ฉบับที่ 101 ไปดูเขาขาย น้ำสมุนไพรหมักแบบลักไก่

เรื่องเล่าเฝ้าระวังภก.ภาณุโชติ ทองยัง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงคราม ในยุคที่ผู้บริโภคหันกลับมาสนใจกับสมุนไพร การผลิตน้ำสมุนไพรโดยกลุ่มผู้ประกอบการต่างๆ ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่สร้างสีสันให้แก่ผู้บริโภคมาก และผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้บริโภคชาวไทยส่วนใหญ่มันอ่อนระโหยโรยแรงกันหรืออย่างไร ส่วนใหญ่น้ำสมุนไพรเห็นที่ผลิตกันหลายต่อหลายรายจึงมักจะมีสรรพคุณบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง โดยการผลิตก็จะนำเอาสมุนไพรพื้นบ้านต่างๆ มาหมักเป็นน้ำสมุนไพรและนำมาขออนุญาตขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนโบราณ   วันหนึ่งก็เกิดปรากฎการณ์มหัศจรรย์แบบ “ลักไก่” เกิดขึ้นจนได้ เรื่องของเรื่อง คือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ดันไปตรวจพบน้ำสมุนไพรหมักเต็มพลัง ตราโสมตังเซียม และน้ำสมุนไพรหมักเต็มพลัง ตราผู้ใหญ่สุพรรณ ที่ผลิตแถวๆ อำเภอสูงเนิน วางจำหน่ายในท้องตลาด โดยยังไม่ได้ขออนุญาตสถานที่ผลิตให้ถูกต้องเป็นเรื่องเป็นราวซะด้วยสิ จากการตรวจสอบฉลากข้างขวดของน้ำสมุนไพรหมักเต็มพลัง ตราผู้ใหญ่สุพรรณ มันระบุว่า ประกอบไปด้วย หัวโสม ม้ากระทืบโรง กระชายดำ ฟ้าทะลายโจร โด่ไม่รู้ล้ม แหม…แต่ละอย่างมันชวนให้สอดคล้องกับ สรรพคุณที่ระบุว่า “บำรุงร่างกายให้แข็งแรง” ซะด้วย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เขาพลิกคว่ำพลิกหงายตะแคงขวดตรวจดูยังไง ก็ไม่ยักเจอ เลขทะเบียนยาแผนโบราณ เลยเก็บตัวอย่างส่งตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์นครราชสีมา เพื่อดูให้รู้ดำรู้แดงไปเลยว่ามันมีส่วนผสมอะไรบ้าง แล้วความจริงก็ปรากฏ คือพบยาแผนปัจจุบันผสมลงไปด้วย เป็นยา Cyproheptadine ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้ผู้ที่รับประทานเจริญอาหารขึ้นมาได้ ไม่รู้ผู้ผลิตเขาคิดง่ายๆ คือให้กินยาน้ำสมุนไพรเข้าไป แล้วก็คงจะเจริญอาหารขึ้นมาทันตาเห็น พอกินอาหารได้มากขึ้น ร่างกายก็อาจจะแข็งแรงขึ้นมามั้ง ขออนุญาตเอากรณีดังกล่าวนี้เป็นตัวอย่างป่าวประกาศเลยนะครับ หากใครจะผลิตน้ำสมุนไพรหมัก โดยจะโฆษณาว่ามีสรรพคุณทางยา อย่าลืมมาขออนุญาตขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนโบราณให้ถูกต้องนะครับ และเมื่อได้รับอนุญาตให้ทำการผลิตได้แล้ว ก็ต้องแสดงฉลากให้ผู้บริโภคเห็นข้อมูลครบถ้วนตามที่กฎหมายเขากำหนด รวมทั้งต้องแสดงเลขทะเบียนตำรับยาด้วย และที่สำคัญ “ต้องผลิตด้วยสูตรตามที่ได้รับอนุญาต” นะครับ ประเภทที่ขออนุญาตผลิตยาแผนโบราณ แต่แอบเอายาแผนปัจจุบันผสมแบบลักไก่ให้ออกฤทธิ์ตามต้องการนั้นไม่ถูกกฎหมายนะครับ ติดคุกนะครับ

อ่านเพิ่มเติม >

ถามมา...ตอบไป กับฉลาดซื้อ

อยากรู้เรื่องไหน สารนี้มีประโยชน์จริงเปล่า กินอาหารเสริมจะดีกับสุขภาพไหม อยากรู้เรื่องไหน ถามฉลาดซื้อค่ะ ... เรื่องไหนที่คุณอยากรู้ ห้ามพลาดค่ะ

อ่านเพิ่มเติม >

อยากให้ฉลาดซื้อ ทดสอบเรื่องอะไร

ฉลาดซื้อ เปิดโอกาสให้คนที่ฉลาดซื้อทุกท่านได้ร่วมแสดงความคิดเห็น ว่าอยากให้ฉลาดซื้อ ทดสอบเรื่องอะไร ไม่ว่าจะเป็น เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเลคทรอนิกส์ สินค้าเทคโนโลยี อาหาร บริการ หรืออะไรที่คุณอยากให้ฉลาดซื้อไปทดสอบบ้าง บอกกันได้ค่ะ..

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 100 เที่ยวเกาะหลีเป๊ะแบบเปลือยๆ กับบริการพิเศษไทยแอร์เอเชีย

