่าวสารในด้านต่างๆ เมื่อเข้าแอปพลิเคชันครั้งแรกจะต้องเลือกภาษาที่ต้องการ (ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน) และเริ่มต้นการใช้งานโดยกรอกชื่อนามสกุลและเบอร์โทรศัพท์มือถือ เพื่อทำการยืนยันตัวตนในการเข้าใช้งานระบบแอปพลิเคชัน         ภายในแอปพลิเคชันจะเห็นเมนูด้านบนสุด จะเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับหน่วยงานภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจจราจร กรมเจ้าท่า สำนักงานสถิติ กรมทรัพยากร กระทรวงพัฒนาการสังคม สถาบันสิ่งแวดล้อม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กรมควบคุมโรค สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นต้น หรือสามารถเข้าได้ในเมนูถัดไปที่เขียนว่าแจ้งข่าวสารก็ได้         ถัดลงมาจะเป็นการแสดงตำแหน่งปัจจุบันของผู้ใช้แอปพลิเคชัน เพื่อแจ้งให้ทราบว่าอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยหรือไม่ ต่อจากนั้นจะเป็นหัวข้อการช่วยเหลือ ซึ่งจะรวบรวมแบบฟอร์มการร้องทุกข์ของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ และยังมีข้อมูลการช่วยเหลือที่แบ่งออกเป็น 4 หมวด ได้แก่ สายด่วน แผนที่ เตือนภัย และประกาศ        สามารถค้นหาสถานที่สาธารณะในบริเวณใกล้เคียง เช่น สถานีตำรวจ สถานพยาบาล หน่วยงานราชการ ศูนย์การค้า สถานที่ท่องเที่ยว สถานีรถไฟ สถานีบริการน้ำมัน เป็นต้น โดยจะปรากฎเป็นแผนที่เส้นทางให้อัตโนมัติ        ที่สำคัญของแอปพลิเคชันนี้คือ ปุ่มแจ้งเหตุ โดยผู้ใช้ต้องเลือกหน่วยงานที่จะแจ้งเหตุระหว่างกองบังคับการตำรวจจราจรกับศูนย์ความช่วยเหลือ และกรอกข้อมูลที่เกิดขึ้นทั้งเป็นข้อความหรือภาพถ่าย ภาพวิดีโอ เพื่อส่งรายงานข้อมูลดังกล่าวไปยังปลายทาง         ส่วนบริเวณด้านล่างสุดของหน้าแอปพลิเคชันยังมีส่วนของการรายงานความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่แสดงให้ทราบว่ามีผู้ที่รอความช่วยเหลือและช่วยเหลือสำเร็จแล้วกี่คนบ้าง        ต่อไปเป็นปุ่มที่สามารถใช้ได้เมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินและต้องการได้รับความช่วยเหลือทันที เป็นปุ่มสีแดงที่เขียนว่า SOS เมื่อกดเข้าไปจะเป็นการส่งสัญญาณเพื่อเริ่มขอความช่วยเหลือฉุกเฉินภายใน 3 วินาที ซึ่งปุ่ม SOS นี้มีความสำคัญอย่างมาก         ผู้ใช้สมาร์ทโฟนจึงควรที่จะดาวน์โหลดแอปพลิเคชันนี้มาเก็บไว้ใช้งานกรณีที่เกิดสถานการณ์ไม่คาดคิด เพราะแอปพลิเคชัน “M Help Me” หรือชื่อภาษาไทยว่า “ช่วยเหลือคนทั้งมวล” สามารถช่วยเหลือคนทั้งมวลเหมือนตามชื่อแอปพลิเคชันจริงๆ

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 216 ตรวจสอบจราจร ปริมาณน้ำฝนและเส้นทางลัด กับ TVIS

