ฉบับที่ 167 ปัญหานักศึกษากับบัตร Rabbit รถไฟฟ้า BTS

“รถติด” ปัญหาชีวิตคนเมืองกรุงเทพฯ  ทั้งนักเรียน  นักศึกษา คนทำงาน  โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนทั้งช่วงเช้า และช่วงเย็น  คนกรุงเทพฯ มักจะหลบเลี่ยงการจราจรที่คับคั่ง  รถติดยาวเหยียด ด้วยการหันไปใช้บริการรถไฟฟ้า BTS  กันมากขึ้น  ต้องบอกว่าแน่นไม่แพ้กัน ทำให้ต้องขยายเส้นทางกันมากมาย และยังให้นักเรียน นักศึกษา ใช้รถไฟฟ้า  BTS  ในราคาถูกกว่าผู้ใช้บริการทั่วไป ดังเช่น น้องลัคนา นักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชน ที่เพิ่งจบการศึกษาหมาดๆลัคนาเล่าให้เราฟังว่า “ใช้บริการมาตลอดตั้งแต่เรียนปีที่ 2  โดย ซื้อบัตร Rabbit เพื่อความสะดวกในการใช้เดินทาง จนเมื่อเช้าวันพฤหัสบดี ที่ 11 ธันวาคม 57 สถานที่ BTS บางหว้า น้องกำลังจะเดินทางไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยนำบัตรไปใช้บริการตามปกติ แต่เครื่องอัตโนมัติได้เตือน ว่าไม่สามารถผ่านได้ ต้องเติมเงินเท่านั้นเธอจึงไปที่เคาน์เตอร์เติมเงินลงบัตรแรบบิท จำนวน 100 บาท เพราะเป็นช่วงต่อขยาย ผู้ร้องใช้บัตรแรบบิทแบบเติมเที่ยว เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้น ได้นำบัตรไปใช้บริการ ระหว่างนั้น พนักงานท่านหนึ่ง  ได้เรียกและขอดูบัตรแรบบิท พร้อมกล่าว ขอดูบัตรประชาชน และบัตรนักศึกษา แต่ในช่วงระยะเวลานั้น ผู้ร้องมีเพียงบัตรประชาชน จึงยื่นไปแต่พนักงานพูดจาไม่รู้เรื่อง ถึง 2 รอบ แต่จับประเด็นได้ว่า ขอยึดบัตรแรบบิท พร้อมเขียนบิล(ยึดบัตรโดยสาร)พนักงานกล่าวว่า ถ้าจะเอาคืน ต้องเอาบัตรนักศึกษามาแนบ ภายในระยะเวลา 3 วัน และให้ผู้ร้องออกมา พร้อมบอกว่าให้ไปซื้อบัตรหยอดตู้ รายวันใช้ใหม่  แล้วค่อยกลับเข้าไปใหม่  ในช่วงนั้นผู้ร้องรู้สึกสิ้นหวังสิ้นหวังสุดๆ เพราะมีเงิน เพียง 100 บาท แต่นำไปเติมค่าโดยสารหมดแล้ว  ต้องจำยอมไปถอนเงินซื้อบัตรใหม่ วันรุ่งขึ้นเมื่อไปติดต่อขอรับบัตรคืน  กลับถูกปฏิเสธพนักงานอ้างว่าเรียนจบแล้ว เพระบัตรนักศึกษาหมดอายุ ใช้ไม่ได้  น้องนึกในใจว่า แล้วที่ยอมให้เติมเงินได้ทุกครั้งล่ะ?   แล้วที่เขียนว่าอายุไม่เกิน 23 ปีล่ะ เขียนไว้ทำไม  บัตรก็เป็นของเราแค่เพิ่งเรียนจบ งานก็ยังไม่ได้ทำ งั้น…ขอเงินคืนได้หรือไม่  พนักงานบอกว่าไม่ได้น้องจึงมาขอคำปรึกษา ว่าทำอะไรได้บ้างไหม ศูนย์พิทักษ์หลังจากรับฟังเรื่องราว  และมาตรวจสอบข้อมูล  พบว่า “เงื่อนไขในการใช้บัตรชนิดนี้มีกำหนดแต่เพียงว่า “สำหรับนักเรียน  นักศึกษา ที่มีอายุไม่เกิน 23 ปีบริบูรณ์ ตามบัตรประชาชนและศึกษาในสถานศึกษาในประเทศไทย ศึกษาในต่างประเทศ  เนติบัณฑิต โรงเรียนฝึกอาชีพ และโรงเรียนสอนภาษา  และไม่ต้องแสดงหลักฐานการเป็นผู้มีสิทธิใช้บัตรโดยสารประเภทดังกล่าวในเวลาซื้อบัตรโดยสาร” พนักงานใช้วิธีเพียงสุ่มตรวจเท่านั้น  ซึ่งมิใช่มาตรการที่รัดกุม  และบัตรนั้นเป็นของผู้ร้องเอง ที่มิใช่นำของผู้อื่นมาใช้  จึงเห็นด้วยว่า ที่บริษัทฯ ไม่ให้โอกาส ผู้บริโภคแก้ตัว เช่น การคืนเงิน น่าจะพูดคุยกันได้ จึงแนะนำให้ น้องลัคนาทำหนังสือถึง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ขอให้คืนเงินในบัตรที่เติมเป็นเงินค่าส่วนต่อขยาย และราคาค่าเที่ยวที่ยังคงเหลือทั้งหมด  

อ่านเพิ่มเติม >