“กระเป๋าของฉันอยู่ไหน”คุณอิสริยาเดินจูงมือน้องชายที่บินมาด้วยกันจากสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อสอบถามกับพนักงานของบริษัทไทยแอร์เอเชียที่ประจำอยู่ที่สนามบินหาดใหญ่ว่า ทำไมไม่เห็นกระเป๋าเสื้อผ้าของตนและน้องชายที่เตรียมไว้สำหรับไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะที่จังหวัดสตูลจำนวน 5 วันเสียที ทั้งๆ ที่ลงเครื่องมานานแล้วพนักงานให้คำตอบอันสุดแสนประทับใจว่า ทางสายการบินไม่ได้โหลดกระเป๋าขึ้นเครื่องมาด้วย และวันนี้ก็คงจะส่งตามมาไม่ทัน“แล้วอย่างงี้จะเที่ยวได้ยังไงเนี่ย”“แล้วอย่างงี้จะเที่ยวได้ยังไงเนี่ย”“แล้วอย่างงี้จะเที่ยวได้ยังไงเนี่ย” คุณอิสริยารำพึงกับตัวเอง รู้สึกว่าทำไมเช้านี้ชีวิตถึงได้อับโชคขนาดนี้ กะว่าจะเที่ยวเกาะหลีเป๊ะกับน้องชายให้ครึกครื้นเศรษฐกิจไทยคึกคักตามคำคุยของ ททท. เสียหน่อย แต่ต้องมาเจอบริการพิเศษที่ไม่ได้สั่งจองจากไทยแอร์เอเซียที่ให้บินมาได้แต่ตัว แต่กระเป๋าเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นอื่นๆ ไม่บินมาด้วยพอสอบถามเพิ่มเติมว่าจะได้เห็นกระเป๋าเมื่อไหร่ พนักงานบอกว่า คงจะได้รับในช่วงบ่ายของวันรุ่งขึ้นโดยทางสายการบินจะฝากกระเป๋าไปกับเรือส่งให้ถึงรีสอร์ตบนเกาะคุณอิสริยากับน้องชายไม่มีทางเลือกเพราะต้องเดินทางไปที่ จ.สตูลให้ทันเรือรอบ 11.30 น. เพื่อไปพักที่เกาะหลีเป๊ะ จึงได้ทำเรื่องทิ้งไว้และไปปักหลักรอกระเป๋าเสื้อผ้าที่เกาะ ซึ่งคืนนั้นคุณอิสริยาและน้องชายต้องแก้ปัญหาด้วยการซื้อเสื้อผ้ามาใส่ประทังไปก่อนพอสอบถามเพิ่มเติมว่าจะได้เห็นกระเป๋าเมื่อไหร่ พนักงานบอกว่า คงจะได้รับในช่วงบ่ายของวันรุ่งขึ้นโดยทางสายการบินจะฝากกระเป๋าไปกับเรือส่งให้ถึงรีสอร์ตบนเกาะคุณอิสริยากับน้องชายไม่มีทางเลือกเพราะต้องเดินทางไปที่ จ.สตูลให้ทันเรือรอบ 11.30 น. เพื่อไปพักที่เกาะหลีเป๊ะ จึงได้ทำเรื่องทิ้งไว้และไปปักหลักรอกระเป๋าเสื้อผ้าที่เกาะ ซึ่งคืนนั้นคุณอิสริยาและน้องชายต้องแก้ปัญหาด้วยการซื้อเสื้อผ้ามาใส่ประทังไปก่อนพอสอบถามเพิ่มเติมว่าจะได้เห็นกระเป๋าเมื่อไหร่ พนักงานบอกว่า คงจะได้รับในช่วงบ่ายของวันรุ่งขึ้นโดยทางสายการบินจะฝากกระเป๋าไปกับเรือส่งให้ถึงรีสอร์ตบนเกาะคุณอิสริยากับน้องชายไม่มีทางเลือกเพราะต้องเดินทางไปที่ จ.สตูลให้ทันเรือรอบ 11.30 น. เพื่อไปพักที่เกาะหลีเป๊ะ จึงได้ทำเรื่องทิ้งไว้และไปปักหลักรอกระเป๋าเสื้อผ้าที่เกาะ ซึ่งคืนนั้นคุณอิสริยาและน้องชายต้องแก้ปัญหาด้วยการซื้อเสื้อผ้ามาใส่ประทังไปก่อนพอถึงวันรุ่งขึ้นแทนที่จะได้ออกไปเที่ยวทะเลดำน้ำเหมือนนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ คุณอิสริยาต้องมานั่งรอกกระเป๋าอยู่ในที่พัก รอจนถึงบ่ายสองโมงก็ยังไม่เห็นกระเป๋าสุดที่รัก จึงโทรไปถามกับพนักงานไทยแอร์เอเชีย ได้รับแจ้งว่า ได้ทิ้งกระเป๋าไว้ให้กับบริษัทเรือที่จะมาเกาะหลีเป๊ะแล้วแต่บริษัทเรือไม่ได้นำลงเรือไปเกาะด้วย ทำให้คืนนั้นคุณอิสริยาและน้องชายต้องซื้อเสื้อผ้าใส่กันอีกหนึ่งชุดคุณอิสริยามาได้กระเป๋าในวันที่สามของการท่องเที่ยวครั้งนี้ในเวลาประมาณบ่ายสามโมงกว่าๆ สรุปว่ามาเที่ยว 5 วัน ใช้เวลา 3 วันเพื่อรอกระเป๋าและได้เที่ยวจริงๆ เพียงแค่ 2 วัน ด้วยอารมณ์บูดสุดๆ พอถึงวันเดินทางกลับคุณอิสริยาได้ร้องเรียนเรียกค่าเสียหายกับไทยแอร์เอเชียที่ทำกระเป๋าตกทั้งเครื่องบิน ตกทั้งเรือจนไม่มีเสื้อผ้าใส่ ซึ่งไทยแอร์เอเชียแสดงความรับผิดชอบชดใช้เงินให้กับคุณอิสริยาและน้องชายคนละ 300 บาท บวกค่าเรือไปรับกระเป๋าอีก 100 บาทรวมเป็นเงิน 700 บาท พร้อมสำทับว่านี่คือมาตรฐานความรับผิดชอบค่าเสียหายของบริษัท คุณอิสริยาเห็นหลักในการชดใช้ดังกล่าวของไทยแอร์เอเชียแล้วต้องบอกว่า รับไม่ได้“ถ้าดิฉันเป็นคนหาดใหญ่แล้วไม่ได้รับกระเป๋าจะต้องรอกี่วันก็ไม่เดือดร้อน เพราะรออยู่ที่บ้านตัวเอง แต่นี่ดิฉันและน้องชายเดินทางไปพักผ่อนในเวลาจำกัดและไปพักบนเกาะ ความเดือดร้อนและความเสียหายมันต่างกัน แล้วไม่ใช่แค่วันเดียว แต่เป็น 2 คืน 3วันที่กว่าจะได้รับกระเป๋า...”เมื่อไม่สามารถตกลงกันได้ท้ายสุดคุณอิสริยาจึงร้องเรียนมาที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเพื่อให้ช่วยแก้ปัญหานี้แนวทางแก้ไขปัญหา“ถ้าดิฉันเป็นคนหาดใหญ่แล้วไม่ได้รับกระเป๋าจะต้องรอกี่วันก็ไม่เดือดร้อน เพราะรออยู่ที่บ้านตัวเอง แต่นี่ดิฉันและน้องชายเดินทางไปพักผ่อนในเวลาจำกัดและไปพักบนเกาะ ความเดือดร้อนและความเสียหายมันต่างกัน แล้วไม่ใช่แค่วันเดียว แต่เป็น 2 คืน 3วันที่กว่าจะได้รับกระเป๋า...”เมื่อไม่สามารถตกลงกันได้ท้ายสุดคุณอิสริยาจึงร้องเรียนมาที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเพื่อให้ช่วยแก้ปัญหานี้มูลนิธิฯ ได้ช่วยทำจดหมายประสานไปยังไทยแอร์เอเชีย ซึ่งในเวลาต่อมาสายการบินราคาประหยัดแห่งนี้ได้มีจดหมายชี้แจงถึงสาเหตุที่กระเป๋าผู้โดยสารมีอันต้องตกเครื่องบินและตกเรือว่า ปัญหาเริ่มต้นมาจากระบบการลำเลียงสัมภาระได้ส่งสัมภาระมาล่าช้า จึงเป็นสาเหตุให้สัมภาระที่ลงทะเบียนไม่ได้ถูกส่งไปพร้อมกับเที่ยวบินที่ผู้เสียหายเดินทาง บริษัทฯ ได้รีบดำเนินการจัดส่งไปในเที่ยวบินถัดไปของวันเดียวกันซึ่งออกจากกรุงเทพฯเวลา 10.40 ถึงหาดใหญ่เวลา 12.05 น. และนำไปส่งบริษัทเรือที่ท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูล เพื่อส่งขึ้นเรือและนำไปส่งที่หลีเป๊ะ แต่มาไม่ทันเวลาเรือที่ออกไปหลีเป๊ะ จึงแจ้งให้บริษัทเรือจัดส่งให้ในวันถัดไป จนกระทั่งได้รับการติดต่อจากผู้ร้องว่ายังไม่ได้รับกระเป๋า ไทยแอร์เอเชียจึงติดต่อไปยังบริษัทเรือ ถึงทราบว่าบริษัทเรือลืมนำสัมภาระลงเรือ จึงต้องจัดส่งให้ในวันต่อไปอย่างไรก็ดี ไทยแอร์เอเชียได้พิจารณาให้ผู้ร้องเป็นกรณีพิเศษ โดยชดเชยค่าเสียหายให้เป็นจำนวนเงิน 1,100 บาท เป็นทั้งค่าเสื้อผ้าและค่าเรือที่ผู้ร้องจ่ายเพื่อไปรับกระเป๋า ซึ่งเป็นจุดที่คุณอิสริยาพอที่จะรับได้จึงยินยอมรับเงินชดเชยค่าเสียหายจำนวนดังกล่าวในท้ายที่สุด  