                                  ฉบับนี้ผู้เขียนมาอัพเดทแอปพลิเคชันเกี่ยวกับการรายงานสภาพการจราจร เป็นแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นโดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ เนคเทค แอปพลิเคชันนี้มีชื่อว่า TVIS ซึ่งย่อมาจากคำว่า Traffic Voice Information Service สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และระบบปฏิบัติการ Android          แอปพลิเคชัน TVIS เป็นแอปพลิเคชันที่แสดงถึงสภาพการจราจร มีกล้องวงจรปิด มีเรดาร์ตรวจอากาศ และเรดาร์น้ำฝน โดยจะแบ่งหมวดบนหน้าแอปพลิเคชัน 5 หมวด ได้แก่ หมวดรายการ หมวดรอบตัว หมวดรายการโปรด หมวดค้นหาด้วยเสียง และหมวดอื่นๆ          หมวดรายการ จะแบ่งการแสดงผลบนหน้าจอออกเป็น 8 หัวข้อ หัวข้อเรดาร์น้ำฝน จะแสดงสภาพปริมาณน้ำฝนที่เกิดขึ้นซึ่งใช้สีเป็นตัวแบ่งปริมาณน้ำฝนตั้งแต่ปริมาณเล็กน้อย ปานกลาง แรง แรงมาก และเกิดลูกเห็บ หัวข้อสภาพการจราจรจะให้เลือกบริเวณเส้นทางที่ต้องการทราบความคล่องตัวของสภาพการจราจร หัวข้อกล้องจราจร CCTV จะแสดงกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ หัวข้อเส้นทางลัดจะแสดงเส้นทางลัดทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดหัวข้อข่าวสังคมออนไลน์เป็นการรายงานข่าวสารจากสังคมออนไลน์ หัวข้อข่าวจากภาครัฐเป็นการรายงานข่าวสารจากภาครัฐ หัวข้อหมายเลขสายด่วนเพื่อกดดูรายการหมายเลขสายด่วนที่มีอยู่ทั้งหมด และหัวข้อ Smart IVR ที่มีไว้สำหรับติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อสอบถามผ่านแอปพลิเคชันโดยจะต้องกรอกหมายเลขโทรศัพท์ที่สะดวกหลังจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมา          หมวดรอบตัว จะเป็นการแสดงสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ โดยมีหัวข้อที่จะเลือกตรวจสอบสภาพการจราจร 4 หัวข้อ ได้แก่ หัวข้อเส้นสีจราจรจะปรากฏเส้นสีตามสภาพการจราจรในขณะนั้นเป็นสีแดง สีส้ม สีเหลืองและสีเขียว หัวข้อกล้องจราจรจะมีกล้องภาพเคลื่อนไหวจากแฟ้มภาพที่ผ่านไปเมื่อ 30 นาทีที่ผ่านมาและภาพเคลื่อนไหวแบบถ่ายทอดสด หัวข้อสังคมออนไลน์จะปรากฏข่าวและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ จุดนั้น และหัวข้อดาวเทียมจะเป็นการเปลี่ยนรูปแบบมุมมองบนแอปพลิเคชันเป็นดาวเทียม          หมวดรายการโปรดเป็นหมวดที่เพิ่มขึ้นมาให้ผู้ใช้แอปพลิเคชันได้รับความสะดวกสบายและสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วกับเส้นทางและสภาพการจราจรที่ต้องการใช้บ่อย สำหรับหมวดค้นหาด้วยเสียงเป็นการสั่งงานในการค้นหาสภาพการจราจรด้วยเสียง ซึ่งหมวดนี้จะรองรับผู้ที่ไม่สะดวกในการค้นหาในรูปแบบปกติ และหมวดอื่นๆ จะเป็นการตั้งค่าและวิธีการใช้งานภายในแอปพลิเคชัน        แอปพลิเคชัน TVIS นี้มีประโยชน์ในเรื่องการรายงานสภาพการจราจรตามเส้นทางที่ต้องการเดินทางว่ามีความคล่องตัวมากน้อยแค่ไหน  การรายงานสภาพการจราจรผ่านกล้องวงจรปิด การรายงานปริมาณน้ำฝนในแต่ละพื้นที่ การรายงานข่าวสารสภาพการจราจรผ่านสังคมออนไลน์ซึ่งมาจากการรายงานสภาพการจราจรจากผู้ใช้เส้นทางบนถนนโดยตรง        ถ้าผู้ใช้แอปพลิเคชันอยากจะหลีกเลี่ยงเส้นทางการจราจรที่ติดขัดบริเวณใด หรือต้องการหาเส้นทางลัด ก็สามารถเข้ามาตรวจสอบภายในแอปพลิเคชันนี้ได้เลย

