ฉบับที่ 156 สารต่างๆ ในสบู่สามารถซึมเข้าบำรุงผิวได้ไหม

  เป็นคำถามที่น่าสนใจ เพราะสารพัดโฆษณาสบู่ล้วนแต่ดึงดูดความสนใจของเราด้วย สารต่างๆ ที่อ้างว่าช่วยบำรุงผิว ไม่ว่าจะเป็น วิตามิน   สารสกัดจากพืชต่างๆ หรือสารชื่อดังอย่าง กลูต้า คอลลาเจน ฯลฯ อันที่จริงคำตอบง่ายมากถ้าเข้าใจธรรมชาติของผิวและตัวผลิตภัณฑ์คือ สบู่ ผิวหนังของคนเรามีสองชั้น คือชั้นบนสุดหรือที่เรียกว่าหนังกำพร้าหนาประมาณ 0.02 มิลลิเมตร ประกอบด้วยเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วและสารที่เป็นไขมัน ซึ่งจะทำหน้าที่ป้องกันการสูญเสียน้ำ (dehydration) สารระคายเคือง สารก่อภูมิแพ้ และจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรค ใต้ชั้นหนังกำพร้าเป็นชั้นหนังแท้ ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อเชื่อมโยงแบบยืดหยุ่นหนาประมาณ 1 มิลลิเมตร ประกอบด้วยระบบหลอดเลือด อวัยวะรับความรู้สึกและเส้นประสาท รูขุมขน ต่อมไขมัน และต่อมเหงื่อ   เมื่อผิวหนังชั้นบนสุดปะทะกับสิ่งแวดล้อมต่างๆ ทั้งฝุ่นละออง เหงื่อไคลที่สะสมบนชั้นผิว ก็ถึงเวลาที่เราต้องทำความสะอาดด้วยการอาบน้ำ สบู่จึงถูกผลิตขึ้นมาเพื่อช่วยในการชำระล้างคราบสกปรกต่างๆ ให้ออกไปจากผิวได้ง่ายขึ้น ดังนั้นหน้าที่ของสบู่คือช่วยชำระล้าง  ถ้าจะให้เพิ่มหน้าที่บำรุงผิวเข้าไปในสบู่ด้วยเห็นจะยาก ด้วยเหตุผลง่ายๆ ที่ว่า สบู่มันอยู่บนผิวเราเพียงชั่วประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น แล้วก็จะถูกเราล้างออกไปอย่างรวดเร็ว(ยิ่งสบู่เหลวที่บางคนรู้สึกว่าให้ความรู้สึกลื่นๆ เหลือบนผิว ยิ่งถูกน้ำล้างออกมากกว่าปกติ) การใส่สารบำรุงต่างๆ ในสบู่จึงไม่ได้มีคุณกับผิวในแง่ของการบำรุง แต่อาจจะช่วยในด้านจิตใจได้บ้าง ว่าได้ใช้สบู่ผสมสารบำรุงที่ราคาแพงเพิ่มขึ้นจากสบู่ทั่วไป กรณีของสบู่ที่ผสมสารบางชนิด เช่น มอยส์เจอไรเซอร์ กรด AHA , BHA หรือผสมพืชสมุนไพร อันนี้จะหวังผลเฉพาะผิวชั้นบนสุดเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องของการซึมซาบเข้าผิวชั้นใน อย่าง มอยส์เจอไรเซอร์ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น กรด AHA , BHA ช่วยให้ผิวชั้นนอกหลุดลอกเร็วขึ้น ผิวใหม่ที่ผลัดขึ้นมาจึงดูขาวและสดใสกว่าผิวเดิม หรือสารบางอย่างที่ผสมในสบู่อาจช่วยในการฆ่าเชื้อได้ด้วย(เฉพาะผิวชั้นบนสุด) เช่น ไตรโคลซาน(triclosan) หรือ พวกสารฆ่าเชื้อธรรมชาติ เช่น Tea tree oil ซึ่งอาจเหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องกลิ่นกาย หรือมีปัญหาเรื่องสิว   ความต่างของสบู่เหลวกับสบู่ก้อน สบู่ก้อน คือส่วนผสมระหว่างกรด (ไขมัน) กับเบส (ด่าง) ในอัตราส่วนที่ทำให้สามารถทำความสะอาดได้ดี และไม่เป็นอันตรายต่อผิว คือมีค่า pH อยู่ระหว่าง 8-10  ส่วน สบู่เหลว เป็นสารสังเคราะห์ที่ช่วยลดแรงตึงผิว ค่า pH อยู่ที่ประมาณ 5-6 ในเรื่องของการช่วยทำความสะอาดผิว ทั้งสบู่เหลวและสบู่ก้อนให้ผลไม่ต่างกันและก็อาจระคายเคืองผิวได้เหมือนกัน แต่สบู่เหลวอาจทำให้ผิวแห้งได้ง่ายกว่าเพราะจับคราบได้ดีกว่า  สบู่เหลวจึงผสมสารให้ความชุ่มชื้นลงไปได้เพื่อแก้ไขจุดนี้(ส่วนใหญ่เป็นสารอุ้มน้ำดังนั้นจึงไม่หลุดไปพร้อมน้ำที่ล้างออกไป แต่จะเกาะแล้วก็จะดึงน้ำมาเกาะผิวเราให้ชุ่มชื้น แต่บางคนจะรู้สึกเหมือนล้างผิวไม่สะอาด)     //

สำหรับสมาชิก >
ฉลาดซื้อ เก็บแต้มแลกสินค้า250 Point