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 100 ตกร่องน้ำในห้างดัง เรียกค่าเสียหายได้หรือไม่

พื้นที่ในห้างสรรพสินค้าถือเป็นพื้นที่ของเอกชนที่เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปเข้าใช้บริการได้ตามเวลาที่กำหนด ซึ่งเจ้าของพื้นที่มีหน้าที่ต้องดูแลรับผิดชอบความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการอย่างเหมาะสม หากวันใดคุณเกิดอุบัติเหตุหกล้มหัวร้างข้างแตกเพราะทางห้างมิได้จัดอุปกรณ์ป้องกันภัยให้เหมาะสม ในฐานะผู้ใช้บริการสามารถใช้สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายได้ในเวลาเย็นย่ำของวันที่ 12 มกราคม 2550 ระหว่างที่คุณสุดา กำลังเดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อไปยังจังหวัดลำปาง เธอได้ขับรถยนต์แวะเข้าไปใช้บริการที่ห้างบิ๊กซีซูปเปอร์ สาขาลำปาง เพื่อซื้อเครื่องใช้ส่วนตัว ครั้นซื้อสินค้าเสร็จสิ้นและกำลังเดินทางกลับมาขึ้นรถที่บริเวณลานจอดรถ ตรงทางสามแยกปรากฏว่ามีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งตรงมาตามทางเดินรถที่ไม่มีลูกระนาดด้วยความเร็วในระยะประชิด คุณสุดาตกใจเกรงว่าตนจะถูกรถชน จึงก้าวขึ้นไปบนเกาะกลางถนนที่ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างเพื่อหลบรถยนต์ที่วิ่งเข้าใส่“เฮ้อ....” คุณสุดา ถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่ไม่ต้องถูกรถมาเชี่ยวชน เพื่อความปลอดภัยเธอจึงตัดสินใจหลบไปอีกด้านหนึ่งและก้าวลงจากเกาะกลางถนนด้านที่มืดสลัว โดยไม่ทันได้สังเกตว่าจุดที่ก้าวเท้าเหยียบลงไปนั้นเป็นร่องรางน้ำรูปตัววีที่ไม่มีฝาปิด ทำให้เท้าทั้งสองข้างลื่นไถลตกลงร่องรางน้ำรูปตัววีต่างระดับนั้นและเสียหลักลื่นล้มลงอย่างแรง กระดูกข้อเท้าขวาหลุดและแตกหัก อาการหนักพอดู....หลังเกิดเหตุคุณสุดาถูกนำตัวส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเขลางค์นครราม-ลำปาง แต่ถึงอาการจะหนัก เธอยังพอมีสติที่จะถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวแทนของห้างฯที่มาเยี่ยม “เอ่อ..ทางห้างฯ ต้องขอยอมรับกับสภาพที่เกิดเหตุที่มีปัญหาและจะเร่งแก้ไขนะครับ และสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นทางห้างฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเองครับ โดยเราขอให้คุณพักรักษาตัวที่ลำปางนี้นะครับ” ตัวแทนของห้างแจ้งให้ทราบ ในขณะที่คุณสุดายังไม่ได้คิดอะไร เพราะมึนกับอาการบาดเจ็บวันต่อมาคุณสุดา ครุ่นคิดในใจหลังได้ปรึกษากับญาติและทีมแพทย์ของโรงพยาบาลพระมงกุฎฯที่กรุงเทพ ที่แนะนำให้มาฟื้นฟูร่างกายที่กรุงเทพฯ จะดีกว่า เนื่องจากเธอเป็นคนสูงอายุและไม่ใช่คนในพื้นที่ การที่ญาติจะมาดูแลย่อมเป็นเรื่องที่ลำบาก เธอจึงตัดสินใจแจ้งกับตัวแทนของห้างฯ เพื่อขอย้ายตัวมารักษาฟื้นฟูร่างกายที่กรุงเทพฯ แทน “ทางเรายังคงขอให้คุณรักษาตัวที่นี่ต่อไปนะครับ ห้างฯ สาขาลำปางไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายนอกพื้นที่จังหวัดลำปางได้ครับ แต่ยังไงต้องขอนำข้อเสนอนี้กลับไปเรียนผู้บริหารอีกครั้งก่อน และจะแจ้งกลับมาให้ทราบอีกครั้งครับ “ ตัวแทนระดับหัวหน้าผู้ดูแลลูกค้าแจ้งให้ทราบคุณสุดา เฝ้ารอคำตอบจากห้างอยู่สองวันก็ยังไม่มีคำตอบใดๆ จึงตัดสินใจเดินทางเพื่อมารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ กรุงเทพฯ ตามคำแนะนำของญาติและแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดในเวลาเดียวกัน คุณโสภณเพื่อนของคุณสุดาที่อยู่ลำปางนั้นได้เข้าพบตัวแทนของห้างระดับผู้บริหารเพื่อรับฟังคำอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งคำอธิบายที่ได้รับฟังนั้นสอดคล้องกับหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงของห้างที่มีถึงคุณสุดาว่า บริษัทมีความมั่นใจโดยสุจริตว่า บริษัทมิได้มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบต่อความบาดเจ็บทั้งหมด.....”สรุปง่ายๆ คือ ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นคุณสุดาทำเองไม่เกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยของห้างฯ เลย และจากคำชี้แจงฉบับลายลักษณ์อักษรของห้างฯ นับเป็นการแสดงความรับชอบแต่ไม่รับผิด ในฐานะผู้ประกอบการที่ปราศจากความระมัดระวังในการให้บริการประชาชนผู้บริโภคที่เข้ามาใช้บริการแต่อย่างใดคุณสุดา จึงแจ้งเรื่องเข้ามาที่ศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค เพื่อขอเรียกร้องสิทธิทางกฎหมายและความรับผิดชอบจากทางห้าง และอยากให้เป็นตัวอย่างหนึ่งของการสู้เพื่อพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคแนวทางแก้ไขปัญหาศูนย์พิทักษ์สิทธิฯ ร่วมกับศูนย์ทนายความอาสาเพื่อผู้บริโภค ได้ดำเนินการสรุปเรื่องและส่งฟ้องบริษัทบิ๊กซีซูปเปอร์เซ็นเตอร์เป็นจำเลยในคดีต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เรียกค่าเสียหายจำนวน 1,231,205 บาท ในประเด็นความผิดพลาดและความประมาทในฐานะผู้ประกอบการที่มีพื้นที่ให้ประชาชนจำนวนมากเข้าใช้บริการ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อร่างกายของผู้ใช้บริการศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นมีเหตุผลอันควรที่ผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบ จากความประมาทและผิดพลาดในการจัดการพื้นที่ภายในห้างสรรพสินค้า ศาลจึงมีคำพิพากษาให้บริษัทบิ๊กซีซูปเปอร์เซ็นเตอร์ในฐานะจำเลยต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับคุณสุดาเป็นเงินจำนวน 405,808.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5% นับแต่วันที่ละเมิดจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น และดอกเบี้ยถึงวันฟ้องไม่เกิน 81,275 บาทภายหลังสิ้นสุดคดีในศาลชั้นต้น คู่ความทั้งสองฝ่ายต่างใช้สิทธิอุทธรณ์ต่อศาล ทั้งนี้จำเลยได้ขอใช้สิทธิทุเลาการบังคับคดีเพื่อไม่ให้ต้องชำระเงินให้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ซึ่งศาลได้ให้โอกาสจำเลยในการนำหลักทรัพย์มาวางประกันต่อศาล แต่จำเลยกลับประวิงเวลาไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลในการนำหลักทรัพย์มาวางประกันในชั้นทุเลาบังคับคดี ดังนั้นศาลอุทธรณ์ จึงมีคำสั่งยกคำร้องขอทุเลาบังคับคดีของจำเลยเสีย.... ซึ่งแสดงว่า โจทก์ในคดีนี้สามารถตั้งเรื่องยึดทรัพย์บังคับคดีจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นได้ในระหว่างอุทธรณ์นั่นเอง.... เป็นเวลาเกือบสองปีสำหรับการต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิของคุณสุดา “ประเด็นสำคัญของการใช้สิทธิทางกฎหมายคือ เราอยากให้เรื่องนี้เป็นประเด็นสาธารณะ ให้สังคมได้รับรู้ในสิ่งที่ห้างสรรพสินค้าในฐานะผู้ประกอบการจะต้องมีความรับผิดชอบที่ดีต่อประชาชนผู้บริโภค ซึ่งถือว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง“ คุณสุดากล่าวทิ้งท้าย