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 215 ตรวจสภาพอากาศกับ windy

                จากปรากฏการณ์พายุโซนร้อนปาบึกที่เข้าถล่มจังหวัดนครศรีธรรมราชและภาคใต้ของประเทศไทยนั้น ทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นอย่างมาก ช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวประชาชนทั่วประเทศจึงให้ความสนใจเป็นอย่างมากและคอยติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นของพายุโซนร้อนปาบึกนี้อย่างใกล้ชิด        การติดตามความเคลื่อนไหนของพายุอย่างเรียลไทม์นั้น สามารถติดตามผ่านแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า windy ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ทั้งในระบบปฏิบัติการ Android และระบบปฏิบัติการ iOS         แอปพลิเคชัน windy จะแสดงข้อมูลของสภาพอากาศ ไม่ว่าจะเป็นแรงลมที่พัด พื้นที่ที่มีฝนตก ปริมาณเมฆ อุณหภูมิความร้อน นอกจากนี้ยังสามารถเช็คความสูงของคลื่นทะเลได้ด้วย โดยให้กดสัญลักษณ์สีเหลืองด้านขวาล่างของแอปพลิเคชัน ซึ่งในเครื่องมือนี้จะสามารถเลือกรูปแบบการดูได้ตามที่ต้องการ                ภาพที่ปรากฏบนแอปพลิเคชันจะเปลี่ยนสีไปตามสภาพอากาศที่ผู้ใช้แอปพลิเคชันต้องการทราบ เช่น เมื่อต้องการทราบอุณหภูมิในแต่ละพื้นที่ จะปรากฏภาพสีเหลือง สีส้ม และสีแดง ไล่ไปตามอุณหภูมิที่เกิดขึ้น หรือเมื่อต้องทราบความเร็วลมในแต่ละพื้นที่ จะปรากฏภาพสีเขียว และสีน้ำเงิน ไล่ไปตามความเร็วของลมที่เกิดขึ้น และจะมีเส้นการเคลื่อนไหวที่แสดงทิศทางลมที่เกิดขึ้นให้เห็นได้ชัดเจน เป็นต้น        เมื่อต้องการทราบข้อมูลสภาพอากาศในรูปแบบใดก็แล้วแต่ ณ บริเวณที่ผู้ใช้แอปพลิเคชันอยู่ในตำแหน่งนั้น ให้เลือกรูปแบบสภาพอากาศที่ต้องการ และกดปุ่มเลือก Find my location หลังจากนั้นบนหน้าแอปพลิเคชันจะปรากฏจุดบริเวณที่ผู้ใช้แอปพลิเคชันอยู่ และขึ้นข้อมูลที่ต้องการทราบ ให้กดไปที่จุดนั้น จะทำให้ข้อมูลทั้งหมดขึ้นมาโดยแบ่งสภาพอากาศที่เกิดขึ้นเป็นรายชั่วโมง ทั้งสภาพอากาศแบบย้อนหลังและสภาพอากาศในอนาคต                หรือต้องการทราบสภาพอากาศในบริเวณใด ก็สามารถเลื่อนแผนที่ให้จุดที่เลือกเคลื่อนไปอยู่ตรงที่ต้องการได้  และไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังสามารถทราบสภาพอากาศได้ทั่วโลกเลย เพียงแค่มีแอปพลิเคชันนี้ก็สามารถทราบสภาพอากาศทั้งอุณหภูมิ ปริมาณฝนตก ความเร็วลม ความสูงของคลื่นได้อย่างง่ายดาย        ลองดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมาศึกษากันดูนะคะ รับรองว่าดูง่ายและไม่ยากจนเกินไป เพราะการใช้สีและการใช้สัญลักษณ์ ทำให้เข้าใจได้ง่ายจริงๆ

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 214 ไม่หลงทาง เมื่อพกแอปพลิเคชัน ViaBus

            ฉบับนี้ขออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ แต่ไม่รู้เส้นทางการเดินรถโดยสารสาธารณะ รวมทั้งแอปพลิเคชันนี้ยังเหมาะสำหรับประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อมาทำภารกิจในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้อีกด้วย            แอปพลิเคชันนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อต้องการอำนวยความสะดวกการใช้รถโดยสาธารณะให้กับประชาชนผู้ใช้เส้นทาง มีชื่อว่า “ViaBus”  ผู้ใช้สมาร์ทโฟนสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และระบบปฏิบัติการ Android            ภายในแอปพลิเคชันมีการใช้งานที่ไม่ซับซ้อนมากนัก เมื่อเข้าหน้าหลักจะปรากฏภาพแผนที่ โดยการค้นหาเส้นทางจะมีอยู่ 2 รูปแบบ ดังนี้           1. ต้องการค้นหาเส้นทางจากจุดที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนอยู่ปัจจุบัน ให้กดรูปสัญลักษณ์แว่นขยายบริเวณด้านบนขวาของแอปพลิเคชัน และให้ระบุสถานที่ที่ต้องการเดินทางไป           2.ต้องการค้นหาเส้นทางจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่บริเวณที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนอยู่ปัจจุบัน ให้กดรูปสัญลักษณ์สี่เหลี่ยมสีแดง จากนั้นให้ระบุสถานที่เริ่มต้นในการเดินทางและสถานที่ที่เป็นจุดเป้าหมายปลายทาง            เมื่อแอปพลิเคชันได้ค้นหาเส้นทางให้แล้ว จะปรากฏเป็นภาพเส้นทางบนแผนที่ และปรากฏข้อมูลต่างๆ ไว้ด้านล่าง ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปดูรายละเอียดต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นสายรถเมล์ที่สามารถเดินทางไปได้ ป้ายรถเมล์ใกล้บริเวณนั้น บอกจำนวนป้ายรถเมล์ที่ต้องผ่าน หรือบางเส้นทางจะมีข้อมูลการใช้เส้นทางโดยใช้รถไฟฟ้า นอกจากนี้ยังค้นหาเพิ่มให้เห็นเส้นทางสภาพการจราจรว่า ติดขัดมากน้อยเพียงใด โดยให้กดไปที่สัญลักษณ์ไฟจราจรบริเวณหน้าแอปพลิเคชันจะปรากฏเส้นทางสภาพการจราจรเป็นเส้นสีแดง สีเขียวและสีเหลือง             สิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมคือ สัญลักษณ์การค้นหาตำแหน่งของผู้ใช้สมาร์ทโฟนปัจจุบันได้ทันที โดยกดสัญลักษณ์ค้นหาตำแหน่งที่อยู่ถัดจากสัญลักษณ์ไฟจราจร เพื่อช่วยให้ไม่ต้องเสียเวลาหาจุดเริ่มต้นของการเดินทาง            ถ้าได้ใช้แอปพลิเคชันอย่างต่อเนื่อง และเห็นข้อผิดพลาดของข้อมูล หรือต้องการร้องเรียนการขับรถไม่สุภาพของรถโดยสารสาธารณะ หรือปัญหาอื่นๆ ที่ต้องการแจ้งเพื่อให้แก้ไขปรับปรุง สามารถแจ้งผ่านแอปพลิเคชันได้ทันที โดยกดปุ่มด้านบนซ้าย และเข้า Report             รีบดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ViaBus มาไว้เลย เพียงเท่านี้ก็จะไม่ต้องกังวลว่าจะหลงทางอีกต่อไป

