ฉบับที่ 267 ไปต่างประเทศ 10 วันฝากเลี้ยงนก แต่นกตาย

        หัวอกคนเลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าจะแมว สุนัข กระต่ายหรือนก สัตว์เหล่านี้ยิ่งเราเอ็นดูมันมากก็ห่วงมันมากหากต้องมีธุระต้องเดินทางห่างจากสัตว์เลี้ยงหลายวัน มันจะอยู่จะกินอย่างไร นี่เป็นเรื่องที่คนเลี้ยงสัตว์จำเป็นต้องรวมเข้าไปในคู่มือการเลี้ยงด้วย อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีสถานให้บริการรับดูแลสัตว์เลี้ยงเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคมากมาย ทั้งรับเลี้ยงดูแลแบบค้างคืน ดูแลตามบ้าน แต่สถานบริการที่เปิดหลายแห่งเหล่านี้บางแห่งอาจไม่ใช่มืออาชีพ บริการไม่ดีจนทำให้ผู้เลี้ยงต้องเสียใจก็มีอยู่ จึงต้องเลือกให้ดีๆ          คุณขวัญใจ ผู้เสียหายที่ได้มาขอรับคำปรึกษาจากมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา เล่าว่า เธอได้ใช้บริการสถานรับดูแลสัตว์เลี้ยงแห่งหนึ่งและได้ฝากเลี้ยงนกแก้ว 8 ตัว เป็นเวลา 10 วัน เพราะเธอต้องเดินทางไปต่างประเทศ ทว่าต่อมาพบว่าระหว่างอยู่ในบริการของสถานรับเลี้ยงดังกล่าวนี้ นกของเธอได้ตายไป 1 ตัว         คุณขวัญใจรักนกแก้วเหมือนลูก  นกแก้วของคุณขวัญใจเป็นสายพันธุ์  “ไวท์ บิลลี่ ไคท์”  ( White bellied caique ) ตัวเล็กน่ารัก สีสันสวยงาม สามารถพูดและเลียนแบบเสียงคนได้ นิสัยร่าเริง ฉลาด เรียนรู้ไว ต้องนำเข้าจากต่างประเทศราคาตัวละประมาณ 35,000 บาท  คุณขวัญใจฝากเลี้ยงเป็นเวลา 10 วัน รวมราคารับฝากเลี้ยง 7,200 บาท  โดยแยกเลี้ยงกรงละ 2 ตัว         วันแรกที่เข้าใช้บริการคือวันที่ 10 เมษายน ทางร้านยังแจ้งทางไลน์ให้คุณขวัญใจทราบว่าการเลี้ยงดู เรียบร้อยดี เป็นไปตามขั้นตอน แต่นกตัวโต ชอบรังแกนกตัวเล็กแบบรุนแรง  เมื่อคุณขวัญใจให้ทางร้านถ่ายคลิปให้ดูทางร้านกลับเฉยไม่ปฏิบัติตามคำขอ ต่อมาวันที่ 15 เมษายน ทางร้านได้แจ้งว่า อากาศร้อนจนทำให้นกหอบคุณขวัญใจจึงขอให้ทางร้านเปิดแอร์ให้นกตลอดเวลา แล้วจะเพิ่มเงินให้ ... แต่ต่อมาอีกเพียง 3-4 ชั่วโมง  ทางร้านแจ้งว่านกตีกันตายแล้ว 1 ตัว   คราวนี้มีส่งคลิปให้ดู         เมื่อได้ดูคลิปเห็นอาการคุณขวัญใจจึงทราบทันทีว่า ทางร้านไม่ช่วยเหลือนกออกจากกรงและช่วยนำตัวที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลสัตว์ ซึ่งทางร้านอ้างว่า ต้องดูแลนกอีกจำนวนมากแล้วไม่รู้จักหมอที่รักษานกเป็นการเฉพาะ ดังนั้นเมื่อกลับมาจากต่างประเทศ คุณขวัญใจได้ถามหาความรับผิดชอบจากร้าน  แต่ทางร้านให้คำตอบว่า “ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องรับผิดชอบ “  !!! คุณขวัญใจโมโหมาก นกตายก็เสียใจมากแล้ว เจอทางร้านปัดความรับผิดชอบอีก จึงขอคำปรึกษามา แนวทางการแก้ไขปัญหา                เบื้องต้นทางศูนย์พิทักษ์สิทธิ แนะให้แจ้งความที่สถานีตำรวจไว้เพื่อลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน ต่อมาเมื่อมูลนิธิฯ ได้ทำจดหมายไปถึงร้านเพื่อเชิญมาเจรจาไกล่เกลี่ย เบื้องต้นการเจรจาไม่บังเกิดผล ดังนั้นคุณขวัญใจจึงได้นำเรื่องเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายแล้ว  โดยทางศูนย์ฯ จะให้ความช่วยเหลือเรื่องข้อกฎหมายต่อไป

อ่านเพิ่มเติม >