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 100 ลูกค้าฮะจิบังท้องร่วงอย่างแรงเหตุอาหารทำพิษ

เวลาประมาณ 6 โมงเย็นของวันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2552 คุณแพรวพรรณ พร้อมสามีและลูกสาว ได้ไปรับประทานอาหารที่ร้านฮะจิบัง ราเมน สาขาเทสโก้ โลตัส พระราม 3ครอบครัวของคุณแพรวพรรณได้สั่งอาหารมารับประทานทั้งหมด 6 รายการ คือ ซารุเซ็ท ที่ประกอบด้วยซารุราเมนและเกี๊ยวซ่า 2 ชุด , ฮะจังเมน , เนงิเรเมน และทาโกะยากิ อย่างละ 1 ชุด นอกจากนี้ยังมีน้ำดื่มยี่ห้อน้ำทิพย์ 2 ขวดและน้ำแข็งเปล่า 3 แก้ว โดยคุณแพรวพรรณรับประทานเกี๊ยวซ่าและทาโกะยากิ สามีรับประทานซารุเซ็ท ฮะจังเมนและเนงิเรเมน ส่วนลูกสาวรับประทานซารุ ราเมนปรากฏว่า เวลาประมาณตี 1 เศษย่างเข้าวันที่ 10 มีนาคม 2552 คุณแพรวพรรณและสามีเริ่มมีอาการท้องร่วง ถ่ายเป็นน้ำอย่างต่อเนื่องหลายครั้งจนถึงเวลาตีห้า พร้อมอาเจียนมีเลือดปน ในขณะที่ลูกสาวอาเจียนถึง 3 ครั้ง (และมาถ่ายท้องที่โรงพยาบาลอีก 3 ครั้ง) ทั้งหมดถูกส่งเข้าโรงพยาบาลในเช้าตรู่ของวันนั้นนั่นเอง ผลการวินิจฉัยของแพทย์พบว่ามีเชื้อบิดชนิดเฉียบพลันและรุนแรงที่ลำไส้ใหญ่ โดยตัวคุณแพรวพรรณมีอาการรุนแรงที่สุดกว่าทุกคน คือมีอาการท้องร่วงถึงเวลา 6 โมงเช้าของวันที่ 12 มีนาคม 2552 รวม 3 วันนับตั้งแต่วันที่รับประทานอาหารชุดพิเศษจากฮะจิบัง สาขาดังกล่าวต่อมาคุณแพรวพรรณได้ทำเรื่องร้องเรียนไปที่สำนักงานเขตยานนาวา กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ตั้งของห้างฯ ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตยานนาวา ได้ทำการตรวจสอบสุขลักษณะของร้านและทำการสุ่มเก็บตัวอย่างอาหาร น้ำแข็งและน้ำดื่มจากร้านอาหารดังกล่าว เพื่อไปตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการจำนวน 10 รายการ ผลปรากฏว่ามีอาหารถึง 7 ตัวอย่างที่ไม่อยู่ในค่ามาตรฐานที่กำหนด ซึ่งแสดงว่าอาจมีการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียในลำไส้หรือจุลินทรีย์อื่นๆ ที่เป็นพิษจนทำให้เกิดโรคหรืออาการเจ็บป่วยในผู้บริโภคได้ อาหารที่ตกมาตรฐาน 7 รายการคือ บะหมี่(ซารุเซ็ท) , บะหมี่และน้ำซุป (ฮะจังเมน), เนงิเรเมน , ทาโกะยากิ , ซาฮั่ง(ข้าวผัดหมูอบซีอิ๊วญี่ปุ่นไข่) ,ทาราเมน(บะหมี่แห้งราดซอสหมูทันตัม) และ ดาโมะนิราเมน (บะหมี่น้ำหน้าเป็ดพะโล้และเห็ดหอม) นอกจากนี้ยังพบว่าน้ำแข็งหลอดที่จำหน่ายในร้านไม่อยู่ในมาตรฐานอีกด้วย คุณแพรวพรรณได้พยายามเรียกร้องให้ทางร้านฮะจิบังแสดงความรับผิดชอบด้วยการชดใช้ค่าเสียหายซึ่งส่วนใหญ่คือค่ารักษาพยาบาลของสามคนพ่อแม่ลูกจำนวนห้าหมื่นกว่าบาท แต่ไม่มีคำตอบใด ๆ จากทางร้านฮะจิบัง จึงได้ส่งเรื่องร้องเรียนมาที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเพื่อขอความช่วยเหลือแนวทางแก้ไขปัญหาข้อเท็จจริงในทางกฎหมาย การผลิตและจำหน่ายอาหารของร้านฮะจิบังราเมน สาขาดังกล่าว อาจเข้าข่ายเป็นการผลิตและจำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเป็นโทษทางอาญาที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการต่อไป ส่วนความรับผิดในทางแพ่งนั้นมูลนิธิฯ ได้ติดต่อประสานงานไปยังบริษัท ไทยฮะจิบัง จำกัด เพื่อเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้ร้องตามสมควรล่าสุดไทยฮะจิบังได้ติดต่อผ่านเทสโก โลตัสสำนักงานใหญ่ ขอนัดเจรจากับผู้ร้องรายนี้แล้ว ผลความคืบหน้าเป็นอย่างไรจะนำมารายงานในฉลาดซื้อฉบับต่อไป แต่ที่ต้องนำเรื่องนี้มาลงโดยเร่งด่วนเพราะเห็นว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะนำเสนอเป็นข้อมูลสำหรับการตัดสินใจเลือกใช้บริการของผู้บริโภครายอื่น ๆ ต่อไป เพราะเป็นปัญหาที่มีผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของผู้บริโภค