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 213 ฝึกภาษาอังกฤษกับ Echo English

การสื่อสารในปัจจุบันถือว่าภาษาอังกฤษมีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นภาษาที่สามารถใช้สื่อสารได้กับคนทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่การทำงานในบริษัทต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีความต้องการบุคคลที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ในระดับดี ทั้งการพูด การฟัง การเขียนและการอ่าน  ดังนั้นคนยุคใหม่ที่กำลังมองหางาน จึงควรมีทักษะทางด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษไว้บ้าง เพื่อใช้เป็นใบเบิกทางในการสมัครงานในที่ต่างๆ ฉบับนี้มาเสริมทักษะภาษาอังกฤษกันดีกว่าค่ะแอปพลิเคชันที่น่าสนใจในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษตั้งแต่เริ่มต้น มีชื่อว่า Echo English ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่พัฒนามาโดยกระทรวงศึกษาธิการกับภาคเอกชน ที่เน้นการพัฒนาทักษะการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษในรูปแบบสถานการณ์ต่างๆ โดยสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ทั้งระบบปฏิบัติการ IOS และระบบปฏิบัติการ Androidเมื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแล้ว ระบบจะให้สร้างบัญชีหรือลงทะเบียนผ่านเฟสบุ๊ค ภายในแอปพลิเคชันจะมี 2 หมวด ได้แก่ หมวด Home ซึ่งจะเป็นหมวดที่เก็บบทเรียนที่ผู้ใช้ได้ดาวน์โหลดบทเรียนนั้นไว้เรียบร้อยแล้ว และหมวด Discover โดยในหมวดนี้จะแบ่งบทเรียนตามความยากง่าย และมีบทเรียนให้เลือกตามสถานการณ์ต่างๆ ที่ผู้ใช้มีความสนใจ อาทิ บทเรียน Can-do A1 จะมีบทเรียนบทสนทนาเกี่ยวกับการทักทาย บทสนทนาเกี่ยวกับการถามข้อมูล หรือบทเรียน Intermediate จะมีบทเรียนบทสนทนาเกี่ยวกับระบบขนส่ง บทสนทนาเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เป็นต้นหลังจากที่ผู้ใช้สามารถเลือกบทสนทนาที่ต้องการเรียนรู้ได้แล้วให้กดเลือก จะปรากฏหัวข้อบทสนทนาและวิดีโอสอน ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ส่วนที่มีความต่อเนื่องกัน และให้ผู้ใช้กดดาวน์โหลดหัวข้อที่ต้องการ ทั้งนี้ภายในแต่ละหัวข้อบทสนทนาจะแบ่งรายละเอียดออกเป็นดังนี้  บทเรียน การฟัง การพูด การเขียน การทดสอบ และโหมดอัดเสียง ส่วนหัวข้อวิดีโอสอนจะเป็นการสอนแบบลงรายละเอียดในแต่ละประโยคของบทสนทนาส่วนรายละเอียดของหัวข้อบทสนทนา ในเรื่องบทเรียนจะเป็นวิดีโอบทสนทนาตามสถานการณ์ เรื่องการฟังจะเป็นการฝึกฟังทีละประโยค เรื่องการพูดจะเป็นการฝึกพูดโดยให้ผู้ใช้กดปุ่มบันทึกและพูดแต่ละประโยค หลังจากนั้นแอปพลิเคชันจะประมวลผลว่าดีหรือไม่ โดยจะปรากฏผลในรูปแบบคะแนน เรื่องการเขียนจะเป็นการฝึกเติมคำลงในช่องว่างในแต่ละประโยค เรื่องการทดสอบจะเป็นการทดสอบจากการเรียนรู้จากบทเรียนนั้น และเรื่องโหมดอัดเสียงจะเป็นการอัดเสียงขณะพูดแต่ละประโยคของผู้ใช้ เพื่อนำมาฟังได้ภายหลัง แอปพลิเคชันนี้เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่เพิ่งเริ่มต้น โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่เข้าใจ เพราะเป็นบทเรียนที่ง่าย  ลองดาวน์โหลดมาเรียนรู้และลองใช้เพื่อเพิ่มทักษะด้านภาษาอังกฤษกันนะคะ 

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 212 ตรวจเลข อย.

              ฉบับนี้ขอแนะนำการตรวจสอบผลิตภัณฑ์และสินค้าด้วยการสังเกตสัญลักษณ์ อย. อย. คือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีหน้าที่กำกับและตรวจสอบผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐาน โดยจะคุ้มครองดูแล 6 ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ได้แก่ อาหาร ยา เครื่องสำอาง วัตถุอันตราย เครื่องมือแพทย์ และวัตถุเสพติดทางการแพทย์ผลิตภัณฑ์เหล่านี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ต้องมีเครื่องหมาย อย. ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องมี อย. กำกับอยู่ และผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่มีเครื่องหมาย อย. แต่ต้องมีเลขที่จดแจ้งหรือทะเบียนกำกับยาบนผลิตภัณฑ์การตรวจสอบเครื่องหมาย อย. หรือเลขที่จดแจ้งหรือทะเบียนกำกับยาบนผลิตภัณฑ์ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์มีมาตรฐานและมีการตรวจสอบอยู่สม่ำเสมอ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ทำแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า “อย. ตรวจเลข” โดยหน้าแรกของแอปพลิเคชันจะปรากฏช่องสำหรับพิมพ์หมายเลขค้นหา เพื่อตรวจสอบเลขผลิตภัณฑ์สุขภาพ หรือถ่ายรูปบริเวณสัญลักษณ์ อย. หรือใช้ระบบเสียงในการตรวจสอบหมายเลขได้ด้วย เมื่อใส่หมายเลขที่ต้องการตรวจสอบ ข้อมูลและรายละเอียดของผลิตภัณฑ์นั้นจะปรากฏขึ้น ได้แก่ สถานะปัจจุบันของผลิตภัณฑ์  ประเภทของผลิตภัณฑ์  เลขที่อนุญาต  ชื่อผลิตภัณฑ์  ชื่อผู้รับอนุญาต  สถานที่ผลิต  และที่อยู่สถานที่ผลิตภายในแอปพลิเคชันยังมีหมวดแจ้งเรื่องร้องเรียน กรณีที่ต้องการร้องเรียนผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขนอกจากแอปพลิเคชัน “อย. ตรวจเลข” แล้ว ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบเลขผ่านหน้าเว็บไซต์ http://porta.fda.moph.go.th/FDA_SEARCH_ALL/MAIN/SEARCH_CENTER_MAIN.aspx  หรือค้นหาด้วยคำว่า ตรวจสอบ อย. ซึ่งทั้งรูปแบบแอปพลิเคชันและหน้าเว็บไซต์ถือว่ามีประโยชน์กับผู้บริโภคมากถ้าอยากทราบว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่มีมาตรฐานหรือผ่านการตรวจสอบหรือไม่ ลองเข้าไปตรวจสอบเลขผลิตภัณฑ์ได้เลยนะคะ

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 211 หาเส้นทางแบบไม่ออนไลน์กับ maps.me

ฉบับนี้พามารู้จักกับแอปพลิเคชันสำหรับผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนแบบไม่ใช้อินเทอร์เน็ตตลอดเวลากัน และแอปพลิเคชันยังจะเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการเดินทางท่องเที่ยวหรือต้องเดินทางเพื่อไปทำงานในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย   แอปพลิเคชันนี้มีชื่อว่า maps.me เป็นแอปพลิเคชั่นบอกเส้นทางการเดินทาง เหมือน Google Maps เพียงแต่มีข้อแตกต่างกันก็คือ แอปพลิเคชัน maps.me  สามารถใช้งานได้ในขณะที่ไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต  โดยในขั้นตอนแรกหลังจากดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมาแล้ว แอปพลิเคชั่นจะให้ดาวน์โหลดข้อมูลเส้นทางทั้งหมดลงในเครื่องสมาร์ทโฟน ซึ่งจะทำให้ต้องใช้พื้นที่ในสมาร์ทโฟนมากสักหน่อย สิ่งนี้ก็อาจเป็นข้อเสียสำหรับผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนที่มีพื้นที่ความจุในเครื่องน้อย  ภายในแอปพลิเคชันจะสามารถค้นหาเส้นทางได้อย่างอิสระ หรือจะเลือกตามหมวดที่มีอยู่ภายในแอปพลิเคชัน ได้แก่ ค้นหาร้านอาหาร ค้นหาโรงแรม ค้นหาไวไฟ ค้นหาการขนส่ง ค้นหาร้านค้า ค้นหาปั๊มน้ำมัน ค้นหาแหล่งท่องเที่ยว ค้นหาธนาคาร ค้นหาโรงพยาบาล ค้นหาสถานีตำรวจ ค้นหาไปรษณีย์ ค้นหาตู้เอทีเอ็ม ค้นหาร้านขายยา หรือแม้กระทั่งค้นหาห้องน้ำ เป็นต้น    ลักษณะการใช้งานแอปพลิเคชัน เมื่อค้นหาสถานที่ที่ต้องการได้แล้ว แอปพลิเคชันจะแจ้งระยะทางและระยะเวลาที่จะไปถึงจุดหมายปลายทาง และให้กดปุ่มเริ่มต้นเส้นทางจะปรากฏเส้นทางการเดินทางขึ้น ซึ่งสามารถเลือกเส้นทางการเดินทางโดยใช้รถยนต์ การเดินเท้า ได้ตามต้องการ ทั้งนี้ถ้าต้องการที่จะเก็บข้อมูลเส้นทางการเดินทางในแต่ละครั้ง สามารถกดปุ่มบันทึกข้อมูลได้ แอปพลิเคชันจะจัดเก็บข้อมูลไว้เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเรียกดูได้ และยังสามารถแชร์ข้อมูลไปยังเฟซบุ๊ค ไลน์ ทวิตเตอร์ เมล หรือแม้กระทั้งข้อความทางสมาร์ทโฟนอีกด้วย        นอกจากนี้เมื่อได้เจอโรงแรมที่ต้องการและทราบเส้นทางการเดินทางที่สะดวกแล้ว แอปพลิเคชันยังเพิ่มความสะดวกในการเข้าจองที่พักในโรงแรมนั้นได้ทันที โดยจะจองผ่านเว็บไซต์ booking.com หรือถ้าต้องการที่จะจองรถเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางก็สามารถกดเรียกรถแท็กซี่ที่แอปพลิเคชันได้มีบริการไว้ได้เลย  ลองดาวน์โหลดมาใช้กันดูนะคะ แอปพลิเคชันนี้น่าจะมีประโยชน์สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เพียงแค่มีแอปพลิเคชั่นนี้ก็สามารถเพิ่มความสะดวกให้กับการเดินทางได้แล้วค่ะ