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 100 ขออภัย ที่เราติดตามทวงหนี้ด้วยความไม่เคารพ

ขออภัย ที่เราติดตามทวงหนี้ด้วยความไม่เคารพขอแสดงความเสียใจ และขออภัยอย่างสูงตามที่ท่านได้กรุณาให้เกียรติเป็นลูกค้าของบริษัท อีซี่บายจำกัด(มหาชน) เลขที่ 3969-000-000000000 ต่อมาได้มีเหตุการณ์ไม่เหมาะสมเกิดขึ้น ทำให้ท่านรู้สึกไม่พอใจอย่างมากนั้น บริษัท สยามวรินทร์นิติการ จำกัด รับทราบปัญหาดังกล่าวด้วยความไม่สบายใจ และตระหนักในปัญหาที่เกิดขึ้น โดยได้พยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไป ทั้งนี้ บริษัทฯ รู้สึกเสียใจต่อท่านอย่างมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงเรียนมาเพื่อขออภัยอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้ ขอแสดงความนับถืออย่างสูงบริษัท สยามวรินทร์นิติการ จำกัด เป็นหนึ่งในจดหมายขออภัยของสำนักงานติดตามทวงหนี้หลาย ๆ ฉบับที่ทางมูลนิธิฯ เริ่มได้รับทั้งจากลูกหนี้และจากบริษัทสำนักงานทวงหนี้โดยตรงในปริมาณที่มากขึ้นตามลำดับ หลังจากที่ได้ให้คำแนะนำกับลูกหนี้ในการจัดการปัญหาอันเกิดจากพนักงานทวงหนี้ของสำนักงานทวงหนี้ต่างๆ ซึ่งใช้วิธีการทวงหนี้ที่ไร้มารยาทและผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการประจาน การใช้วาจาจาบจ้วง การข่มขู่กดดันทางด้านจิตใจหรือสิทธิเสรีภาพ ไม่ว่าจะมาจากการถูกสั่งสอนหรืออบรม หรือเป็นเองโดยธรรมชาติก็ตาม เราได้ให้ข้อแนะนำว่าการกระทำดังกล่าวเหล่านี้ล้วนเป็นวิธีการที่ผิดกฎหมายอาญาทั้งสิ้น ลูกหนี้ที่ถูกละเมิดสามารถที่จะดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายได้ทั้งกับพนักงานทวงหนี้ สำนักงานทวงหนี้และบริษัทเจ้าหนี้ แต่การไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็อาจถูกพิจารณาได้ว่าองค์ประกอบในการกระทำผิดทางอาญายังไม่ครบถ้วนอาจทำให้เสียเวลาไปเปล่าๆ ได้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหามีประสิทธิผลจึงให้ข้อแนะนำว่า เมื่อเกิดปัญหาขึ้นลูกหนี้สามารถใช้เหตุผลในเรื่องของการกระทำผิดกฎหมายอาญาที่ได้กล่าวไปแล้วแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังสำนักงานทวงหนี้และบริษัทเจ้าหนี้ได้โดยตรงเพื่อให้ยุติการกระทำดังกล่าวได้ ซึ่งบริษัทเจ้าหนี้หลายๆ บริษัทไม่อยากให้ตัวเองต้องมาเสียภาพพจน์ในเรื่องนี้ จึงมักจะยุติการติดตามทวงหนี้ที่ผิดกฎหมายในลักษณะดังกล่าวโดยทันทีปรากฏว่าในขณะนี้ลูกหนี้ที่ถูกละเมิดจากการติดตามทวงหนี้ที่ผิดกฎหมายและใช้วิธีนี้ปกป้องตัวเองได้รับการปฏิบัติที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในการติดตามทวงหนี้ นับเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมยินดีและควรส่งเสริมให้ปฏิบัติโดยทั่วถึงกันทุกบริษัท ซึ่งจะช่วยให้ลูกหนี้มีทัศนคติที่ดีและตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินเก็บเงินมาชำระหนี้ได้ในเร็ววัน ขอแสดงความนับถืออย่างสูงมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค  