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 210 เข้าถึงข้อมูลสิทธิประกันสังคม

เมื่อช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ผู้เขียนได้รับเอกสารฉบับหนึ่งจากสำนักงานประกันสังคม เป็นเอกสารแจ้งรายละเอียดเงินสมทบกรณีชราภาพ ตั้งแต่ปีที่เริ่มทำงานจนถึงปัจจุบัน ซึ่งทำให้เกิดกระแสในสังคมเกี่ยวกับการตรวจสอบเงินสมทบว่า สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ที่ใดบ้าง  ฉบับนี้จึงขอมานำเสนอข้อมูลการเข้าตรวจสอบดังกล่าวให้ได้ทราบกันขอให้ความรู้สักนิดเกี่ยวกับสิทธิประกันสังคม โดยปกติการมีสิทธิประกันสังคมได้นั้น ต้องเป็นผู้ที่ทำงานและเป็นผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 (ยังทำงานในสถานประกอบการ) หรือเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 (ออกจากงานและยังส่งเงินประกันสังคมต่อ) แต่ปัจจุบันมีมาตรา 40 ขึ้นมาเพื่อรองรับประชาชนที่ต้องการมีสิทธิประกันสังคมในเรื่องการทดแทนการขาดรายได้ ทุพพลภาพ เงินชราภาพและกรณีเสียชีวิต แต่ใช้สิทธิการรักษาพยาบาลบัตรทอง 30 บาท         กลับมาที่เรื่องการเข้าถึงข้อมูลสิทธิประกันสังคมให้เข้าไปที่เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม                    ได้ทั้งทางคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน เริ่มต้นจากการคลิกสมัครสมาชิก โดยเว็บไซต์จะให้กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน รหัสผ่านที่ตั้งขึ้น ชื่อนามสกุล เบอร์มือถือ วันเกิดและเมล จากนั้นระบบจะส่งรหัส OTP เข้าเบอร์มือถือที่ให้ไว้ และนำไปกรอกบนหน้าเว็บไซต์ คลิกยืนยัน  หลังจากนั้นให้กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน และรหัสผ่านที่ตั้งขึ้น เพื่อเข้าสู่ระบบ ต่อจากนั้นผู้อ่านสามารถคลิกเข้าไปที่คำว่าผู้ประกันตน ซึ่งภายในจะมีข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประกันสังคม ดังนี้ ข้อมูลผู้ประกันตน ข้อมูลการส่งเงินสมทบ ยื่นแบบขอเปลี่ยนสถานพยาบาล ประวัติการเปลี่ยนแปลงสถานพยาบาล การใช้สิทธิประโยชน์ทดแทน การคำนวณเงินสงเคราะห์ชราภาพ และตรวจสอบข้อมูลใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ในข้อมูลผู้ประกันตน จะแจ้งข้อมูลชื่อนามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน สถานพยาบาลที่เลือกไว้ ในส่วนข้อมูลการส่งเงินสมทบ จะแสดงรายละเอียดงวดเงินสมทบ วันที่ชำระเงิน จำนวนเงินสมทบที่นำส่ง โดยจะมีข้อมูลแยกเป็นรายเดือน สำหรับการใช้สิทธิประโยชน์ทดแทน เป็นการแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิที่ผู้ประกันตนเคยขอรับ อย่างเช่น กรณีการทำฟันที่จะเบิกได้ปีละ 900 บาท เป็นต้น ต่อไปเป็นการคำนวณเงินสงเคราะห์ชราภาพ จะเป็นรายละเอียดเงินสมทบของผู้ประกันตนและนายจ้างเป็นยอดรวมจำนวนเงินในแต่ละปี ซึ่งเป็นหัวข้อที่ทำให้ผู้ประกันตนรู้ว่าเงินออมที่จะได้รับเมื่อสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตนมีจำนวนเท่าไร เรื่องการยื่นแบบขอเปลี่ยนสถานพยาบาล ก็จะใช้เมื่อต้องการเปลี่ยนแปลงสถานพยาบาล ซึ่งจะสอดคล้องกันกับเรื่องประวัติการเปลี่ยนแปลงสถานพยาบาล อันสุดท้ายคือเรื่องตรวจสอบข้อมูลใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ จะใช้สำหรับผู้ที่ต้องการใบเสร็จรับเงินโดยต้องสมัครขอรายละเอียดในเรื่องนี้ตามขั้นตอนต่อไป หลายคนอาจไม่เคยรู้รายละเอียดเกี่ยวกับการจ่ายเงินประกันสังคมของตนเองเลย หรืออาจไม่เคยเข้าใจว่าเมื่อสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตนแล้วจะมีเงินจำนวนหนึ่งที่เป็นเงินสงเคราะห์ชราภาพหรือเงินออม ดังนั้นการได้รู้และเข้าถึงข้อมูลของตนเองถือว่าเป็นสิทธิและเป็นข้อดีสำหรับเราแม้ว่าคนไหนจะเคยทำงานเมื่อนานมาแล้ว และไม่ได้ทำงานมาหลายปี แต่มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ ซึ่งถือว่าสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตน ก็สามารถติดต่อขอรับสิทธิเงินสงเคราะห์ชราภาพหรือเงินออมได้ที่สำนักงานประกันสังคมได้เช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 209 ปรึกษาคุณหมอกับแอปพลิเคชัน Raksa

ช่วงนี้ฝนตกบ่อย ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะคะอากาศร้อนสลับกับเย็นด้วยสายฝนที่โปรยปรายลงมา ทำให้หลายคนต้องเข้าสู่สภาวะเจ็บป่วย ไม่ว่าจะจาม ไอ มึนหัว ไข้หวัดธรรมดาไปจนถึงไข้หวัดใหญ่ หรือแม้กระทั่งโรคภัยไข้เจ็บที่ตามมาหลังจากสุขภาพร่างกายอ่อนแอจนไม่สามารถต้านทานเชื้อโรคต่างๆ ได้สิ่งที่ทำได้เบื้องต้นนั่นคือพยายามรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดูแลการกิน การพักผ่อนให้เพียงพอ การใช้ยารักษาโรค เป็นต้น แต่ถ้าโรคภัยไข้เจ็บถามหาแล้ว ก็คงต้องปรึกษาคุณหมอโดยด่วน  ฉบับนี้ขอแนะนำแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า Raksa ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่รวมคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ รวมไว้ ได้แก่ อายุรแพทย์  กุมารแพทย์  สูตินรีแพทย์  แพทย์ระบบประสาทและสมอง  แพทย์ทางเดินปัสสาวะ แพทย์เวชศาสตร์ทั่วไป แอปพลิเคชัน Raksa เป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ที่ไม่มีเวลาว่างและไม่สะดวกไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาล โดยต้องไม่เป็นโรคเฉียบพลัน ควรเป็นเพียงการขอคำปรึกษาและวินิจฉัยในเบื้องต้น ซึ่งทำให้รู้วิธีการปฏิบัติตัวให้ถูกต้องตามคำแนะนำจากคุณหมอผ่านการส่งข้อความ การคุยผ่านโทร และการคุยผ่านวิดีโอ แต่ละวิธีที่เลือกขึ้นอยู่กับความเหมาะสมเมื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแล้ว จะเริ่มจากการลงทะเบียนโดยใช้เบอร์มือถือ หลังจากเข้ามาในแอปพลิเคชัน จะมีหมวดหน้าหลัก หมวดคุณหมอ หมวดแจ้งเตือน หมวดรู้โรค และหมวดส่วนตัว โดยหมวดหน้าหลักจะแสดงว่าคุณหมอท่านใดออนไลน์อยู่หรือกำลังให้คำปรึกษาอยู่บ้าง และรายละเอียดตารางเวลาที่สามารถปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญในแต่ละด้านได้ฟรีหมวดคุณหมอ จะบอกรายละเอียดคุณหมอทั้งหมดที่แอปพลิเคชันนี้มีอยู่ โดยจะมีประวัติ สถานที่ทำงาน ความเชี่ยวชาญของคุณหมอ นอกจากนี้ถ้าต้องการคุยกับคุณหมอที่ยังไม่ออนไลน์ สามารถกดสัญลักษณ์แจ้งเตือนเมื่อคุณหมอท่านนั้นออนไลน์ ซึ่งจะไปปรากฏอยู่ในหมวดแจ้งเตือนนั่นเอง  ส่วนหมวดรู้โรค จะบอกข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษา และโรคภัยไข้เจ็บ สุดท้ายหมวดส่วนตัว จะเป็นข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้แอปพลิเคชันแต่...คุณหมอบางท่านอาจมีการเก็บค่าให้คำปรึกษากับผู้ใช้แอปพลิเคชันนี้ โดยราคาจะแจ้งไว้ตรงสัญลักษณ์ที่จะเลือก ได้แก่ การส่งข้อความ การคุยผ่านโทร และการคุยผ่านวิดีโอ เพื่อเป็นการให้ตัดสินใจก่อนว่าจะจ่ายเงินหรือไม่ ส่วนขั้นตอนการเติมเงินมีบริการภายในแอปพลิเคชันเรียบร้อย ถ้าอยากปรึกษาคุณหมอในแอปพลิเคชันนี้ แนะนำว่าให้ดูตารางเวลาคุณหมอที่จะใช้คำปรึกษาฟรีน่าจะดีที่สุด 