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 100 16 ปี ฉลาดซื้อ

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับหนังสือ “ฉลาดซื้อ” หนังสือที่ดีมีประโยชน์ เป็นอิสระไม่ถูกครอบงำจากกลุ่มทุน เหมือนหนังสือทั่วๆ ไป ที่มีอยู่เกลื่อนประเทศไทย ฉลาดซื้อจึงเป็นหนังสือที่ไม่ใช่หนังสือทั่วไป แต่เป็นหนังสือที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นสามารถติดอาวุธทางปัญญาให้ผู้อ่านอย่างแท้จริงตลอด 16 ปีที่ผ่านมา จึงขอปรบมือดังๆ ให้และขออวยพรให้หนังสือเล่มนี้ยืนหยัดอยู่คู่กับสังคมไทยต่อไป เพื่อเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาการเอารัดเอาเปรียบในสังคมไทยยังมีอยู่อีกมากมาย หนังสือฉลาดซื้อจึงยังคงต้องทำหน้าที่ให้ข้อมูล หยิบยื่นอาวุธ(ข้อมูล)ที่ทำให้ผู้บริโภคตื่นรู้ (รู้เท่าไว้ป้องกัน/รู้ทันไว้แก้ไข) และไม่สยบยอมต่อการถูกเอารัดเอาเปรียบ ร่วมกันลุกขึ้นมาปกป้องคุ้มครองสิทธิของตนเองอย่างแข็งขัน เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างแท้จริง เอ้าๆ ฉบับนี้ครบรอบ16 ปี “ฉลาดซื้อ” ก็อดพูดถึง “มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค” ไม่ได้ เพราะพี่ๆน้องๆ ในมูลนิธิฯ มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นกับผู้บริโภคอย่างแท้จริง ทั้งงานข้อมูล งานด้านกฎหมาย งานรณรงค์ การผลักดันให้เกิดกฎหมายใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค ตลอดจนประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนทำให้กระแสสิทธิผู้บริโภคกระจายไปสู่สังคมไทยอย่างกว้างขวาง เรียกได้ว่าปัจจุบันเป็นยุคทองของการทำงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคก็ว่าได้ และจากการทำงานอย่างแข็งขันของมูลนิธิฯ ส่งผลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตื่นตัว ที่เห็นชัดเจนก็ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) ที่ออกประกาศที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การออกประกาศเกี่ยวกับสัญญาเช่าซื้อ ยกตัวอย่างการเช่าซื้อรถ(รถทุกชนิด)ซึ่งเมื่อก่อนเราเช่าซื้อมาในสัญญาจะระบุไว้ชัดเจนว่า หากรถสูญหายผู้เช่าซื้อต้องรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น พูดง่ายๆ คือเช่าซื้อรถมาแล้วรถหายไป ผู้เช่าซื้อก็ต้องรับภาระผ่อนต่อ(ผ่อนกุญแจ) จนครบตามราคาในสัญญาเช่าซื้อนั้นๆ แต่ปัจจุบันประกาศของ(สคบ.)เขียนไว้ชัดเจนว่าห้ามเขียนสัญญาที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค จนทำให้ผู้บริโภคที่เช่าซื้อรถยนต์ มีโอกาสหายใจได้ทั่วท้องมากขึ้น ตอนนี้หากเราเช่าซื้อรถยนต์(ผ่อนรายเดือน) และรถเกิดสูญหายโดยที่พิสูจน์ได้ว่าการสูญหายนั้นไม่ได้เกิดจากการประมาทเลินเล่อของเรา เราก็ไม่ต้องผ่อนกุญแจอีกต่อไป เพราะทรัพย์ตามสัญญาไม่มีแล้ว ถือได้ว่าสัญญานั้นเป็นโมฆะ ไม่ต้องผ่อนกุญแจเหมือนเดิมอีกแล้วล่ะ ถึงคราวไชโยกันแล้วใช่ไหมล่ะพี่น้อง ผู้บริโภคเป็นอิสระจากสัญญาไม่เป็นธรรมแล้วจริงๆๆ ขอปรบมือดังๆ ให้ สคบ. และขอตะโกนดังๆ แทนผู้บริโภคว่า.... ไชโยๆๆๆๆๆๆ  

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 100 มหัศจรรย์...นมเหนือนม

เรื่องเล่าเฝ้าระวังภก.ภาณุโชติ ทองยัง : สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงคราม นมเล็ก นมใหญ่ ไม่เกี่ยว นมเบี้ยวก็ถอยไป เพราะนี่คือนมมหัศจรรย์ครับ เรื่องของเรื่องคือหัวหน้าแผนกของผม ท่านไปได้เอกสารชิ้นหนึ่งและนำมามอบให้ผมดำเนินการต่อ สงสัยเห็นว่าเรื่องนมน่าจะถูกกับจริตของผม(ฮา) ผมดูผ่านๆ มันก็คือเอกสารโฆษณานมผงชนิดละลายน้ำดื่มนั่นเอง แต่เมื่อเริ่มอ่านต่อไปเรื่อยๆ ความมหัศจรรย์ของนมชนิดนี้ก็เริ่มปรากฏครับ นมชนิดนี้เขาระบุว่าผลิตจากประเทศนิวซีแลนด์ อ้างว่าคุณค่าจากสมมติฐานน้ำนมมารดานั้น อุดมไปด้วยสิ่งที่กระตุ้นต่อมตื่นเต้นได้ง่ายๆ เช่น มีภูมิคุ้มกันโรคถึง 26 ชนิด มีสารต่อต้านการอักเสบบวมแดง มีสารต่อต้านการอุดตันของไขมัน และมีสารกระตุ้นเซลล์ Macrophage แต่ที่เด็ดสะระตี่ (อีกแล้ว) คือมีการอ้างว่าได้รับสิทธิบัตรด้านอาหารและยากว่า 250 ฉบับจาก 27 ประเทศทั่วโลก คงเข้าทำนอง นมเหนือนมที่เราๆ ท่านรู้จักกัน (ฮา) ส่วนสิทธิบัตรนั้นก็ระบุว่าเป็นสิทธิบัตรหลักที่ผ่านการรับรอง ซึ่งมีถึง 10 ประการเชียวนะครับ (ขอบอก) และผมขอย้ำว่าก่อนจะอ่านต่อไป โปรดใช้วิจารณญาน พิจารณาตามหลักกาลามสูตรด้วยนะครับ (หากเป็นเด็กเล็กควรได้รับการชี้แนะจากผู้ปกครอง) ทีแรกก็เริ่มแค่การป้องกัน เริ่มตั้งแต่ป้องกันความดันโลหิตสูง , ป้องกันการอักเสบ พอผ่านไปสองข้อ เริ่มมีการรักษาเข้ามาด้วยแล้ว ป้องกัน – รักษาการอุดตันของไขมันในเส้นเลือด , ป้องกัน – รักษาไขข้ออักเสบปวดตามข้อ , ป้องกัน – รักษากระเพาะอาหารและลำไส้ , ป้องกัน - รักษาปอด หลังจากนั้นก็เริ่มอ้างว่า เพิ่มระบบภูมิคุ้มกันโรคให้สูงขึ้น แต่ที่เด็ดสะท้านโลกันต์มันพะย่ะค่ะก็คือ มีการอ้างว่าป้องกันฟันผุ กำจัดกลิ่นตัวและชะลอการเสื่อมสลายก่อนวัย โอ้...แม่เจ้า! มันช่าง มหัศจรรย์ ชนิดนมเหนือนม ซะนี่กระไร (ฮา) งานนี้ผมคงไม่ต้องมาอธิบายซ้ำว่ามันจะเป็นจริงไปได้หรือไม่ ผมเชื่อว่าแฟนๆ ฉลาดซื้อทุกคนคงจะมีคำตอบแล้วนะครับว่า เจ้าอาหารประเภทนมน่ะมันจะสามารถรักษาโรคได้ขนาดนี้ทีเดียวหรือ และจำได้ไหมครับ ผมเคยเล่าให้ฟังเสมอๆ ว่า ผลิตภัณฑ์นมนั้นต้องมี อย. และหากจะดูว่า เอกสารโฆษณาชิ้นใดได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง มันจะต้องมีตัวอักษร ” ฆอ ” พร้อมตัวเลขแสดงลำดับที่การได้รับอนุญาตแสดงให้เห็นด้วย แต่ผมก็พลิกคว่ำพลิกหงายดูหลายตลบก็ยังไม่เจอ หรือว่าจะเป็นความมหัศจรรย์อย่างสุดท้ายของผลิตภัณฑ์นี้ที่จะสำแดงให้ผมเห็นก็ได้.....เอวัง

อ่านเพิ่มเติม >

ฉบับที่ 100 กระแสในประเทศ

ประมวลเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 255220 พฤษภาคม 2552หน่อไม้ปี๊บยุคใหม่ อย.รุกเข้มเรื่องความปลอดภัยอย. ออกมาตรการป้องกันปัญหาหน่อไม้ปี๊บไม่ได้มาตรฐาน โดยขอความร่วมมือไปยังส่วนภูมิภาค ให้เร่งกวดขันดูแลควบคู่ไปกับการอบรมให้ความรู้ในด้านเทคโนโลยีการผลิต เนื่องจากหวั่นซ้ำรอยปี 49 ที่มีชาวจังหวัดน่านกว่า 200 ราย ป่วยด้วยอาการอาหารเป็นพิษ “โบทูลิซึม” จากการบริโภคหน่อไม้ปี๊บที่ใช้วิธีการผลิตไม่ถูกต้อง ซึ่งในขั้นแรกนี้จะคัดเลือกจังหวัดที่มีผู้ผลิตหน่อไม้ปี๊บเป็นจำนวนมาก ได้แก่ ชัยภูมิ เชียงราย และจันทบุรี เป็นจังหวัดนำร่อง วิธีเลือกซื้อหน่อไม้ปี๊บที่ได้มาตรฐานง่ายๆ ด้วยตัวเอง คือ ซื้อหน่อไม้ปี๊บที่แสดงฉลากถูกต้อง โดยต้องมีชื่อที่อยู่ผู้ผลิต มีเลข อย. 13 หลัก แสดงส่วนประกอบ ระบุวันเดือนปีที่ผลิตหรือหมดอายุ นอกจากนี้ผู้บริโภคควรนำหน่อไม้ปี๊บมาต้มในน้ำเดือดประมาณ 20 – 30 นาที ก่อนบริโภคเพื่อความปลอดภัย พร้อมทั้งยังช่วยลดความเปรี้ยวของหน่อไม้ลงได้ด้วย22 พฤษภาคม 2552ระวัง มิจฉาชีพออกหลอกลวงเงินแบบขายตรง หาสมาชิกร่วมลงทุนกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพโฆษณาชักชวนประชาชนให้นำเงินมาลงทุนเก็งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และเก็งกำไรจากราคาน้ำมันระหว่างประเทศ ด้วยการชักชวนให้สมัครสมาชิกแอบอ้างการขายสินค้าต่างๆ บังหน้า การหลอกลวงประชาชนในลักษณะดังกล่าว ได้แพร่หลายออกไปในจังหวัดต่าง ๆ มากขึ้น จึงขอเตือนว่า พฤติกรรมเหล่านี้เข้าข่ายการระดมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและเข้าข่ายกระทําความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 จึงแจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อกลุ่มบุคคล หรือนิติบุคคลดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจลักษณะชักชวนประชาชนให้สมัครสมาชิก และร่วมลงทุนซื้อขายสินค้าทางเว็บไซต์ โดยอ้างว่าเป็นบริษัทจากต่างประเทศ และผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนสูงหากแนะนำคนมาสมัครเป็นสมาชิกและซื้อสินค้าทุกเดือน สมาชิกผู้แนะนำจะได้รับเงินค่าแนะนำสมาชิกในอัตราที่สูงด้วยเช่นกัน ข้อสังเกตคือ ธุรกิจประเภทนี้จะไม่ได้มุ่งเน้นการขายสินค้า แต่มีลักษณะเป็นการระดมเงินจากประชาชน และจัดคิวเงินโดยนำเงินของสมาชิกรายใหม่มาจ่ายหมุนเวียนให้กับสมาชิกรายเก่าต่อกันไปเรื่อยๆ เมื่อไม่สามารถหาคนมาเป็นสมาชิกเพิ่มหรือหาคนมาร่วมลงทุนเพิ่ม จะไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนได้อีก จากนั้นจะปิดบริษัทหนีไป ซึ่งอาจทำให้ประชาชนที่ไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ได้รับความเสียหายจากการนำเงินไปลงทุน และสมัครสมาชิกกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวหากพบพฤติกรรมเหล่านี้ ให้แจ้งที่กลุ่มป้องปรามการเงินนอกระบบ โทร. 0-2273-9021 ต่อ 2627-35 หรือ ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ โทร. 1359 หรือ ตู้ปณ.1359 ปณจ.บางรัก กรุงเทพฯ 10500 หรือ www.mof.go.th/fincrime2004 สํานักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร 02-831-9888 หรือ www.dsi.go.th กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี สํานักงานตํารวจแห่งชาติ โทร. 0-2237-1199 โทรสาร 0-2234-6806 หรือ www.ecotecpolice.com สํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โทร.1166 หรือ www.ocpb.go.th สํานักงานสรรพากรพื้นที่จังหวัดในท้องที่เกิดเหตุ และสถานีตํารวจท้องที่เกิดเหตุทุกแห่งเครื่องทำน้ำเย็นใน ร.ร. กทม.ต้องปลอดตะกั่วกทม.ห่วงใยอนามัยนักเรียน เร่งตรวจเครื่องทำน้ำเย็นและคุณภาพน้ำดื่มในโรงเรียนต้อนรับเปิดเทอม โดยจัดดำเนินการภายใต้โครงการ “โรงเรียนกรุงเทพมหานคร น้ำดื่มปลอดสารตะกั่ว” ซึ่งจะเดินหน้าตรวจดูแลและป้องกันสารตะกั่วปนเปื้อนในน้ำดื่มจากเครื่องทำน้ำเย็นตามโรงเรียนที่อยู่ในสังกัดของกทม.จำนวน 435 แห่ง การปนเปื้อนของสารตะกั่วในเครื่องทำน้ำเย็น อาจเกิดจากการบัดกรีด้วยตะกั่ว ตามจุดหรือบริเวณที่มีโอกาสสัมผัสน้ำดื่ม เช่น บริเวณมุมขอบภายในของเครื่อง การเชื่อมถังน้ำดื่ม การขึ้นรูปเครื่องทำน้ำเย็นส่วนที่เก็บน้ำ การเชื่อมลูกลอยกับก้านส่วนที่สัมผัสกับน้ำดื่ม หากพบเครื่องลักษณะดังกล่าวต้องรีบเปลี่ยนทันทีเพื่อความปลอดภัยของนักเรียน  27 พฤษภาคม 2552สเต็มเซลล์ไม่ผ่าน อย. ผิดกฎหมาย ใครใช้ ใครผลิต มีสิทธิติดคุก!น.พ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ออกแถลงข่าวเตือนผู้บริโภค ว่าอย่าหลงเชื่อคำโฆษณา หรือคำอวดอ้างสรรพคุณเรื่องการรักษาโรคของสเต็มเซลล์และผลิตภัณฑ์จากสเต็มเซลล์ เนื่องจากเป็นยาตามกฎหมายการผลิตและนำเข้าต้องได้รับการอนุญาตจาก อย.จากกรณีที่มีข่าวว่าโรงพยาบาลและสถานพยาบาลเอกชนบางแห่ง เปิดให้บริการรักษาโรคด้วยสเต็มเซลล์ โดยที่ไม่ได้ผ่านการรับรองจาก อย. รวมทั้งความเข้าใจที่ผิดในกรณีที่ว่า หากใช้สเต็มเซลล์โดยแพทย์ที่รักษาเฉพาะรายไม่จำเป็นต้องผ่าน อย. นั้น ไม่เป็นความจริง น.