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 208 RDU รู้เรื่องยา กับการสแกน QR code

เมื่ออายุเพิ่มขึ้น สุขภาพร่างกายเริ่มมีสัญญาณเตือนของโรคภัยไข้เจ็บตามมา ดังนั้นการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลจึงเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่ แต่วัยหนุ่มสาวก็ไม่ควรมองข้ามเรื่องโรคภัยไข้เจ็บที่อาจจะเกิดขึ้นได้เช่นกัน และสิ่งที่ได้ตามมานั่นคือ ถุงยาชนิดต่างๆ ที่ต้องรับประทานอย่างต่อเนื่องแอปพลิเคชัน RDU รู้เรื่องยา เป็นแอปพลิเคชันที่มีวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลยาสู่ประชาชนด้วยข้อมูลที่ถูกต้องและมีความน่าเชื่อถือ เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยในการใช้ยา โดยแอปพลิเคชันนี้ถูกพัฒนาเพื่อรองรับการสแกน QR code ใบสรุปยาหรือชนิดของยา เพื่ออ่านข้อมูลยา วิธีการใช้ คำเตือน ข้อควรระวังให้กับผู้รักษาพยาบาลในโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย ซึ่งมีความตั้งใจให้แอปพลิเคชันป็นมาตรฐานเดียวกัน อย่างเช่น โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลจุฬาฯ เป็นต้นการให้ความรู้และข้อมูลยาภายในแอปพลิเคชันจะแบ่งเป็น 6 หมวด ได้แก่ หมวด RDU รู้เรื่องยา หมวดสแกน QR code ของยา หมวดข้อมูลยา หมวดข่าวสารเรื่องยา หมวดสาระยาน่ารู้ หมวดโรงพยาบาลและร้านยาหมวด RDU รู้เรื่องยา และหมวดข่าวสารเรื่องยา เป็นหมวดที่ตั้งใจให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยา เรื่องสุขภาพ อาการต่างๆ การเก็บรักษายา การแพ้ยา และเรื่องอื่นๆ ในลักษณะของข้อมูลข่าวสาร บทความต่างๆ  ส่วนหมวดสแกน QR code ของยา จะมีไว้สำหรับการสแกน QR code ยาที่ได้รับมาจากโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทยหมวดข้อมูลยา เป็นหมวดที่แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับยาแต่ละชนิด โดยจะจัดเรียงตามอักษรภาษาอังกฤษของชื่อยา หรือผู้ใช้สามารถป้อนชื่อยาและค้นหาได้ ต่อมาเป็นหมวดสาระยาน่ารู้ จะเป็นหมวดข้อควรรู้ในการใช้ยาที่จัดเก็บในรูปแบบวิดีโอ  สุดท้ายเป็นหมวดโรงพยาบาลและร้านยา ซึ่งใช้ในการค้นหาโรงพยาบาลและร้านยาบริเวณใกล้เคียงที่ผู้ใช้แอปพลิเคชันใช้อยู่ หรือค้นหาโรงพยาบาลที่ต้องการ พร้อมทั้งมีแผนที่ในการบอกเส้นทางนอกจากนี้แอปพลิเคชัน RDU รู้เรื่องยา ยังสามารถบันทึกข้อมูลของตนเองไว้เพื่อเป็นข้อมูลให้กับโรงพยาบาลได้อีกด้วย โดยผู้ใช้แอปพลิเคชันเข้าลงทะเบียนและกรอกข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ชื่อนามสกุล เลขบัตรประชาชน วันเกิด เพศ อีเมล เบอร์โทรติดต่อ รวมถึงการตั้งชื่อบัญชีผู้ใช้และรหัสผ่าน เมื่อลงทะเบียนภายในแอปพลิเคชันเรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้แอปพลิเคชันสามารถสแกน QR code เพื่อนำไปบันทึกเป็นข้อมูลการใช้ยา โดยจะปรากฏข้อมูลยาแต่ละชนิดที่ได้รับ วันเวลาที่ได้รับยาจากโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษา ถ้าผู้ใช้ต้องการรู้รายละเอียดเกี่ยวกับยาชนิดนั้นให้กดเลือกชื่อยาที่ต้องการ แอปพลิเคชันจะนำไปหน้ารายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลยา ตั้งแต่ชื่อสามัญของยา รูปแบบของยา การใช้รักษาอาการแบบใด คำแนะนำในการใช้ยา อาการที่อาจเกิดหลังจากรับประทานยา ข้อควรระวังในการใช้ยา ข้อระวังในการใช้ยาร่วมกับยาชนิดอื่น ข้อห้ามใช้ยา และการเก็บรักษายาแต่สิ่งที่ดีที่สุด นั่นคือการไม่ต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่องและไม่ต้องใช้แอปพลิเคชัน RDU รู้เรื่องยา ดังนั้นควรออกกำลังกายสม่ำเสมอและรักษาสุขภาพให้แข็งแรงกันดีกว่านะคะ

อ่านเพิ่มเติม >