พ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี กล่าวชี้แจงว่า สเต็มเซลล์และผลิตภัณฑ์จากสเต็มเซลล์ทุกชนิด ทั้งเพื่อการรักษา หรือป้องกันโรคของมนุษย์หรือมุ่งหมายให้เกิดผลแก่สุขภาพใดๆ จัดเป็นยา ตามพ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 จะต้องขออนุญาตจาก อย. ก่อนทั้งสิ้นรวมทั้งใช้เพื่อการศึกษาวิจัย เช่น การรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคมะเร็ง อัมพาต ต้องมีหนังสือแสดงความรับรอง ผ่านความเห็นชอบให้ทำการวิจัยจากสถาบันที่เกี่ยวข้องนั้นๆ หากมีผู้ใดทำการผลิต ขาย หรือนำเข้าสเต็มเซลล์และผลิตภัณฑ์จากสเต็มเซลล์โดยไม่ได้รับอนุญาต ถือว่ามีความผิด ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท และหากผลิตภัณฑ์ไมได้รับการขออนุญาตจาก อย. ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกินห้าพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ“อย.ควอลิตี้ อะวอร์ด” รางวัลสำหรับผลิตภัณฑ์ปลอดภัยกระทรวงสาธารณสุข นำโดยรัฐมนตรีว่าการประจำกระทรวง นายวิทยา แก้วภราดัย จัดงานมอบรางวัลให้กับผู้ประกอบการที่ดำเนินกิจการได้อย่างมีคุณภาพ มีคุณธรรมและจริยธรรมในการผลิตภัณฑ์และบริการ มีมาตรฐานที่ดีในเรื่องความปลอดภัย รวมทั้งมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยได้ตั้งชื่อผลรางวัลนี้ว่า “อย.ควอลิตี้ อะวอร์ด ประจำปี 2552” หรือ “อย.Quality Award 2009” ภายใต้คำขวัญที่ว่า “คุณภาพ ปลอดภัย ใส่ใจสังคม” การมอบรางวัลในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีแรก แต่จากนี้ไปก็จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ ปี ซึ่งในครั้งนี้มีผู้ประกอบการที่ได้รับการคัดเลือกรวมทั้งสิ้น 22 รางวัล จาก 5 ประเภทผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย ยา เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ วัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือน และผลิตภัณฑ์ชุมชน ซึ่งรายชื่อของ 22 ผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล มีดังต่อไปนี้ 1.บริษัท โชติวัฒน์อุตสาห-กรรมการผลิต จำกัด 2.บริษัท เทพผดุงพร มะพร้าว จำกัด 3.บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) 4.บริษัท ยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) 5.บริษัท วันไทยอุตสาหกรรมการอาหาร จำกัด 6.บริษัท สุรพลนิชิเรฟู้ดส์ จำกัด 7.บริษัท ไอ.พี.แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด 8.บริษัท ขาวละออเภสัช จำกัด 9.บริษัท ไบโอแลป จำกัด 10.บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด 11.บริษัท โรเดีย ไทย อินดัสตรีส์ จำกัด 12.บริษัท องค์การเภสัชกรรม-เมอร์ริเออร์ชีววัตถุ จำกัด 13.บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ แลบบอราทอรี่ แอนด์ เฮลท์แคร์ จำกัด 14.บริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) จำกัด 15.บริษัท ยูนิลีเวอร์ไทย โฮลดิ้งส์ จำกัด 16.บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด 17.บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล แลบบอราทอรี่ จำกัด 18.บริษัท คาวาซูมิ ลาบอราทอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด 19.บริษัท สยามเซมเพอร์เมด จำกัด 20.บริษัท ไบรด์ บิวตี้ แคร์ คอสเมติก จำกัด 21.กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเขาบายศรี และ 22.กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรสามัคคีโพธิ์ประทับช้างฉลาดซื้อชวนมากินเปลี่ยนโลก วารสารฉลาดซื้อ จัดกิจกรรมร่วมรณรงค์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค ภายใต้สโลแกน “กินเปลี่ยนโลก” ร่วมกับกลุ่มกิจกรรม มูลนิธิชีววิถี มูลนิธิสุขภาพไทย โดยใช้ชื่องานครั้งนี้ว่า “สินค้าปลอดสาร อาหารเปลี่ยนโลก..กับคนฉลาดซื้อ” โดยนำกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นการช่วยแนะนำผู้บริโภคให้รู้จักการกินเพื่อสุขภาพด้วยๆ วิธีง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเอง ซึ่งงานนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 52 บริเวณลานที่ว่างใต้สถานีรถไฟฟ้า พญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิงานนี้ได้รับเกียรติจาก นายชัยภัทร เจริญพร ผอ.เขตราชเทวี เป็นประธานเปิดงาน ก่อนจะต่อด้วยกิจกรรมสาธิตการทำข้าวกล้องงอกแบบง่ายๆ ทำได้เองที่บ้าน เรียกว่าทั้งสะอาดและได้คุณค่า ต่อจากนั้นก็เป็นการทำครีมพอกหน้าจากมะขามเปียก ซึ่งทั้งสองกิจกรรมได้รับความสนใจจากผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาในบริเวณนั้นเป็นอย่างมาก ก่อนจะปิดท้ายด้วยการแสดงสนุกๆ จากคณะนักแสดงละครคนหน้าขาว แถมเมื่อจบงานยังมีการแจกพืชผักสวนครัวหลากหลายพันธุ์แบบยกกระถางให้กับคนที่มาร่วมงาน เรียกว่ามางานนี้ได้ทั้งความรู้และยังได้ของติดไม้ติดมือกับบ้านไปด้วยคุณ กิ่งกร นรินทรกุล ณ อยุธยา รองผู้อำนวยการ มูลนิธิชีววิถี กล่าวถึงกิจกรรม “กินเปลี่ยนโลก” ว่า เป็นการร่วมรณรงค์เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินของคนเมืองในปัจจุบัน โดยจะเน้นให้เลือกรับประทานอาหารท้องถิ่นตามฤดูกาล เลิกเดินเข้าตลาดสดใกล้บ้านแทนการเดินเข้าซูเปอร์มาร์เก็ต ยิ่งถ้าสามารถปลูกผักกินเองได้ก็ยิ่งถือเป็นเรื่องดี ซึ่งถ้าเราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคให้เป็นไปดังที่กล่าวมาได้ จะส่งผลดีต่อทั้งสุขภาพตัวเองและยังช่วยสนับสนุนผู้ผลิตรายย่อย ไม่ให้เกิดการผูกขาดของนายทุนรายใหญ่ๆ ในเรื่องการผลิตอาหาร”ใครที่สนใจกิจกรรมร่วมรณรงค์ “กินเปลี่ยนโลก” อยากเป็นอาสาสมัครที่มาร่วมเผยแพร่แนวคิดนี้สู่คนรอบข้าง หรืออยากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของตัวเอง สามารถเข้าไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.food4change.in.th

อ่านเพิ่มเติม >